Don't cry for me Suanlumpini


"ก็มันจริง อย่างเธอน่ะไม่มีวันรักกะหรี่ตลอดไปหรอก ถ้าเลิกทำ เวลาเธอทิ้งพี่ พี่ก็ต้องกลับมาที่นี่ใหม่อยู่ดี"

23.00 น. มุมบนสะพานลอย คลองเตย-สวนลุมพินี

-ภาพบุคคล ซูมเข้า-

หญิงสาว6-7 คน ยืนจับกลุ่มอยู่ในจุดที่มีแสงสว่างจ้า หันหน้าไปด้านถนน ด้านหลังพิงกำแพงสวนลุมพินี สวนสาธารณะที่สร้างขึ้นสมัยรัชกาลที่ 6 ใกล้เข้าไป ชุดเสื้อ-กระโปรงสีเข้มของพวกเธอรัดรูป แต่งหน้าจัด ทุกคนคีบบุหรี่ไว้ในมือ และพวกเธอกำลังโปรยยิ้มให้รถเก๋งคันหนึ่งที่ค่อยๆ ชะลอจอด หญิงสาว 2 คนหายไปในรถเก๋งคันนั้น ภาพรถไกลออกไป...

แชะ!


23.22 น. หลังพระราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 6 ผลงานศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี หน้าประตูใหญ่สวนลุมพินี

-ภาพภูมิทัศน์ พาโนรามา-

กลุ่มเด็กชาย 15-20 คน(ทราบภายหลังว่าเป็นเด็กเร่ร่อน) กระจัดกระจายอยู่ทั่วไปตามแนวสนามหญ้า ลานพระราชานุสาวรีย์ และหน้าประตูทางเข้าสวนลุมพินี ส่วนใหญ่นุ่งกางเกงขาสั้น แต่เมื่อมีชายนุ่งกางเกงขายาวเข้าไปพูดคุยด้วย พวกเขาก็ตามชายที่ว่าไป...ในมุมมืดบริเวณนั้น!

-จุดเดิม ภาพเคลื่อนไหว-

กลุ่มเด็กชายพากันแตกตื่น สับขาวิ่งและร้องเรียกกันเสียงหลง ฝ่ารถและถนนไปอย่างไม่คิดชีวิต หลังจากที่ชายมีอายุในเครื่องแบบสีเขียวขี้ม้าคนหนึ่งเดินเข้ามาในบริเวณนั้น สักครู่ ชายคนดังกล่าวก็ก้าวเลยจุดนั้นไป เด็กๆ เริ่มกลับมาประจำที่เก่า ใจคงยังประหม่า

แชะ!


23.45 น. ตรงข้ามโรงพยาบาลจุฬาฯ

-ภาพบุคคล มากมาย-

มีร้านขายอาหารตามสั่งตั้งอยู่ริมฟุตปาธ มีคนจำนวนหนึ่งนั่งรับประทานอาหาร แต่มีคนจำนวนมากกว่ายืนอยู่บนฟุตปาธ พวกเธอ หญิงสาวคัดสำเนา 23.00 น. แต่เป็นจำนวนที่มากกว่าอย่างเทียบกันไม่ได้

-fade in-

"โฮ้ย! 14 ปีก่อนเยอะกว่านี้อีก เยอะกว่ามาก ขนกันมาเป็นรถตู้ ปล่อยลงมาทีเหมือนพลร่ม เดี๋ยวนี้มันโดนตำรวจจับบ่อย ก็เลยลดลงมากแล้วล่ะ"  ตาแจ้ง คล้ายสี วัย 75 ปี ชาวบ้านจากซอยประเจน ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับสวนลุมพินีเล่าให้ฟัง

"เดี๋ยวนี้มันย้ายไปอยู่สนามหลวง ไปอยู่ซอยนานากันหมดแล้ว อยู่ตรงนี้โดนจับบ่อย ตรงโน้นมันบอกยืนจนขาแข็งก็ตำรวจไม่จับ แล้วยังมีพวกรัสเซีย พวกอินเดียอะไรนี่ด้วย"

เดิม ตาแจ้งเป็นชาวประมง จังหวัดสงขลา ย้ายไปอยู่ซอยประเจนเมื่อ 14 ปีก่อน ทุกวันแกจะต้องเข้าไปนั่งพักผ่อนในสวนลุมพินีเป็นกิจวัตร ได้เพื่อนและได้เห็นความเปลี่ยนแปลงมากมายจากที่นั่น

"เดินไปสวนลุมฯ ตั้งแต่ตีสี่ทุกวัน พวกนั้น (หญิงค้าประเวณี) ยังไม่เลิกเลย มันก็บอกว่าเดี๋ยวนี้แขกหายาก ส่วนใหญ่เป็นพวกที่กลับจากเที่ยวผับ แล้วก็พวกแท็กซี่"

ตีสี่! กำลังจะเช้าวันใหม่ ?

"แถวซอยประเจนนี่ ผู้หญิงบางคนมันเข้างานกะเช้า ยังมีรถเก๋งแวะจอดเทียบถามราคาเลย"

"เป็นไงล่ะ ก็โดนด่าเปิงไปน่ะสิ" ตาแจ้งหัวเราะชอบใจ


-ตัดภาพ สีดำสนิท จับภาพใหม่ โรงแรมแห่งหนึ่ง ย่านสาทร-

24.00 น.

จ่ายค่าโรงแรมที่เคาท์เตอร์ 150 บาท

ภาพ-ในห้องอับและชื้น ระดับจิ้งหรีด กับหญิงสาวสวยจากสวนลุมฯ มีลูกแล้ว

"ค่าตัว 800 บาท ให้เวลา 15 นาที หรือจนเสร็จ ตกลงตามนี้" เธอทำงานประจำที่รัชดา และมีรายได้เสริมจากสวนลุมฯ วันละไม่น้อย

"ไม่แพงหรอก โดนตำรวจจับครั้งหนึ่งก็ไม่เหลือแล้ว"

-ซูมหญิงคนนั้น-

ดวงตาโต ปาดด้วยอายแชโดว์ขลิบม่วง แป้งผัดหนาที่แก้ม จมูกเรียวโด่ง และริมฝีปากอวบอิ่มสีชมพู ผิวเธอขาวนวล

"อย่าชักช้า" เธอปลดกระดุมเสื้อออกทีละเม็ด อวดเผยเนินอกทรงอะร้าอร่าม และเริ่มปลดกระโปรง

แชะ!


สถานีตำรวจลุมพินี บ่ายแก่ๆ วันหนึ่ง ห้องฝ่ายธุรการ

ข้อมูลการจับกุมผู้ค้าประเวณีในเดือนแรกของปี 2547 เป็นหญิง 36 ราย ชาย 3 ราย

"เราจับกันอยู่ประจำ แต่ส่วนใหญ่ก็วิ่งหนีไปได้ อย่างว่า ให้ตำรวจเที่ยวไปไล่จับโสเภณี ให้ไปทำอย่างอื่นจะมีประโยชน์กว่า"

"ไม่มีข้อมูลเรื่องอายุ มีแต่จำนวนที่เราจับกุมได้ ไม่ได้ทำละเอียดขนาดนั้น" เจ้าหน้าที่ตำรวจแจกแจงจากตารางเอ็กเซลล์ หน้าจอคอมพิวเตอร์

แต่ข้อมูลในส่วนที่ตำรวจไม่มีนั้น ชายเฒ่าคนหนึ่งมี และมันเป็นข้อมูลที่ออกมาจากปากและฟันหลอๆ ของแกเอง

ตาแจ้งนั่งอมยิ้ม

"โฮ้ย!" คำอุทานตามแบบของแก "มันมีตั้งแต่ยี่สิบกว่าๆ ไปถึงห้าสิบปีโน่นแหละ มันมีอยู่ 2 พวก คือพวกที่ยืนอยู่ที่นี่อย่างเดียว กับพวกหมอนวดที่มาหลังตู้ปิด พวกหมอนวดนี่มันจะคิดแพงกว่า เพราะว่ามันสวยกว่ากันเยอะ"

"พวกนี้มันมาหาเงิน ไอ้ที่ผัวมันขับมอเตอร์ไซค์มาส่งก็มีเยอะ เห็นอยู่ทุกวัน"

ข้อมูลของตาแจ้งตรงกับคำบอกเล่าของหญิงสาว 800 บาท คนนั้น เธอว่า

"มันมีพวกที่ผัวขับรถมาส่งจริงๆ หลายคนด้วย ไม่รู้ทนอยู่กันได้ยังไง ถ้าเป็นฉัน ฉันเลิกคบกับมันแน่ๆ"

ทั้งที่ตอนนี้ก็ทำงานแบบนี้อยู่แล้ว ?

"มันคนละกรณีกัน เธออธิบาย"

และสำหรับกรณีนี้ ตาแจ้งแกก็ยืนยันว่าเพิ่งมีมากเมื่อไม่กี่ปีหลังมานี้เอง

เกิดอะไรขึ้นที่สวนลุมพินี ? ตามไปดูกันชัดๆ ณ บัดนี้


-Drama Story-

"ผู้ชายขายเมีย"

ในดึกรอบสวนลุมพินี รถจักรยานยนต์และรถยนต์หลายคัน ที่มีผู้ชายเป็นพลขับ นำพาหญิงสาวของตนเข้าประจำจุดเป็นระยะๆ พวกเขาเหล่านี้แท้จริงก็คือสามีของหญิงสาว แต่เพราะอะไรเล่า พวกเขาจึงนำพาพวกเธอมาค้าประเวณีที่นี่ ?

ถ้าใครจะตอบคำถามนี้ด้วยผลสรุปว่า เงิน อย่างเดียว เห็นจะไม่เพียงพอ

ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ และผู้เกี่ยวข้อง ต่างพากันโล่งอกโปร่งใจในจำนวนผู้ค้าประเวณีที่ลดจำนวนลงเรื่อยๆ จากปีก่อนๆ อันอาจหมายว่าการปราบปรามอย่างจริงจังของเจ้าหน้าที่ประสบผลนั้น ดูจะมิใคร่มีผู้ใดรู้สึกสะทกไปกับความเปลี่ยนแปลงบางอย่างของที่นี่ อันจะเห็นได้ชัดเจนในยามที่รถตำรวจวิ่งผ่านใกล้บริเวณย่านค้าประเวณี รถจักรยานยนต์หลายคันจะโฉบเข้าไปรับหญิงสาวของตนออกไปจากจุดจับกุม ก่อนที่จะวนกลับมาใหม่เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจผ่านพ้นไป ซึ่งนั่น มิใช่การแสดงหน้าที่ของสุภาพบุรุษที่ดีแน่ๆ หากน่าจะเป็นปรากฏการณ์ แมงดากลายพันธุ์ มากกว่า

เป็นแมงดาแบบที่ไม่ต้องโหด นักเลง ไม่ต้องสั่งสมบารมี เพียงแต่อาศัยการทำธุรกิจแบบ SMEs เข้ามาเป็นคอนเซ็ป ในการบริหารจัดการภรรยาตน!


ตีหนึ่ง ฝั่งตรงข้ามโรงพยาบาลจุฬาฯ

-จับภาพชายหญิงคู่หนึ่ง-

เธอ หญิงนุ่งสั้นเช่นผู้ค้าประเวณีรายอื่นๆ เพิ่งถูกปล่อยตัวจากการจับกุม และดูเหมือนไม่อยากทำงานต่อ แต่เขา ผู้มิใช่ลูกค้า มีทีท่าไม่ยอมให้เธอผ่านวันนี้ไปโดยง่าย สีหน้าของเขาดูหงุดหงิด ขณะของเธอเหมือนอัดอั้นตันใจ

-fade in-

"มึงได้ใบเสร็จมาแล้วจะกลัวอะไรอีก ไปตอนนี้จะเหลือแดกเหรอวะ"

"แต่หนูกลัวนะพี่"

"กูสิที่มึงต้องกลัว หรือมึงจะลองเหมือนวันนั้น" ไม่มีใครสนใจใคร และไม่มีใครรู้ว่าวันนั้นคืออะไร อากาศตอนตีหนึ่งของกรุงเทพฯ เหน็บหนาว และที่สังเกตเห็นคือเธอคนนั้นมีอาการสั่นสะท้าน

"ก็ถ้าพี่ไม่เล่นม้า.." เธอเปรยเสียงสั่นๆ

"ก็เรื่องของกู เรื่องของมึงมึงทำให้ดีเหอะเหี้ยเอ๊ย" ถ้อยสนทนาทั้งหมดของคนคู่นี้เป็นเรื่องสมมุติ แต่ความจริงก็คือชายผู้นี้มีหนังสือคู่มือแทงม้าเหน็บรักแร้ไว้ตลอด เป็นภาพที่ชัดเจน

และนั่นหรือเปล่า เหตุผลที่อยู่เหนือเงินของคนคู่นี้


-กล้องจับภาพชายหญิงอีกคู่หนึ่ง-

คราวนี้ภาพจริง เสียงจริง!

"เลิกทำอย่างนี้ไม่ได้หรือพี่" ชายหนุ่มอ้อนวอนหญิงสาว ผู้กำลังย่างลงจากรถมอเตอร์ไซค์ที่เขาขับมาส่งในมุมสลัว ริมกำแพงสวนลุมพินี หญิงสาวทำท่าหน่ายระอา

"พี่ไม่หวังฝากชีวิตไว้กับใครหรอก เธอจะหางานอะไรที่ได้เงินดีกว่านี้ มีกินอยู่ทุกวันนี่ก็เพราะพี่นะ"

"พี่ก็พูดอย่างนี้ทุกที" เขาทำท่าอึดอัด

"ก็มันจริง อย่างเธอน่ะไม่มีวันรักกะหรี่ตลอดไปหรอก ถ้าเลิกทำ เวลาเธอทิ้งพี่ พี่ก็ต้องกลับมาที่นี่ใหม่อยู่ดี" ฝ่ายหญิงโบ้ยมือให้ชายหนุ่มขับรถออกไปจากจุดนั้น ขณะเธอเดินตรงเข้าประจำฟุตปาธไม่เหลียวหลัง ชายหนุ่มนั่งมองอยู่บนอานมอเตอร์ไซค์ในมุมมืด

สักครู่ มีรถเก๋งมาจอดเทียบและรับหญิงคนนั้นไป ชายหนุ่มสตาร์ทเครื่อง บึ่งมอเตอร์ไซค์ไปอีกทาง

....................


-คืนที่ 2-3-4 ... เหตุการณ์ซ้ำเดิม เปลี่ยนเฉพาะบทสนทนา-



มีชายหญิงอีกหลายคู่ ทำหน้าที่ดูแลกันอย่างแปลกประหลาดรอบสวนลุมพินี บางคู่พอจะหาข้อสรุปได้ แต่บางคู่ในการกระทำที่เห็นก็มืดมนที่จะหาคำอธิบาย เจ้าของนโยบาย 1 สามี 1 ภรรยา อาจต้องอ้าปากค้าง ถ้าได้ไปพบเจอกรณีเช่นนี้ที่สวนลุมพินี

นั่นเพราะความจริงกำลังบอกกับเราว่า วันนี้ สังคมได้ย่างสู่วิกฤติแห่งวิธีคิดอย่างถึงที่สุดแล้ว

กล่าวเฉพาะสวนลุมพินี แมงดากลายพันธุ์คือรูปธรรมเด่นชัดที่เกิดขึ้น และกำลังอยู่ในช่วงการแพร่ระบาด และจริงหรือไม่ ที่มันจะเป็นโรคคนละสายพันธุ์กับแฟชั่น กิ๊ก ที่กำลังแพร่กระจายในสังคมปัจจุบัน เพราะหาไม่แล้ว เด็กไทยอนาคตอาจมองอวัยวะเพศของตัวเองเป็นเครื่องมือทำเงิน และมองปัญหาเอดส์เป็นเรื่องของชะตากรรม ซึ่งมันยากจะจินตนาการต่อไปได้ว่า ลูกๆ ในยุคหลังของพวกเขา จะเติบโตขึ้นมาอย่างไร

แน่นอน ยังไม่มีกลไกใดๆ เข้าไปแก้ปัญหานี้ !

-ไม่เซ็นเซอร์-

คำถาม ใคร ตอบก็ได้ท้ายเรื่อง
1. แมงดากลายพันธุ์ได้อย่างไร ?
2. แมงดามาจากไหน ?
3. ทำไมจึงคิดว่าโสเภณีควรถูกจับกุมมากกว่าแมงดา ?
4. ปัญหาทั้งหมดนี้ควรแก้ที่บ้าน โรงเรียน โรงพัก หรือวัด ?
5. ลองให้คำจำกัดความของสวนลุมพินี วันนี้ ?

ใครตอบครบทั้ง 5 ข้อแล้ว เชิญตรวจคำตอบที่สวนลุมพินี และควรพกผ้าเช็ดหน้าไปด้วย เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องเศร้า ...เห็นความจริงแล้วอาจต้องซับน้ำตา.

The End

คำสำคัญ (Tags): #โสเภณี
หมายเลขบันทึก: 54538เขียนเมื่อ 14 ตุลาคม 2006 02:08 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 16:06 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

คนชายขอบ ที่ไม่มีทางเลือก ในสังคม หากคิดว่านี่คือปัญหา ทางแก้ไขน่าจะเป็นอย่างไรครับ?

(นึกไม่ออก)

ให้กำลังใจในการเขียนครับ... 

  • สะท้อนสังคมได้ดีมากค่ะ

อ่านมาจนจบแล้วนึกถึงบันทึกที่อ่านมาซักครู่ของ คุณ kraiwuth sricombao   เรื่องยางลบ 3 สี   สอดคล้องกันดีครับ ผมว่าปัญหาไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะคนชายขอบเท่านั้น คนที่อยู่ใจกลางสังคมมีเงิน มีอำนาจ มีชื่อเสียงหลาย ๆ คน ก็มีชีวิตอยู่ในระบอบนี้เหมือนกันครับ

ทางเลือกมีมากกว่า 1 เสมอครับ

เป็นงานเขียนที่ดีมากเลยครับ แต่ความเห็นส่วนตัวของผมแล้ว อยากจะให้ตัดสถานที่ออก หรือไม่ก็เขียนให้ต้องคิดหน่อยครับ

ผมเคยผ่านไปแถวนั้น เห็นแล้วเศร้าใจ อยากจะเขียนแนวนี้เหมือนกัน แต่ติดตรงที่กลัวว่าถ้าเราใส่สถานที่ลงไป จะกลายเป็นการโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้ครับ

ลองสังเกตุดูนะครับ ถ้าข่าวไม่ดีได้ออกสื่อไป ผลของมันจะกลายเป็นตรงกันข้าม กลายเป็นว่าเป็นแรงเสริมให้เยาวชนเกิดการเลียนแบบครับ

เวลาจะออกสื่ออะไรเขาเลยกลัวกันว่าจะเกิดเหตุการณ์ทำนองนี้ขึ้นอีก หลายๆอย่างที่ไม่ดีในสังคมบางครั้งก็ต้องเงียบ หรือไม่ก็ทำแบบทีวีบูรพาครับ

แก้ไขปัญหาแบบเงียบๆ..............

เดินมาถูกทางแล้วครับ และขอเป็นกำลังใจให้ทำงานเขียนแบบนี้เพื่อสังคมของเราต่อไปนะครับ

 

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท