ชื่อผลงาน การศึกษาความสามารถด้านการอ่านคิดวิเคราะห์ ด้วยการจัดการเรียนรู้เทคนิคหมวก
ความคิดหกใบ โดยใช้นิทานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมเป็นสื่อ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
ชื่อผู้เสนอผลงาน นางสาวดอกลักษ์ วรยศ ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะครูชำนาญการ
โรงเรียนวัดราษฎรบำรุง อำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต 2
1. ความสำคัญของนวัตกรรม / วิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ
พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 ได้กำหนดแนวทางในการจัดการศึกษาไว้ใน หมวด 4 มาตรา 23 และ มาตรา 24 ให้สถาบันการศึกษา จัดการศึกษา โดยเน้น“ การใช้ภาษาไทยที่ถูกต้อง ฝึกทักษะกระบวนการคิด การจัดการ การเผชิญสถานการณ์ และการประยุกต์ความรู้มาใช้เพื่อป้องกันและแก้ปัญหา จัดกิจกรรมให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง ฝึกการปฏิบัติให้ทำได้ คิดเป็น ทำเป็น รักการอ่าน และเกิดการใฝ่รู้อย่างต่อเนื่อง ” ( สุวัฒน์ วิวัฒนานนท์ 2550 : 2 ) หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 กำหนดสมรรถนะสำคัญของนักเรียน ซึ่งพัฒนานักเรียนให้บรรลุตามมาตรฐานการเรียนรู้ที่กำหนดนั้น ในข้อ 2 คือ ความสามารถในการคิด เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิดอย่างสร้างสรรค์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และการคิดเป็นระบบ เพื่อนำไปสู่การสร้างองค์ความรู้หรือสารสนเทศ การตัดสินใจเกี่ยวกับตนเองและสังคมได้อย่างเหมาะสม และมาตรฐานการประเมินคุณภาพภายนอกสถานศึกษาได้กำหนดมาตรฐานด้านผู้เรียนมาตรฐานที่ 4 ไว้ว่า “ ผู้เรียนมีความสามารถใน การคิดวิเคราะห์ คิดสังเคราะห์ มีวิจารณญาณ มีความคิดสร้างสรรค์ คิดไตร่ตรอง และมีวิสัยทัศน์ ” สรุปได้ว่า แนวทางในการจัด การศึกษา หลักสูตร และการประเมินคุณภาพในการจัดการศึกษาของชาติ เน้นการพัฒนาคนทั้งด้านการคิดวิเคราะห์ และการอ่าน ซึ่งจากผลการประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.)และจากการทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านการอ่านคิดวิเคราะห์ทั้งในระดับประเทศ 0 -o- net และระดับโรงเรียนที่ผ่านมา พบว่า นักเรียนของโรงเรียนวัดราษฎรบำรุงมีเกณฑ์การประเมินในอยู่ในเกณฑ์ที่ยังต้องได้รับการพัฒนาในด้านการอ่านคิดเคราะห์ ดั้งนั้นบทบาทของ ครูผู้สอนจึงต้องปรับเปลี่ยนวิธีการสอนและหาเทคนิควิธีการจัดการเรียนรู้ที่ช่วยพัฒนาผู้เรียนในด้านทักษะการคิดวิเคราะห์ให้เพิ่มขึ้น
ทักษะการคิด เป็นทักษะขั้นพื้นฐาน ต้องนำไปใช้ในการคิดอื่น ๆ ที่มีความซับซ้อนและยากขึ้น การศึกษาขั้นพื้นฐานจึงให้สถานศึกษาจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มุ่งเน้นให้ฝึกทักษะการคิด การเผชิญหน้าสถานการณ์ การประยุกต์ความรู้มาใช้ป้องกันและแก้ปัญหาโดยใช้การจัดกิจกรรมให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง ฝึกการปฏิบัติให้ทำได้ คิดเป็น ทำเป็น (กระทรวงศึกษาธิการ. 2545 ข : 1–2) สำหรับแนวทางในการจัดกิจกรร มการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการอ่านคิดวิเคราะห์ สามารถทำได้หลายวิธี ซึ่ง กรมวิชาการ (2544 ค : 23) ได้แนะแนวการจัดกระบวนการเรียนรู้ไว้หลายรูปแบบ ได้แก่ การจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน การใช้กระบวนการกลุ่มสัมพันธ์ Story line การจัดการเรียนรู้ด้วยแผนภาพโครงเรื่อง การจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาความคิดโดยการใช้คำถาม เป็นต้น นอกจากวิธีการจัด การเรียนรู้ที่กรมวิชาการแนะนำแล้วพบว่า ยังมีผู้ที่สนใจนำวิธีสอนในรูปแบบต่าง ๆ มาใช้ในงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการอ่านคิดวิเคราะห์ ซึ่งจากการศึกษาวิธีการจัดการเรียนรู้แบบต่าง ๆ พบว่า เทคนิคการจัดการเรียนรู้แบบหนึ่งที่น่าสนใจและเหมาะสมที่จะนำมาใช้ในการสอนอ่านคิดวิเคราะห์ ซึ่งกรมวิชาการได้นำเสนอไว้ในส่วนของการแนะแนวการจัดกระบวนการเรียนรู้ คือ การใช้เทคนิคการคิดแบบหมวกหกใบ เป็นเทคนิคการพัฒนาความคิดโดยการใช้คำถามหลายแบบ ทำให้ผู้เรียนได้ใช้ความคิดเกี่ยวกับเรื่องที่อ่านได้เป็นอย่างดี ซึ่งเน้นกระบวนการคิดที่สามารถเรียนรู้ ฝึกฝน และพัฒนาได้ การคิดด้วยแบบสวมหมวกหกใบ จะช่วยให้ผู้คิดสามารถคิดได้อย่างเป็นระบบ มีขั้นตอน คิดได้อย่างหลากหลาย เอ็ดเวิร์ด เดอ โบโน (Edward De Bono) ผู้คิดค้นเทคนิคดังกล่าว มีแนวความคิดว่าสมองมีระบบที่จัดการตัวมันเองและจากความคิดนี้เขาจึงได้ออกแบบเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสำหรับการคิด คือ เทคนิคการคิดแบบหมวกหกใบ
การใช้เทคนิคการคิดแบบหมวกหกใบนั้นเป็นการส่งเสริมให้ผู้เรียนมีการพัฒนาทางความคิด และสามารถคิดได้อย่างเป็นระบบ โดยใช้สีของหมวกเป็นสัญลักษณ์แทนการคิดหกแบบ ได้แก่ หมวกสีขาว หมวกสีแดง หมวกสีดำ หมวกสีเหลือง หมวกสีเขียว และหมวกสีฟ้า จากผลงานวิจัยของ สุนันทา สายวงศ์ (2544 : บทคัดย่อ) สมันตา วีรกุล (2547 : บทคัดย่อ) พระมหาอำนาจ แสงศรี (2548 : บทคัดย่อ) วิริยา วิริยารัมภะ (2549 : 2549 (2549 : บทคัดย่อ) บุปผา มุคุระ (2549 : บทคัดย่อ) ทัศนีย์ หนูนาค (2550 : บทคัดย่อ) ธารีณี คลังสมบัติ (2525 ( 2550 : บทคัดย่อ) ประยงค์ นุชรอด (2551: บทคัดย่อ) และ ละเอียด ทองสุทธิ (2552 : บทคัดย่อ) พบว่า นักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคหมวกหกใบมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น รวมทั้งนักเรียนมีทัศนคติที่ดีต่อการจัดการเรียนรู้ด้วยเทคนิคดังกล่าว
จากความเป็นมา สภาพปัญหา ความสำคัญของการอ่านคิดวิเคราะห์และเหตุผลดังกล่าวข้างต้นครูผู้สอนจึงได้นำเทคนิคการจัดการเรียนรู้ด้วยหมวกความคิดหกใบ และออกแบบนวัตกรรมโดยใช้นิทานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม เป็นสื่อ เพื่อพัฒนาทักษะด้านการอ่านคิดวิเคราะห์ของนักเรียนให้เพิ่มสูงขึ้น
2. จุดประสงค์และเป้าหมายของการดำเนินงาน
1. เพื่อศึกษาความสามารถด้านการอ่านคิดวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ก่อนและ
หลังการจัดการเรียนรู้ ด้วยเทคนิคหมวกความคิดหกใบ โดยใช้นิทานส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมเป็นสื่อ
2. เพื่อศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ ด้วยเทคนิคหมวกความคิดหกใบ โดยใช้นิทานส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมเป็นสื่อ
เป้าหมายของการดำเนินงาน
เป้าหมายเชิงปริมาณ: กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนวัดราษฎรบำรุง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2555 จำนวน 20 คน
เป้าหมายด้านคุณภาพ: ร้อยละ 90 ของนักเรียนในกลุ่มเป้าหมายมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านการอ่านคิดวิเคราะห์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนไม่น้อยกว่าร้อยละ 5
3. กระบวนการผลิตผลงาน หรือขั้นตอนการดำเนินงาน
3.1 ขั้นวางแผน ( ดำเนินการและวางแผนดำเนินการ ) : Plan
- ศึกษาหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 เกี่ยวกับความสำคัญ ธรรมชาติ/ลักษณะเฉพาะ วิสัยทัศน์คุณภาพของผู้เรียน สาระการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ช่วงชั้น กระบวนการเรียนรู้ การวัดและประเมินผล แหล่งการเรียนรู้และประเภทของสื่อการเรียนการสอน
- วิเคราะห์หลักสูตร ตัวชี้วัดชั้นปี วางแผนการสอนว่าจะใช้นวัตกรรมอะไรมาสอนเพื่อให้สอดคล้องและบรรลุจุดประสงค์
3.2 ดำเนินการตามแผนปฏิบัติการ : Do
ขั้นตอนการสร้างเครื่องมือ
- ดำเนินการสร้างสื่อหนังสือนิทานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม ประกอบการใช้คำถามด้วยหมวกความคิดหกใบ จำนวน 12 เรื่อง นำไปให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบความเที่ยงตรงของเนื้อหา
- จัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ด้วยเทคนิคหมวกความคิดหกใบ โดยใช้หนังสือนิทานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมเป็นสื่อ และนำแผนที่จัดทำขึ้นไปให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบความเที่ยงตรงของเนื้อหา
- ศึกษาวิธีการสร้างแบบทดสอบและดำเนินการสร้างแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบปรนัยชนิด 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ เพื่อนำไปใช้ในการทดสอบก่อนเรียน - หลังเรียน
- นำแบบทดสอบที่สร้างขึ้นไปให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจหาความเที่ยงตรงของเนื้อหา
- ศึกษาเอกสารและสร้างแบบสอบถามความคิดเห็น และนำไปให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบความเที่ยงตรงของเนื้อหา
ขั้นตอนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยเทคนิคคำถามหมวกความคิดหกใบ
ขั้นตอนการจัดกิจกรรมเพื่อพัฒนาความสามารถด้านการอ่านคิดวิเคราะห์ของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยกำหนดขั้นตอนการจัดการเรียนรู้ดังนี้
1. ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน
ครูชี้แจงจุดประสงค์การเรียนรู้ จัดกิจกรรมเพื่อเตรียมความพร้อมด้านการอ่านและให้ความรู้ พื้นฐานเกี่ยวกับการอ่านคิดวิเคราะห์
2. ขั้นดำเนินการสอน
2.1 ขั้นนำ ครูกระตุ้นความสนใจของนักเรียนเพื่อเชื่อมโยงเข้าสู่เรื่องการคิดแบบหมวกหกใบโดยใช้หมวกกระดาษ
2.2 ขั้นชี้แจงรายละเอียด ครูแนะนำหมวกทั้งหกสี พร้อมทั้งอธิบายลักษณะคำถามที่สัมพันธ์กับหมวกแต่ละสีโดย ยกตัวอย่างประกอบ
2.3 ขั้นสาธิต ครูยกตัวอย่างและถามคำถามที่สัมพันธ์กับหมวกแต่ละสีจากบทอ่าน จากนั้นครูและนักเรียนร่วมกัน ตั้งคำถามและตอบคำถาม โดยการใช้คำถามตามสีของหมวกจนครบทั้ง 6 ใบ
2.4 ขั้นฝึกปฏิบัติ ให้นักเรียนฝึกตั้งคำถามและตอบคำถามตามสีของหมวกจากนิทานที่ครูกำหนดให้พร้อมทั้งบันทึกคำถามและคำตอบลงในใบงาน โดยฝึกฝนให้ครบทั้ง 6 ใบ
2.5 ขั้นหารายละเอียดเพิ่มเติม ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับการตั้งคำถาม โดยอาจ มีการตั้งคำถามหรือเสนอข้อมูลเพิ่มเติมตามสีของหมวก เพื่อความสมบูรณ์และชัดเจน
3. ขั้นสรุป
ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน เพื่อให้ได้สาระสำคัญที่นำไปใช้ประโยชน์ได้
4. ขั้นประเมินผล
ประเมินผลการตั้งคำถามและตอบคำถามตามสีของหมวกด้วยการตรวจผลงานในขั้นฝึกปฏิบัติ
ท้ายแผนการจัดการเรียนรู้
การเก็บรวบรวมข้อมูลผู้ศึกษาดำเนินการตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
1. ทดสอบก่อนเรียน (Pretest) ด้วยแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การอ่าน คิดวิเคราะห์จากนิทาน จำนวน 30 ข้อ
2. ทดลองใช้แผนการจัดการเรียนรู้ด้วยเทคนิคหมวกความคิดหกใบ โดยใช้นิทานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมเป็นสื่อ จำนวน 12 แผน ใช้เวลาทดลอง จำนวน 12 ชั่วโมง
3. ทดสอบหลังเรียน (Posttest) ด้วยแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การอ่าน คิดวิเคราะห์จากนิทาน จำนวน 30 ข้อ
4. ให้นักเรียนทำแบบสอบถามความคิดเห็นที่มีการจัดการเรียนรู้ด้วยเทคนิคหมวกความคิดหกใบ โดยใช้นิทานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมเป็นสื่อ
5. นำคะแนนที่ได้จากแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และผลจากการทำแบบสอบถามความคิดเห็นมาวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อหาค่าทางสถิติ
3.3 การตรวจสอบ ประเมินผล : Check
การวิเคราะห์ข้อมูล
โดยนำผลการทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียน (Pretest) และหลังเรียน (Posttest)
มาดำเนินการหาค่าเฉลี่ย ( ) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) แล้วเปรียบเทียบค่าเฉลี่ย และ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ของผลการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนด้วยการใช้สูตร t – test dependent
3.4 การรายงานผลเพื่อปรับปรุงพัฒนา : Action
- จากการทดสอบก่อนเรียน - หลังเรียน และจากการตอบแบบสอบถามความคิดเห็น ครูนำข้อมูลมาวิเคราะห์สรุปผลการจัดการเรียนรู้ด้วยเทคนิคหมวกความคิดหกใบ โดยใช้นิทานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมเป็นสื่อ สรุปรายงานผลพร้อมนำข้อเสนอแนะในการแก้ไขปรับปรุงไปพัฒนางานในครั้งต่อไป รวมทั้งเผยแพร่ผลงานไปยังเพื่อนครู เครือข่ายสถานศึกษาทั้งในและนอกโรงเรียน และเผยแพร่ไปยังเว็ปไซต์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาเพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในองค์กรวิชาชีพครู
4. ผลการดำเนินงาน / ผลสัมฤทธิ์ / ประโยชน์ที่ได้รับ
ผลการศึกษาพบว่า 1) ความสามารถด้านการอ่านคิดวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้ด้วยเทคนิคหมวกความคิดหกใบ โดยใช้นิทานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมเป็นสื่อ แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 โดยคะแนนหลังการจัดการเรียนรู้สูงกว่าก่อนการจัดการเรียนรู้ 2) นักเรียนมีความคิดเห็นต่อการจัดการเรียนรู้ด้วยเทคนิคหมวกความคิดหกใบอยู่ในระดับเห็นด้วยมาก
ผลสัมฤทธิ์ : ผลจากการศึกษาพบว่า นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ในกลุ่มเป้าหมาย เกินร้อยละ 90 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านการอ่านคิดวิเคราะห์เพิ่มสูงขึ้นเกินร้อยละ 5
ประโยชน์ที่ได้รับ
1. ได้แผนการจัดการเรียนรู้ที่พัฒนาทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้เทคนิคคำถามหมวกความคิดหกใบ ที่มีประสิทธิภาพ และเอื้อต่อการพัฒนาการคิดของผู้เรียน
2. ได้แนวทางสำหรับครูภาษาไทย ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนภาษาไทยเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้เทคนิคคำถามหมวกความคิดหกใบ
5. ปัจจัยความสำเร็จ
1. ผู้บริหาร ให้ความช่วยเหลือ ส่งเสริม สนับสนุนในการจัดกระบวนการเรียนรู้ ตระหนักถึงความสำคัญของการเรียนเพื่อเพิ่มศักยภาพทางการเรียนรู้โดยการพัฒนาสื่อการเรียนรู้และแหล่งเรียนรู้ รวมทั้งสนับสนุนด้านงบประมาณ สร้างบรรยากาศและสภาพแวดล้อมของการทำงานในสถานศึกษาให้เป็นมิตร ให้ขวัญกำลังใจ ทำให้เกิดการขับเคลื่อนกระบวนการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของครูไปสู่การพัฒนากระบวนการจัดการเรียนรู้อันก่อให้เกิดผลต่อการพัฒนาผู้เรียนให้บรรลุตามจุดมุ่งหมายของหลักสูตร
2. ครูผู้สอน มีความตระหนักและเน้นความสำคัญ ในการวิเคราะห์ผู้เรียนและนำผลการวิเคราะห์มากำหนดแนวทางการจัดการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับความต้องการ และธรรมชาติของผู้เรียน มีความตระหนักในความสำคัญของการเรียนที่จะเสริมสร้างศักยภาพนักเรียนให้เกิดการเรียนรู้และเห็นความสำคัญของการอ่าน การคิดวิเคราะห์ มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ แบ่งปันประสบการณ์ในการทำงาน ให้ความช่วยเหลือในการปฏิบัติงาน ให้การยอมรับ ให้ความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ต่อการจัดการเรียนรู้ ชี้ให้เห็นข้อดี ข้อบกพร่องในการทำงาน และมีทัศนคติที่ดีต่อการสอน โรงเรียน และนักเรียน มีความสุขที่จะพัฒนานักเรียนในทุกๆ ด้าน
3. ผู้ปกครองให้ความสำคัญและมีเวลาให้กับบุตรหลานในการร่วมกันพัฒนาความสามารถทางด้านการอ่าน การคิดวิเคราะห์ของนักเรียน ไม่ปล่อยให้โรงเรียนเป็นผู้รับผิดชอบเพียงฝ่ายเดียว อีกทั้งให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวผู้เรียน ให้ความร่วมมือ ให้ความช่วยเหลือ และสนับสนุนในกระบวนการจัดการเรียนรู้ ให้ความร่วมมือแก้ปัญหา ในทิศทางเดียวกัน ทำให้ทราบถึงความคาดหวังของผู้ปกครอง ชุมชน ที่มีต่อโรงเรียนและครู รวมถึงให้ความรู้ที่เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นซึ่งเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการจัดการเรียนรู้ ทำให้นักเรียนได้พัฒนาเต็มศักยภาพ
4. มีระบบการทำงาน คือ มีการวางระบบที่ดี (P) มีการดำเนินงานตามระบบทุกขั้นตอน (D)มีการตรวจสอบระบบ (C) และมีการปรับปรุงแก้ไขระบบ เพื่อนำไปวางระบบที่ดีกว่าเดิมปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง
6. บทเรียนที่ได้รับ ( Lesson Learned ) / ข้อเสนอแนะ
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยเทคนิคหมวกความคิดหกใบ โดยใช้นิทานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมเป็นสื่อ ในการศึกษาครั้งนี้ได้ส่งผลต่อความสามารถด้านการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน ดังนี้
1. นักเรียนมีการปรับปรุงผลงานหรือวิธีคิดของตนเอง ทำให้นักเรียนกล้าคิด รวมทั้งมีความกล้าแสดงความคิดเห็นมากขึ้น
2. นักเรียนยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น และเกิดการคิดที่รอบคอบ กว้างไกล ไม่คิดเพียงด้านเดียว ไม่คิด นอกกรอบ แต่เป็นการใช้เหตุผลในความคิดที่เปิดมุมมองใน หลาย ๆ ด้านทำให้ความคิดนั้นมีประสิทธิภาพ
3. นักเรียนมีทักษะการคิด และสามารถแยกกรอบการคิดออกเป็นด้าน ๆ อย่างชัดเจน
4. นักเรียนแยกแยะข้อเท็จจริงออกจากข้อคิดเห็นได้อย่างถูกต้อง
5. นักเรียนประเมินค่าจากเรื่องที่อ่านได้อย่างเหมาะสม
6. นักเรียนกลุ่มเป้าหมายเกินร้อยละ 90 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านการอ่านคิดวิเคราะห์เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 5 %
ข้อเสนอแนะ
- - -ครูผู้สอนควรศึกษาและฝึกการใช้คำถาม การตอบคำถามโดยใช้หมวกความคิดหกใบจนเกิดความชำนาญ และควรเน้นให้นักเรียนตอบคำถามให้ถูกต้องตามหลักการของเทคนิคหมวกความคิดหกใบ ของ เอ็ดเวิร์ด เดอ โบ โน ( Edward De Bono ) เพื่อให้นักเรียนพัฒนาการตอบคำถามและทักษะการคิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ขั้นการปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยเทคนิคหมวกความคิดหกใบ ครูควรอธิบายความหมายของหมวกแต่ละสีให้ชัดเจน และยกตัวอย่างวิธีการใช้หมวกแต่ละใบ มีการฝึกปฏิบัติตามขั้นตอนเพื่อให้นักเรียนเกิดความคุ้นเคย และสามารถนำเทคนิคการคิดแบบหมวกความคิดหกใบไปใช้ในการฝึกคิดวิเคราะห์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ระหว่างการดำเนินการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน โดยใช้เทคนิคหมวกความคิดหกใบ ครูควรให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด คอยกระตุ้นให้นักเรียนกล้าแสดงความคิดเห็น เน้นให้นักเรียนได้รู้บทบาทหน้าที่ของตนตามสีของหมวกแต่ละใบ และให้นักเรียนได้สับเปลี่ยนบทบาทหน้าที่ฝึกทักษะ การคิดให้ครบทุกสี
- การเสริมสร้างบรรยากาศในการจัดการเรียนการสอน ครูควรให้ความเป็นกันเองเพื่อให้นักเรียนมีความกล้าแสดงออก แสดงความคิดเห็นได้อย่างอิสรเสรี ควรมีการติดตามพฤติกรรมการทำงานกลุ่มของนักเรียนอย่างใกล้ชิด เพื่อให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการปฏิบัติกิจกรรมในทุกขั้นตอนของการเรียนการสอน
- ครูผู้สอนควรเปิดโอกาสให้นักเรียนได้แสดงความคิดอย่างเสรี โดยไม่ควรชี้นำคำตอบให้นักเรียน
- ครูผู้สอนไม่ควรตั้งคำถามหรือกระตุ้นให้นักเรียนคิดเกี่ยวกับหมวกใบใดใบหนึ่งนานจนเกินไป ควรที่จะมีการสับเปลี่ยนให้นักเรียนคิดหมวกใบอื่น อันจะเป็นการสร้างแรงกระตุ้นทางความคิด และไม่ทำให้นักเรียนเกิดความเบื่อหน่าย
7. การเผยแพร่ / การได้รับการยอมรับ / รางวัลที่ได้รับ
การเผยแพร่ผลงาน
1. เผยแพร่ทางเว็ปไชต์ http://www.rdb.ac.th/
2. เผยแพร่ทางเว็ปไชต์ http://www.gotoknow.org/posts/544047
3. เผยแพร่ทางเว็ปไชต์http://www.kroobannok.com/board_view.php?b_id=99841&bcat_id=16
4. เผยแพร่ทางเว็ปไชต์ https://www.facebook.com/profile.php?id
5. เผยแพร่ผลงาน โดยนำไปเสนอผลงานการวิจัยที่มหาวิทยาลัยวไลยอลงกรณ์ ฯ
6. เผยแพร่ในการจัดนิทรรศการวิชาการของโรงเรียน
7. เผยแพร่ในการจัดนิทรรศการวิชาการของเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต 2
8. เผยแพร่ให้คณะกรรมที่มาตรวจเยี่ยมเพื่อรับรองเป็นต้นแบบโรงเรียนในฝัน (โรงเรียนดีประจำอำเภอ) รุ่นที่ 3
การได้รับการยอมรับ / รางวัลที่ได้รับ
- ครูผู้สอนได้รับโล่รางวัลผลงาน/นวัตกรรมที่เป็นเลิศ (Best Practice) กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ในระดับยอดเยี่ยม ประจำปี 2556 จาก สพป. ปทุมธานี เขต 2
- ครูผู้สอนได้รับรางวัลครูผู้สอนดีเด่น กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ประจำปี 2553 จากคุรุสภา
- ครูผู้สอนได้รับรางรางวัลครูเก่ง ประจำปี 2555 จาก สพป. ปทุมธานี เขต 2
- ครูผู้สอนได้รับรางวัลผู้ทำคุณประโยชน์ด้านการศึกษา ของสำนักงาน สกสค. ประจำปี 2556
- ครูผู้สอนได้รับรางวัลหนึ่งแสนครูดี ประจำปี 2554 จากคุรุสภา
- นักเรียนได้รับการยอมรับในเรื่องทักษะการคิดวิเคราะห์และผ่านการประเมินเพื่อรับรองเป็นต้นแบบโรงเรียนในฝัน (โรงเรียนดีประจำอำเภอ) รุ่นที่ 3 เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2556
รางวัลของนักเรียนที่สอนได้เข้าแข่งขันความสามารถด้านภาษาไทยในงานมหกรรมวิชาการ
- เหรียญทอง การแข่งขัน Pop – Up ช่วงชั้นที่ 2
- เหรียญทอง การแข่งขัน Pop – Up ช่วงชั้นที่ 3
- เหรียญเงิน การแข่งขันท่องอาขยาน ช่วงชั้นที่ 2
- เหรียญเงิน การแข่งขันนักอ่านรุ่นเยาว์ ระดับชั้น ป. 4 – 6
- เหรียญเงิน การแข่งขันเขียนเรียงความและคัดลายมือ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 3
- เหรียญทองแดงการแข่งขันการอ่านออกเสียงและจับใจความสำคัญ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 -6
- เหรียญเงิน การแข่งขันเขียนเรียงความและคัดลายมือ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 – 6
- เหรียญทอง การแข่งขันท่องอาขยาน ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 – 6
- เหรียญทองแดง การแข่งขันการอ่านเอาเรื่อง ( อ่านในใจ ) ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 - 3
ไม่มีความเห็น