ดอกเข้าพรรษาตักบาตรดอกเข้าพรรษา วาระแห่งบุญ ขุนเขาบรรพต สระบุรี


ดอกเข้าพรรษาหรือหงษ์เหิน

วัดพระพุทธบาทราชวรวิหาร จ.สระบุรี


หงส์เหิน เข้าพรรษาวาระแห่งบุญ ขุนเขาสุวรรณบรรพต

ชาวอำเภอพระพุทธบาทจะใช้ ดอกเข้าพรรษา ที่เก็บได้จากตามไหล่เขาโพธิลังกาหรือเขาสุวรรณบรรพต เทือกเขาวง และเขาพุ ในเขตอำเภอพระพุทธบาท นำมาจัดรวมกับธูปเทียนเพื่อตักบาตรถวายพระ ใน พิธีตักบาตรดอกเข้าพรรษา และถวายเทียนพระราชทาน ณ วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร พระอารามหลวง สถานที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทอันศักดิ์สิทธิ์ ที่พุทธศาสนิกชนให้ความเคารพบูชา

นี่เป็นการระบุของ ชนัตถ์ นันทปัญญา รองนายกเทศมนตรีเมืองพระพุทธบาท องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มี ขจรศักดิ์ นันทปัญญา เป็นหัวเรือใหญ่ในฐานะนายกเทศมนตรี เป็นการระบุเกี่ยวกับพิธีตักบาตรดอกเข้าพรรษาที่ทางจังหวัดสระบุรีจัดขึ้นทุกปี ซึ่งทางเทศบาลเมืองพระพุทธบาทก็สนับสนุนเต็มที่มาโดยตลอด พิธีนี้ก็มีเรื่องราวแห่งบุญที่น่าสนใจ

ทั้งนี้ ย้อนไปเมื่อครั้งพุทธกาล เมื่อครั้งที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังไม่เสด็จดับขันธปรินิพพาน ก็เคยมีผู้ที่เลื่อมใสศรัทธาใช้ดอกไม้ คือดอกมะลิ ถวายแด่พระพุทธองค์ในระหว่างที่เสด็จบิณฑบาต ขณะที่ชาวอำเภอพระพุทธบาทก็มีประเพณี มีพิธีที่ใช้ดอกไม้ตักบาตรถวายพระสงฆ์ในช่วงวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษาของทุกปี คือ

พิธีตักบาตรดอกเข้าพรรษา ซึ่งปี 2556 พิธีนี้มีการจัดขึ้นในช่วงวันที่ 21-23 ก.ค. วันละ 2 รอบ ช่วงเช้าและบ่าย
ดอกไม้ที่ใช้ในพิธีตักบาตรของที่นี่ถูกเรียกขานว่า ดอกเข้าพรรษา ซึ่งในทางข้อมูลเกี่ยวกับพันธุ์ไม้ นี่คือ ดอกหงส์เหิน (Globba winiti)  เป็นดอกของพืชในวงศ์ขิง ไม้ดอกเมืองร้อนที่เกิดในป่าร้อนชื้นสามารถพบได้ทั้งในประเทศไทย, พม่า, เวียดนาม มักเกิดภายใต้ร่มเงาไม้ใหญ่หรือตามชายป่า โดยจะมีชื่อเรียกต่างกันไปตามแต่ท้องถิ่น เช่น แถบจังหวัดตากเรียกว่า กล้วยจ๊ะก่า, แถบจังหวัดลำพูนเรียกว่า กล้วยจ๊ะก่าหลวง, แถบจังหวัดเชียงใหม่เรียกว่า กล้วยเครือคำ, แถบจังหวัดพิษณุโลกเรียกว่า ก้ามปู, แถบจังหวัดเลยเรียกว่า ว่านดอกเหลือง แถบภาคกลางเรียกว่า ขมิ้นผี หรือกระทือลิง ส่วนที่จังหวัดสระบุรีคือ ดอกเข้าพรรษา



" ไม้ชนิดนี้เป็นไม้ล้มลุก มีลำต้นเป็นหัวประเภทเหง้าแบบมีรากสะสมอาหาร ส่วนของลำต้นเหนือดินคือกาบใบที่เรียงตัวกันแน่นทำหน้าที่เป็นต้นเทียม มักจะขึ้นเป็นกลุ่มกอ และสูงประมาณ 30-70 เซนติเมตร ใบเป็นใบเดี่ยวรูปหอก ออกเรียงสลับซ้ายขวาเป็นสองแถว ส่วนดอกออกเป็นช่อแทงออกมาจากยอดของลำต้นเทียม ดอกไม้ชนิดนี้มีคติความเชื่อไม่ธรรมดา

ดอกหงส์เหิน หรือดอกเข้าพรรษา
ช่อดอกจะมีลักษณะอ่อนช้อยสวยงาม ยาวประมาณ 10-20 เซนติเมตร มีก้านดอกย่อยเรียงอยู่โดยรอบ ประกอบด้วยดอกจริง 1-3 ดอก มีสีเหลืองสดใส คล้ายรูปตัวหงส์กำลังเหินบิน มีกลีบประดับขนาดใหญ่ตามช่อโดยรอบจากโคนถึงปลาย ซึ่งดอกเข้าพรรษาหรือดอกหงส์เหินนี้ แต่ละปีจะออกดอกเพียงครั้งเดียวในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา โดยในพื้นที่อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรีนั้น พบว่ามี 2 สกุลคือ สกุลกระเจียว ซึ่งจะมีดอกเป็นสีขาวหรือสีขาวอมชมพู และสกุลหงส์เหิน ที่มีสีเหลืองสดใส

กับประเพณี และพิธี  ตักบาตรดอกเข้าพรรษา  ของชาวอำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรีนั้น ก็ มีคติความเชื่อที่ว่า...ดอกหงส์เหินหรือดอกเข้าพรรษานี้ เมื่อนำมาใช้ตักบาตรถวายพระจะได้บุญกุศลแรง และจากสีของกลีบประดับที่มีได้หลายสี เช่น สีขาว สีเหลือง สีม่วง แต่ละสีก็จะมีความเชื่อที่แตกย่อยออกไปอีก กล่าวคือ...กลีบประดับที่มีสีขาว หมายถึงความบริสุทธิ์แห่งพระพุทธศาสนา ซึ่งก็จะนิยมใช้ในพิธีตักบาตรดอกเข้าพรรษามาก ขณะที่กลีบประดับสีเหลือง จะหมายถึงพระสงฆ์หรือสีแห่งพระสงฆ์ ส่วนกลีบประดับที่มีสีม่วง ด้วยความที่หาได้ยากที่สุด จึงเชื่อว่าเมื่อใช้ในพิธีตักบาตรดอกเข้าพรรษาจะได้บุญกุศลมากที่สุด แต่ไม่เท่านั้นพิธีตักบาตรดอกเข้าพรรษานี้ เมื่อพระสงฆ์ได้รับบิณฑบาตแล้วก็จะนำดอกไม้นี้ไป 



สักการะรอยพระพุทธบาท  ซึ่งก็เชื่อว่าจะส่งผลให้ผู้ที่ทำบุญตักบาตรได้ขึ้นสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ณ วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร ที่ตำบลขุนโขลน อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี ที่นี่เป็นสถานที่ประดิษฐาน “รอยพระพุทธบาท” อันศักดิ์สิทธิ์ ที่พุทธศาสนิกชนให้ความเคารพบูชา ซึ่งมีความเชื่อในคติชาวลังกาว่าพระพุทธเจ้าได้ประทับรอยพระบาทไว้ 5 แห่ง โดยรอยพระพุทธบาทที่วัดพระพุทธบาทฯแห่งนี้เป็น 1 ใน 5 แห่ง ซึ่งตามประวัติว่าไว้ว่าในสมัยกรุงศรีอยุธยามีคณะพระสงฆ์ไทยเดินทางไปยังลังกาทวีปเพื่อนมัสการรอยพระพุทธบาท และทางพระสงฆ์ลังกาได้ระบุว่าในประเทศไทยเองก็มีรอยพระพุทธบาทอยู่แล้วที่เขาสุวรรณบรรพต จึงได้มีการพยายามสืบค้นหา ซึ่งก็มีการค้นพบรอยพระพุทธบาทนี้ในสมัยสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม

ทั้งนี้การ  ตักบาตรดอกเข้าพรรษา ที่จังหวัดสระบุรี ถือเป็นประเพณีระดับประเทศ และหนึ่งเดียวในโลก ที่แฝงไว้ด้วยความเชื่อเกี่ยวกับบุญ เกี่ยวกับพระพุทธองค์ เป็นอีกหนึ่งงานบุญใหญ่ในช่วงวัน อาสาฬหบูชา-วันเข้าพรรษา

ช่วงวาระสำคัญทางพุทธศาสนาจะเวียนมาอีกครั้งจะที่ไหน จะแบบใด

ที่สำคัญคือเป็น โอกาสบุญ มี โอกาสสำคัญ ชาวพุทธก็อย่าได้หลงลืม "



( ขอบคุณบทความ ดอกเข้าพรรษาฯจากหนังสือพิมพ์เดลินิวส์คอลัมน์ สกู๊ปหน้า 1 )



ชมภาพข่าวในโทรทัศน์ 2 รายการวันนี้แล้ว ก็อยากชวนให้เริ่มปลูกต้นเข้าพรรษหรือหงส์เหินกันไว้บ้างนะคะ ไว้ชมความสวยงามน่ารักหรือนำไปทำบุญที่วัด ตักบาตรเช่นเดียวกับที่จ.สระบุรี ได้ชมการขึ้นไปบนเขาเพื่อไปเก็บดอกเข้าพรรษาเป็นพันธุ์ดอกสีเหลือง และเดี๋ยวนี้มีผู้ปลูกขายมากมายที่สระบุรี ไม่ต้องขึ้นไปเก็บบนเขาเหมือนเมื่อสมัยก่อน ดอกมีหลายสี ที่บ้านปลูกไว้นานแล้วเป็นสีเหลือง คงต้องไปหาพันธุ็็์ดอกยาวสีชมพู และขาวมาปลูกเพิ่ม ปีต่อๆไปได้นำไปตักบาตร ไปวัดได้บ้าง



 


เริ่มปลูกกันนะคะ ดอกเข้าพรรษาหรือต้นหงส์เหิน ปลูกง่ายพอกลีบดอกร่วงแล้วก็จะมีเมล็ด และต้นขึ้นที่เมล็ดเลย เมื่อต้นขึ้นก็นำต้นที่มีหลายต้นบนฝักนั้นไปลงดิน หรือจะแยกหัวก็ได้ ถ้าเมล็ดร่วงลงพื้นก็จะขึ้นต้นใหม่ แล้วต้นก็จะวายเหลือแต่หัวใต้ดินแล้วใกล้เข้าพรรษาก็จะมีต้นขึ้นมาแล้วออกดอกให้ได้ชมช่วงเทศกาลเข้าพรรษาของทุกปี

  ด้วยความปรารถนาดี    กานดา แสนมณี  


หมายเลขบันทึก: 543307เขียนเมื่อ 22 กรกฎาคม 2013 20:55 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 กรกฎาคม 2013 22:31 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

วัดพระพุทธบาทราชวรวิหาร จ.สระบุรี

 

สวยจังเลยคะ

อนุโมทนาบุญด้วยนะคะ

สวัสดีค่ะคุณกานดา...ขออนุโมทนาบุญและชื่นชมความสวยงามของดอกเข้าพรรษาหรือดอกหงส์เหินนะคะ...มีความสุขในวันเข้าพรรษานะคะ

 

 

         ...... ดอกเข้าพรรษสวยงามมาก นะึคะ .... ขอบคุณค่ะ

ดอกเข้าพรรษาสีขาวกับสีม่วง สวยมาก ๆ ค่ะ
มีโอกาสซักปี มาทำบุญตักบาตรดอกไม้ วันเข้าพรรษาที่ จ. ราชบุรี บ้างนะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท