รัฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์ นำเที่ยวเมืองสวรรค์
นำเที่ยวเมืองสวรรค์ หรือ รัฐศาสตร์คลายเครียด
โดย:ร.ต.วิทยา อุบลพงษ์ 500/ร
(ขอผู้อ่านโปรดใช้วิจรณญาณในการอ่าน)
แต่ก่อนคนเรายังโง่ (เดี๋ยวนี้ก็ยังโง่) เพราะเชื่อว่าสวรรค์มีจริงๆ ทำให้ผู้เฒ่าผู้แก่ยอมสละวงไพ่ผ่องหันหน้าเข้าวัด ทำบุญทำทานเป็นการใหญ่ แม้แต่ผู้หญิงสาวๆ ก็แอบเข้าไปทำบุญกับพระตอนกลางคืนอยู่เสมอ สถิติคนขึ้นสวรรค์จึงมีจำนวนสูงอย่างน่าใจหาย แต่ปัจจุบันคนเราหันมานิยมทำความชั่วกันเพิ่มขึ้น จึงหาคนขึ้นสวรรค์ยาก เพราะพวกที่เข้าวัดเข้าวาแทนที่จะเอาข้าวไปให้พระ กลับไปเบียดเบียนข้าวพระทุ่นรายจ่ายทางบ้าน ร้ายยิ่งกว่านั้น
เวลากลับออกจากวัดยังเผลอหยิบพระพุทธรูปติดมือไปเสียด้วย ถ้าเอาไปทั้งองค์ไม่ได้ ตัดเอาแค่เศียรก็ยังดี
อย่างไรก็ตาม คนเราก็ยังอยากขึ้นสวรรค์กันอยู่อีก ผมจึงขอเปิดบริการพาคนขึ้นสวรรค์ทั้งเป็นเสียเลย ถ้าสาวๆ ด้วยแล้วไม่คิดมูลค่า เพียงแต่ให้นอนเฉยๆ (นอนอ่านนะครับ) ผมจะทำให้ขึ้นสวรรค์เอง เชื่อมือเถอะเรื่องพรรคนี้
เมื่อผมขายวัวได้หลายยี่สิบกีบแล้ว ผมก็รีบตรงไปที่สถานีปล่อยอาวุธจรวดเขาแหลม อำเภอชัยบาดาล เพราะเห็นมีจรวดตั้งโชว์ไว้ที่ปากทางเข้าสนาม เมื่อผมและคนโดยสารอื่นๆ ขอเช่าจรวดได้แล้ว ผมก็พบตัวเองเบียดเสียด
ยัดเยียดกับคนอื่นคล้ายปลากระป๋อง ดูแล้วเหมือนอะไรๆ ที่เบียดกันตุงไปตุงมาอยู่ในเสื้อยกทรงไม่มีผิดและเพียงชั่วหม้อข้าวเดือด ผมก็พบตัวเองยืนเก้ๆ กังๆ อยู่แถวชมพูทวีป จากเชิงภูเขาหิมาลัย ก็ต่อสามล้อเครื่องไปจอดสนิทบนยอดเขาพระสุเมรุ ซึ่งถือว่าเข้าเขตเทวดาแล้ว ผมถูกพาผ่านภูเขาชนิดเนื้อนมไข่หลายภูเขา ซึ่งเป็นเทือกเขาห้อมล้อมเขาพระสุเมรุ ๗ ชั้น ภูเขาเหล่านี้มีนามตามตำนานว่าเขา ยุคลธร อิสินธร กรวิก สุทัศน์ เนมินทร วินันตกะ และอัศกรรณ ส่วนชาวบ้านเรียกเขาเขียวบ้าง เขาแลนคาบ้าง เขาตาดโตนบ้าง ตามเชิงเขามีเทวดาชาวไร่ ถากถาง ปลูกข้าวโพดกันแทบทุกลูก
สามล้อเทวดาพาผมผ่านเข้าไปในป่าสงวนแห่งชาติของสวรรค์ ซึ่งเรียกว่าป่าหิมพานต์ ซึ่งบัดนี้เตียนโล่งเป็นป่าเสื่อมโทรมแล้วเพราะผู้มีอิทธิพลโค่นเอาไปหมด พอมีเศษๆ ไว้ให้ชาวบ้านเทวดา เผาถ่านวางขายข้างทางบ้างนิดหน่อย
โน่นดูต้นอะไรทางโน้นซิ มีลูกเป็นคน รูปร่างเหมือนผู้หญิงทุกอย่าง แถมแต่ละลูกเป็นหญิงสาวอายุสิบห้า สิบหก สวยร้ายกาจทั้งนั้น ต้นไม้ชนิดนี้เขาเรียกว่า ต้นมักกะลีผล หรือนารีผล ส่วนมากชอบขึ้นอยู่แถวหลังวิก หรือหลังสถานีขนส่ง ที่ใต้ต้นมีพวกวิทยาธรเทวดาชั้นต่ำ กำลังยืนออกันอยู่ พอพวกนารีผลสุกงอมใช้การได้ ต่างก็เข้ายื้อแย่งกันโดยเอาไม้สอยไปชมเชย ถึงกับมีการตีรันฟันแทงให้ปวดหัวตำรวจเทวดาอยู่เสมอ ใครแย่งมาได้แล้วก็ยินดีนัก เข้าอุ้มประคับประคอง พาเหาะกลับไปวิมาน หรือโรงแรมม่านรูดทันที แต่ก่อนนี้ลูกมักกะลีผลสุกขนาดเท่าผู้หญิงอายุ ๒๐ จึงจะสอยเอาไปชมเชย แต่เดี๋ยวนี้สุกขนาดอายุ ๑๓ ถือว่ายังห่ามอยู่ก็สอยเอาไปบ่มกันแล้ว ผมคิดจะเข้าตะลุมบอนกับพวกเทวดาเหล่านั้น เผื่อจะได้เอาไปฝากท่านรองฯสักผล แต่เขาว่าพวกมักกะลีผลสาวสวยนี้ ไม่เป็นของถาวร มีอายุอยู่ได้แค่ ๗ วัน ก็เน่าเปื่อยอันตรธานไป ใครขืนเอาไว้ใช้เกิน ๗ วัน มีหวังเป็นโรคงอมพระราม นี่ถ้าผมเอาไปปลูกที่บ้านสัก ๑ ต้น เห็นทีจะผิดใจกับพ่อผมไม่เว้นแต่ละวันขนาดไม่มีต้นพรรคนี้ ยังอุตส่าห์ผิดใจกันเรื่องคนใช้ตลอดเวลา แต่อย่างไรก็ดีก่อนจะจากไปผมได้กระซิบให้คนเฝ้าป่า ตอนให้ ๒ กิ่ง ขากลับจะเอาไปฝากท่านรองฯให้ได้ คนชอบๆ กัน
เอาละ บัดนี้ผมพาท่านมาถึงบันไดสวรรค์แล้ว เสียงเพลงนางฟ้าก็มีหัวใจดังมาแผ่วๆ ด้วยฝีมือคนธรรพ์ ซึ่งเป็นเทวดาเจ้าสำราญ เพราะวันหนึ่งๆ เอาแต่ดีดสีตีเป่า พร้อมกับทำตาเล็กตาน้อยกับเมียคนอื่นที่ผัวเขาเผลอ ป้องกันตามันเหงา
พอผมมาถึงสวรรค์ชั้นแรกก็พบคฤหาสน์ของท้าววิรูปักษ์ ซึ่งสว่างโพรงเพราะติดไฟแสงจันทร์ไว้ให้นางสนมเก็บแมงดาเวลากลางคืนเป็นที่สังเกต สวรรค์ชั้นแรกนี้ไม่ค่อยน่าดูเท่าไร เพราะยังเป็นช่วงปลายเดือนแต่ก็ยังมีแสงไฟสว่างไสวอยู่โดยทั่วไป ไม่ใช่แสงไฟประดับประดาเฉลิมฉลองอะไรหรอก เป็นแสงไฟที่พวกเทวดาชักขึ้นไปล่อให้แมงดาลง เพราะถึงหน้าฝนพอดี เทวดาบางคนจับแมงดาขาย จนตั้งตัวได้มาจนทุกวันนี้ อย่างอื่นก็ไม่ค่อยมีอะไรนัก เพราะอยู่ในภาวะน้ำมันขึ้นราคา นอกจากจะมีนางฟ้าสวยๆ ซึ่งส่วนมากเป็นเมียเทวดาที่ผัวไปซาอุฯ เดินผ่านไปมาพอให้ใช้สายตาลูบคลำเล่นได้บ้างเท่านั้น พวกเทวดานี่ดีไปอย่าง ไม่ค่อยเจ็บไข้ได้ป่วย บนสวรรค์จึงหาหมอเทวดาชนิดขูดเลือดทำยายาก ผมคิดจะไปเยี่ยมประมุขของสวรรค์ชั้นนี้ แต่พอดีเป็นวันหยุดราชการท่านจึงแอบพาเมียน้อยไปเที่ยวพัทยา คงเหลืออยู่แต่คุณยายเทวดาภรรยาหลวงซึ่งก็นอนยังไม่ตื่น เพราะเมื่อคืนทรงเล่นไพ่กบดำกบแดงกับคุณนายสารวัตรใหญ่เทวดาอยู่จนดึก เลยขึ้นไปอีกชั้นหนึ่งก็ถึงสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ไหนๆ มาแล้วก็ถือโอกาสแวะเยี่ยมประมุขของสวรรค์ชั้นนี้หน่อย จะได้ไม่เสียเที่ยวเพราะเคยเรียนธรรมศาสตร์มาด้วยกัน ผมถูกพาขึ้นไปบนวิมานของพระอินทร์ ซึ่งใหญ่โตโอ่โถงดี ถ้าผมมีอย่างนี้สักวิมานหนึ่งก็คงขายกินไปนานแล้ว ไปเช่าคอนโดอยู่ดีกว่า พอถึงก็พบท่านกำลังนั่งเสวยพระสุธารส รีเจนซี่ อยู่กับเทวดาเจ๊ก ซึ่งเป็นเจ้ามือหวยคนหนึ่ง ปรึกษาถึงงานวันเกิดของพระอินทร์เองว่า จะมีงิ้วกี่โรง เทวดาแขกปักษ์ใต้เสนอให้มีมโนรา เทวดาอีสานผู้รับเหมาเสนอให้มีหมอรำซิ่งรำกลอน เทวดาพ่อเลี้ยงเมืองเหนือเสนอให้มีฟ้อนเล็บ พระอินทร์เองอยากให้มีเต้นรำ และฟลอโชว์ ส่วนบรรดาเมียๆ ของพวกนั้นกำลังสุมหัวกันอยู่ชั้นล่าง คิดหาทางเพื่อให้ได้ของขวัญมากๆ คุณนายเทวดาเป็นคนขี้เกรงใจบอกว่าของขวัญไม่เอาแต่จะเอาเงินสด
ตามตำนานระบุว่า พระอินทร์เป็นเทวดามีพระนิสัยใช้เมียอย่างสุรุ่ยสุร่ายคนหนึ่งเพราะทรงมีพระมเหสีคราวเดียวพร้อมกันถึง ๔ องค์ คือ นางสุธรรมา อดีตนางงามงานเจ้าพ่อ นางสุชาดา ลูกกำนันเทวดา นางสุนันทา ลูกสาวเถ้าแก่ในตลาด และนางสุจิตตรา ครูโรงเรียนราษฎร์ นี่ไม่รวมถึงนางฟ้านางสวรรค์ที่เป็นนางบำเรอชนิดเป่ากระหม่อมอีกนับร้อย ลูกของพระอินทร์จึงมีสถิติสูง พระอินทร์เองต้องเดินไปตามหมอตำแยไม่เว้นแต่ละคืน เฉลี่ยแล้วลูกพระอินทร์ ๒ แม่ ก็ตั้งทีมฟุบอลได้ทีมหนึ่งแล้ว ถ้า ๔ แม่ ก็เล่นฟุตบอลมิตรภาพได้เลยไม่ต้องยุ่งกับลูกคนอื่น
ถัดขึ้นไปหน่อยเป็นสวรรค์ชั้น ปรินิมมิตสวัตตี ซึ่งมีพระผู้เป็นใหญ่ ๒ องค์ คือ พระปรินิมมิตสวัตตี เป็นประมุขฝ่ายเทวดา พระยามาราธิบดี เป็นประมุขของหมู่มาร กำลังกรีฑาทัพเผชิญหน้ากันอยู่ จะบุกกันทันทีเมื่อได้รับมติสนับสนุนจากสหประชาชาติ
สวรรค์ชั้นต่างๆ ที่กล่าวมานี้รวมเรียกว่า สวรรค์ชั้น ”ฉกามาพจร” ซึ่งหมายความว่าเทวดาบนสวรรค์เหล่านี้ยังเกี่ยวข้องกับตัณหาอยู่ เทวดายังมีลูกมีเมียได้ พระสงฆ์องค์เจ้าก็มีเมียได้ และสีกานางฟ้าก็มีผัวเป็นเทวดาได้ นางฟ้าบางคนเดี๋ยวนี้หัวสูงทำตัวเป็นคนนิยมของนอก มีผัวก็ต้องเป็นของนอก คือมีผัวนิโกร นางฟ้าที่มีผัวนิโกรนี่แย่หน่อยเพราะพอนิโกรถอยทัพกลับไปแล้ว แม่พวกนางฟ้าเหล่านี้จะหันมาตอแยกับพวกเทวดาพื้นเมืองอีกไม่ได้ เพราะเครื่องเคราพังยับเยินเสียศูนย์หมด ต้องยกเครื่องฟิตใหม่
ถัดสวรรค์ชั้นนี้ก็เป็นพรหมโลก มีพระพรหมเป็นประมุข พระพรหมนี้ตามศาสนาพราหมณ์ว่าเป็นนักปฏิมากรณ์ผู้สร้างโลก สำเร็จวิศวะฯ จากจุฬาฯ รุ่นแรก พระพรหมมี ๔ หน้า ๔ กร ขี่หงส์เป็นพาหนะ ล่องลอยไปบนสวรรค์
พร้อมร้องเพลงหงส์ทอง คลอไปด้วย การขี่หงส์เป็นพาหนะแทนรถประจำตำแหน่งก็เป็นการดีที่เซฟค่าน้ำมันหลวงไปได้
ต่อมาก็มีพระนารายณ์ ซึ่งเป็นศิษย์เก่าธรรมศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์ (รุ่นหอพัก) สถิต ณ ไวกูณฑ์ ในเกษียรสมุทรใต้สะดือ เอ้ย! เหนือสะดือทะเลน้ำนม ประทับเอาเท้าก่ายหน้าผากอยู่บนหลังพญานาค ชื่อ อนันตนาคราช พระนารายณ์มี ๔ กร แต่ละกรถือ ตรี คทา จักร และสังข์ แต่เดี๋ยวนี้เหลือตรีอันเดียว นอกนั้นขายกินหมดแล้ว เพราะเอาเงินทุ่มเล่นแชร์แม่ชม้อยสุดตัว พระนารายณ์เคยได้รับรางวัลโนเบิลไพรซ์ ทางสันติภาพมาแล้ว เพราะมีหน้าที่ปราบยุคเข็ญในโลกมนุษย์ คราวใดโลกเกิดทุรยุคก็มักแบ่งภาคไปปราบเรียกว่า อวตาร เช่น ปางมัสยาวตารไปปราบท้าวทศกัณฑ์ ซึ่งตั้งตัวเป็นอันธพาลใหญ่ยกทัพไปบุกคูเวต ปางกูรมาวตาร แปลงเป็นเต่าเอาหลังรองรับเขาเนมินธร ซึ่งเทวดาและอสูรใช้เป็นเครื่องมือกวนน้ำอมฤตกลั่นเหล้าเถื่อนแข่งกับรัฐบาล บางแห่งว่าไปปราบอสูรมัจฉาที่คิดทำลายแผ่นดินเชิงเขาพระสุเมรุ โดยทดลองระเบิดนิวเคลียส์ในอากาศ ปางนรสิงหาวตาร ไปปราบหิรัญยักษ์ ซึ่งกำเริบตั้งตัวเป็นแบบพระนิกรหรือพระเณรดำ รับทำพิธีทรงเจ้าเรียกวิญญาณ และพิธีเสริมสิริมงคลหลอกให้คนหลงเชื่อ
ขณะที่ผมไปเยี่ยมคำนับท่าน พระองกำลังใช้แว่นขยายส่องดูพระเครื่องอยู่ เพราะเป็นผู้ชอบเล่นพระ เงินเดือนของพระองค์ออกทีไรเอาไปเช่าพระหมด เหลือไว้ให้พระมเหสีซื้อกับข้าวเพียงเล็กน้อย จึงไม่มีเงินผ่อนรถต้องขี่หงส์แทน พร้อมกับร้องเพลงหงส์คลอไปตลอดทางขณะขี่
ต่อไปก็ถึงพระอิศวร ซึ่งเป็นจอมภูตผีปีศาจ จึงต้องทรงเครื่องแต่งตัวให้ดูน่ากลัวหน่อย ที่คอคล้องด้วยสายสร้อยหัวกะโหลกผี แต่เดี๋ยวนี้ไม่คล้องแล้ว เพราะมีฝีประคำร้อยขึ้นมาแทนรอบคอ พาหนะของพระอิศวรคือโคศุภราช พันธ์อินดูบราซิล พระองค์ให้ อส.ผูกกินหญ้าอยู่ข้างกุฏิ ขืนปล่อยเดี๋ยวหาย เพราะขโมยผู้ร้ายเทวดาชุกชุม ขณะที่ผมไปเฝ้าพระองค์ยังไม่อยู่ เสด็จตามมเหสีซึ่งเป็นนายหน้าขายที่ดินที่เมืองเชียงราย ยังไม่กลับ ผมได้ฝากการ์ดแต่งงานลูกสาวผมไว้ให้
เอาละ ต่อไปก็ถึงสวรรค์ชั้นสุดท้ายของรายการคือ สวรรค์แดนสุขาวดี ชื่อไพเราะประทับใจผมมาก พอผมมาถึงก็ทำให้หวนนึกถึงบรรยากาศเก่าๆ เมื่อครั้งที่ผมเคยอยู่บนสวรรค์ชั้นนี้มานาน เจอมิตรสหายเทวดาเก่าๆ หลายเทวดา โน่นดูโน่นซิ กามนิต กำลังจูงมือวาสิฎฐี ที่กำลังท้องแก่ไปจ่ายตลาด หมู่นี้ดูกามนิตซูบผอมลงไปมาก เพราะกำลังไปเรียนปริญญาโท หลักสูตรเร่งรัดอาทิตย์หนึ่งๆ จึงไม่ค่อยมีเวลาทำงานราชการ โน้นทางโน้นเห็นขบวนแห่ มีการถือผ้าไตรนำหน้าผมเห็นไกลๆ มองไม่ถนัดสอบถามกามนิตได้ความว่า พวกนั้นเป็นขบวนแห่กฐิน ผ้าป่า พอขึ้นสวรรค์มาก็ติดนิสัยทอดผ้าป่า ทอดกฐินอยู่ นี่ถ้าพวกนี้ตกนรกก็คงไปแห่ที่นั่นอีก
ประมุขของสวรรค์ชั้นนี้คือ พระศรีอาริย์ เป็นธรรมศาสตร์บัณฑิตรุ่นแรก ขณะที่ผมไปเยี่ยมคำนับท่านไม่อยู่ ออกไปตระเวนหาเสียงสมัครผู้แทนอีก ๒ ปี ข้างหน้า เมื่อไม่อยู่ก็ไม่เป็นไร ได้แต่ฝากบัตรศิษย์เก่าธรรมศาสตร์ไว้ให้ ๕ โต๊ะ ๕,๐๐๐ บาท ไม่รับคืนโว้ย
สวรรค์แดนสุขาวดีนี้ อุดมไปด้วยสถานระเริงสุขอย่างแท้จริง ทางซ้ายมือเป็นคอฟฟี่ช๊อฟ ขายเหล้าขายเบียร์ ถัดไปเป็นซ่องการพนันของเสี่ยใหญ่ ทางขวาเป็นบาร์ผี ทางโน้นเป็นสถานอาบอบนวดแผนโบราณ สถานบรมสุขเหล่านี้ล้อมรอบไปด้วยกำแพงแก้ว ๗ ชั้น แต่ละกำแพงแก้วนี่ไม่ได้ทำด้วยเพชรนิลจินดาอะไรดอกครับ ทำเป็นกำแพงคอนกรีต ข้างบนมีเศษแก้วแตกเสียบอยู่ กันเทวดาพวกลักเล็กขโมยน้อยเท่านั้น
บนสวรรค์ชั้นนี้มีดอกไม้ชนิดหนึ่ง ซึ่งมีกลีบหอมตลบอบอวลไปถึง ๗ โยชน์ เขาเรียกว่าดอกปาริชาตใครได้ดมแล้ว สามารถรำลึกชาติได้ ผมจึงลองดมดู จึงรู้ว่าชาติก่อนผมเป็นพระเอกลิเก ชาตินี้จึงรูปหล่อหามรุ่งหามค่ำมาจนถึงทุกวันนี้
หลังจากร่วมร้องเพลงขอให้เจ้าภาพจงเจริญ ๓-๔ ตลบแล้ก็ถึงเวลาที่ต้องลากลับโลกมนุษย์ ผมถูกพามาถึงเขตสวรรค์ต่อเขตมนุษย์ มีแม่น้ำชื่อคงคาสวรรค์กั้นอยู่ ซึ่งเวลาเดือนมืดเมื่อเราแหงนหน้าดูบนท้องฟ้าจะเห็นเป็นทางขาวๆ ส่องแสงระยิบระยับ ฝรั่งเรียกว่าทางช้างเผือก ส่วนชาวเชียงใหม่เรียกว่า ถนนช้างม่อย ก่อนกลับจากสวรรค์ลงมา มีนางฟ้าวิ่งตามผมมาข้างหลังองค์หนึ่ง ผมนึกในใจว่า เอาแล้วแม่ใหญ่ที่บ้านเอาผมตายแน่ คราวก่อนไปเชียงใหม่ก็ตามมาคนหนึ่งแล้ว แต่พอหล่อนวิ่งมาถึงกลับยื่นมือให้ผมรับเศษกระดาษพร้อมกับเงิน ๒๐๐ บาท
พลางตะโกนมาที่ผมว่าฝากซื้อหวยด้วย
--------------------------------------------
ความเห็น (1)
สวัสดีค่ะท่านสมหมาย...คนเคยเรียน(จบ)รปม.จุฬาฯค่ะ...อ่านรัฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์ นำเที่ยวเมืองสวรรค์...อ่านไปหัวเราะไป...ขอบคุณท่านร.ต.วิทยา อุบลพงษ์ ด้วยนะคะ... ชอบค่ะรัฐศาสตร์คลายเครียด...