เมื่อวานมีคนถามเกี่ยวกับวิธีลดน้ำหนัก ที่ผมก็ตอบแบบตรงๆ ง่ายๆ ตามความรู้และความเข้าใจ ที่ผมมี
ที่ผมใช้มา ได้ทำแล้ว และได้ผลแล้ว
ดังนี้
คำตอบง่ายๆครับ ผมใช้สมการที่ไม่มีความซับซ้อนใดๆ คือ
น้ำหนัก (โดยเฉพาะส่วนเกิน หรือไขมันสะสมเป็นส่วนใหญ่) = การกินอาหาร - (ลบด้วย) การใช้งาน(รวมถึงการออกกำลังกาย)
ถ้าเราอยากสะสมไขมันก็กินมากๆกว่าที่ใช้งาน
ถ้าใครอยากลดการสะสมก็กินน้อยลงกว่าที่ใช้ในแต่ละวัน หรือจะเพิ่มการใช้โดยการออกกำลังกายเข้าไปอีก
ไขมันที่สะสมลดลงแน่นอน ผมลดลงวันละประมาณ 100 กร้ม ใช้เวลา 6 เดือน ลดได้ 15 กก.
ปัจจุบันผมทานอาหารตามสะดวก ตามความจำเป็นของร่างกาย วันไหนถ้าพบว่าน้ำหนักเกินก็ลดการกินอาหารลงนิดหนึ่ง เดี๋ยวน้ำหนักก็ลงมาเอง
ชั่งน้ำหนักตรวจสอบเมื่อมีโอกาส ทั้งเช้า กลางวัน เย็น ก่อนนอน และหลังตื่นนอน ก่อนทานอาหร และหลังทานอาหาร ทุกวัน
ที่นี้กำลังใจที่จะเอาชนะกิเลสของการอยากกินอาหารจนเกินความจำเป็นมาจากไหน
ผมใช้ความใฝ่ฝันในชีวิต คือ การมีสุขภาพดี ไม่ต้องแบกน้ำหนัก 10 20 หรือ 30 กก. หรือมากกว่า ที่ไม่ใช้และไม่จำเป็น ไปไหนมาไหนสะดวก ใส่เสื้อผ้าตามสบายๆ เป็นแรงผลักดันที่สำคัญ
คือ ผมคิดไม่ออกว่าจะแบกไขมันส่วนนี้ไว้ทำไม ใช้ก็ไม่ได้ใช้ แบกไปตลอดชีวิตให้ได้อะไรนะครับ
ลองคิดดู หรือลองไปแบกข้าวสารสองถัง (30 กก.) หรือถังหนึ่ง (15 กก.) ก็ได้ ไปไหนมาไหนทั้งวัน รวมทั้งต้องใส่เสื้อผ้าคลุมข้าวสารทั้งสองถังนั้นไว้ด้วย ท่านจะรู้สึกอย่างไร
แต่.............
ผมมีเพื่อนร่วมงานท่านหนึ่งท่านบอกผมว่า
ความสุขในชีวิตของท่าน คือ การกินอาหารอร่อยๆ ให้อิ่มแปร้ทุกวัน วันละสามครั้งเป็นอย่างน้อย
ถ้าอย่างนั้น ก็คิดต่างจากผม และก็คงต้องสะสมไขมัน ไม่ต่ำกว่า 30 กก. ไว้จนตายนั่นแหละครับ
ผมชอบคิดตรงๆ ง่ายๆ ทำได้แล้วจึงมาเล่าให้ฟังครับ
(เทคนิครายละเอียดโทรมาคุยได้ครับ)
อิอิอิอิอิอิอิ
ขอบคุณสำสรับการแบ่งปันค่ะ ชัดเจนมากค่ะ
-สวัสดีครับ
-ชอบ ๆ แนวคิดครับ
-ขอบคุณครับ
Our bodies need some (good) fats for lubrication (even cars need lubricating oil ;-)
and also some certain "raw materials for maintenance" (eg. calcium, potasium, iron, vitamin c, ...)
Many medical reports say: it is better to be overweighted but healthy than to be thin but unhealthy.
I am not a nutrition doctor but I would say eat many many things but everything in small amount and as you say eat enough to work for one day -- unless we know we won't have anymore to eat the next days ;-)
ยังไงไขมันก็ไม่หมดหรอกครับ
แต่เก็บไว้ เป็บสิบ 20 กก. น่าจะมากไปครับ ประเทศไทยเรายังมีอาหารให้ทานทุกวัน แบบเหลือเฟือครับ
อิอิอิอิอิอิอิ
ลำบากมากค่ะ ท่านทานนิดเดียวก็อ้วนค่ะ
ก็ทานน้อยลงอีกกว่าที่ใช้ ก็ลดแน่ๆ อิอิอิ
เป็นวิธีที่ตรงไปตรงมามากเลยนะคะ แต่สำหรับคนที่สะสมมาแล้วทีละนิดทีละหน่อยนี่ต้องเข้มข้นมากๆถึงจะทำได้นะคะ พยายามรักษาตัวเองไม่ให้น้ำหนักเกินเกณฑ์อยู่ค่ะ กินน้อยแล้ว แต่ก็ยังใช้พลังงานได้ไม่มากพอที่จะใช้ส่วนเกินให้หมดนะคะ ต้องลดลงไปอีก (กำลังพยายามเรื่อยๆค่ะ) แต่เชื่อเหมือนอาจารย์ว่า ทำได้แน่ค่ะ วิธีนี้
ที่จะทำให้ยากก็ความเคยชินของการบริโภคอาหารที่ไม่จำเป็น ทั้งชนิด ปริมาณและจำนวนครั้ง
ที่อาจใช้หลัก "กินอย่างเป็นไท กินด้วยใจที่รู้ค่า"
"อย่ากินอย่างเป็นทาสของอาหาร และทาสของกิเลส" ก็จะลดความกระวนกระวาย และความเคยชินที่ไม่ถูกต้องลงได้ครับ