ให้ดูอย่างที่เป็น ให้เห็นอย่างที่มี


เป็นลักษณะของการให้ดูอย่างที่เป็น ให้เห็นอย่างที่มี ไม่มีผักชี ไม่ดีเต็มร้อย

เมื่อ 4 ปีก่อน เวลาเราจะไปขอดูงานที่โรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงกว่าจะได้คิวนานมากหรือไม่ได้คิวเลยเพราะถ้ารอคิวก็คงไม่ได้ไปดูโดยเฉพาะโรงพยาบาลที่ผ่านHA  เราก็คิดว่าเล่นตัวจังเลย แล้วก็เปลี่ยนแนวทางไปดูโรงพยาบาลที่ใกล้จะผ่านแทน ปรากฏว่าได้ผลดีมากเพราะเมื่อยังไม่ผ่านก็ยังมีความใส่ใจสูงมาก และโรงพยาบาลที่ทีมผมไปดูก็ไม่หวงวิชา ก็เลยได้อะไรๆกลับมาเยอะ และก็ตั้งใจไว้ว่าเมื่อเราผ่านHAแล้ว ใครอยากมาดูงานก็จะให้มาดู ใครอยากได้อะไร ดูอะไรก็ให้ตามใจเลย  ในระยะสองปีที่ผ่านมาจากโรงพยาบาลที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักก็กลายเป็นโรงพยาบาลที่เป็นเป้าหมายของผู้มาดูงานทั้งใกล้และไกล เราก็ได้ทำตามเจตนารมณ์เดิมที่ตั้งไว้คือไม่ปฏิเสธ ไม่เก็บตังส์(ยกเว้นค่าอาหารและเบรกในอัตราปกติ) และให้ดูตามแต่ใจผู้ดูจะต้องการ ทำให้เรามีทีมมาดูงานเกือบทุกสัปดาห์  สิ่งที่ตามมาคือพอมีคนมาดูงานมากขึ้น เจ้าหน้าที่ก็จะรู้สึกเหนื่อยเพราะงานประจำก็ต้องทำเท่าเดิมแล้วเพิ่มการต้อนรับทีมดูงานด้วย ผู้ปฏิบัติก็จะเหนื่อยมากขึ้น บางคนก็เริ่มๆบ่น(ดังๆ)ให้ผมได้ยินเหมือนกัน จนเราเองก็ต้องกำหนดเวลาเพื่อสร้างความสมดุลให้กับโรงพยาบาลและเจ้าหน้าที่ ทำอย่างไรให้คนมาดูงานได้มา ทีมงานยังมีความสุขในการต้อนรับทีมดูงานอยู่ ทำให้ผมได้เข้าใจความรู้สึกของโรงพยาบาลที่ผ่านHAรุ่นแรกๆว่าเขาก็ไม่ได้หวงหรือเล่นตัวหรอกแต่ถ้ารับดูงานมากๆเขาจะเอาเวลาไหนไปทำงานของเขาเอง พอไม่ได้ทำงานเต็มที่ ชาวบ้านด่า เขาก็ต้องรับผิดชอบหนีไม่ออก ดังนั้นตอนนี้เราก็กำหนดไว้ว่ารับทีมดูงานสัปดาห์ละ 1 ครั้งเท่านั้น โดยที่เมื่อมีทีมมาดูงานจะไม่มีการเกณฑ์หัวหน้างานมาต้อนรับ เราขอทำตัวกันแบบปกติๆเหมือนตอนที่ไม่มีใครมาดูงาน  คนมาดูงานอาจไม่ได้เห็นสิ่งที่ดีเต็มร้อย ยังเห็นข้อบกพร่องซึงเป็นความเป็นจริงของชีวิตการทำงาน  ใครมีหน้าที่นำเสนอต้อนรับก็ทำไป คนที่ทำงานก็ทำไปตามปกติ หากผู้ดูงานลงไปเรียนรู้กับหน่วยงานเขาก็ยินดีแนะนำแลกเปลี่ยนพูดคุยเต็มที่  ไม่หวง  ดังนั้นเวลาทีมมาดูงานขณะอยู่ในห้องประชุมก็จะมีผมกับทีมศูนย์คุณภาพเท่านั้นขึ้นมากล่าวต้อนรับและเล่าให้ฟังถึงภาพรวมการพัฒนาโรงพยาบาล หากถึงเวลาของทีมไหนทีมนั้นก็ค่อยเข้ามาให้ฟัง เป็นลักษณะของการให้ดูอย่างที่เป็น ให้เห็นอย่างที่มี ไม่มีผักชี ไม่ดีเต็มร้อย จริงๆแล้วโรงพยาบาลบ้านตากเองก็ยังมีจุดที่ต้องพัฒนาอยู่อีกมาก เราเพียงแค่ทำได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น หลายคนในทีมก็เลยคิดว่า ที่เขามาดูงานเราก็อาจเป็นเพราะว่า เราเป็นทางผ่านที่จะไปทางภาคเหนือ มาง่ายอยู่ติดถนนใหญ่ ส่วนโรงพยาบาลต้นแบบที่เด่นๆหลายแห่งอาจจะเข้าไปยาก ก็เลยเลือกมาที่เรา แต่เท่าที่สังเกต(ลึกๆในใจก็อดคิดแบบนั้นไม่ได้) ทีมที่มาดูงานก็สนใจกันดีมาก ใช้เวลาอย่างคุ้มค่า ก็คงเป็นเพราะเขาอยากมาแลกเปลี่ยนจริงๆมากกว่าการเป็นทางผ่าน และก็ได้รับกำลังใจอย่างมากจากอีเมล์ของคุณอุมากร สีทองที่ได้ส่งมาให้อาจารย์หมออนุวัฒน์หลังจากกลับจากการศึกษาดูงานที่โรงพยาบาลบ้านตาก  ดังนี้

เรียนอาจารย์อนุวัฒน์ ที่นับถือ
 
ดิฉันชื่อ อุมากร  สีทอง เป็นพยาบาลไทยที่ไปทำงานที่โรงพยาบาลวังเวียง ประเทศลาว   เมื่อวันที่  26 กันยายน 2548 ที่ผ่านมา ดิฉันพร้อมด้วยทีมงานของโรงพยาบาลวังเวียง, ทีมงานของโครงการช่วยเหลือการปฏิรูปด้านสาธารณสุขแขวงเวียงจันและสะหวันนะเขด โดยความร่วมมือของประเทศเบลเยี่ยม, ทีมงานจากกระทรวงสาธารณสุขของลาว และนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดของแขวงเวียงจัน ทั้งหมดจำนวน 18 คน ได้ไปศึกษาดูงานโรงพยาบาลบ้านตาก  มีวิทยากรหลักคือ นายแพทย์พิเชษฐ์ บัญญัติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลและคุณเกศราภรณ์ ภักดีวงค์ ผู้จัดการศูนย์คุณภาพ ดิฉันก็ขอให้ความเห็นว่าโรงพยาบาลบ้านตาก ถือเป็นมืออาชีพในการรับผู้ศึกษาดูงาน เนื่องจากเหตุผลดังนี้ค่ะ
 
1.
บุคลากร ของโรงพยาบาลสามารถเป็นวิทยากร ประจำหน่วยงานของตนเองได้
2. การจัดตารางการดูงานที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ดูงานได้ค่อนข้างครอบคลุม
3. การนำเสนอกิจกรรมการพัฒนาและรับรองคุณภาพโรงพยาบาล ท่านผู้อำนวยการและผู้จัดการศูนย์คุณภาพ สามารถนำเสนอให้เข้าใจง่าย และสามารถนำไปปฏิบัติได้จริง รวมทั้งหัวหน้าโครงการของดิฉันซึ่งแม้จะฟังภาษาไทยไม่ออก แต่คุณหมอพิเชษฐ์และทีมงานก็อธิบายให้หัวหน้าของดิฉันเข้าใจได้กระจ่างแจ้ง
4. การปฏิบัติงานที่เน้นแก่นของคุณภาพ เรียบง่ายและเป็นประโยชน์กับผู้ป่วย (ไม่เว่อร์ ไม่มีผักชี) ถือเป็นตัวอย่างที่ดี
5. การให้ข้อมูลและเอกสาร Electronic file ซึ่งบางโรงพยาบาลที่ดิฉันเคยได้ศึกษาดูงาน จะหวงเอกสารของตนเองมากด้วยเหตุผลหลาย ๆ อย่าง แต่ที่โรงพยาบาลบ้านตาก ผู้จัดการศูนย์คุณภาพ ไม่หวงเอกสารค่ะ ท่านให้ทุกอย่างที่คิดว่าจะเป็นประโยชน์กับผู้ดูงาน ซึ่งทำให้การดูงานสมบูรณ์ยิ่งขึ้นค่ะ เพราะจะได้ครบทั้ง ดู ฟัง และอ่านคือดูตัวอย่างเอกสาร และนำไปเป็นแนวทาง โดยปรับให้เหมาะกับบริบทของโรงพยาบาล
 
จากการสอบถามทีมงานที่ไปดูงานทุกคนบอกว่า สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง  ดิฉันจึงขอเรียกโรงพยาบาลบ้านตากว่า เป็นมืออาชีพสำหรับการรับศึกษาดูงานพัฒนาคุณภาพโรงพยาบาลจริง ๆ ค่ะ
 
ขอแสดงความนับถือ
 
อุมากร  สีทอง
 
Nurse Trainer and Advisor
Belgian Technical Cooperation
Lao-Belgian Health Project
Support to Health Sector Reform in Provinces of Vientiane and Savannakhet

ในเรื่องการรับผู้ศึกษาดูงานนั้นก็เรียนว่าทางเรายินดีและเต็มใจที่ทีมดูงานให้เกียรติ แต่เนื่องจากอาจไม่ได้รับความสะดวกในเรื่องเวลาเนื่องจากต้องรอคิวก็ต้องขอโทษมา ณ ที่นี้  
หมายเลขบันทึก: 5449เขียนเมื่อ 16 ตุลาคม 2005 16:29 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 14:02 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท