เมื่อเศรษฐกิจอ่อนฤทธิ์ยาชูกำลัง : GREAT THINGS HAPPEN FROM INSIDE


มื่อเศรษฐกิจอ่อนฤทธิ์ยาชูกำลัง

จาก http://www.easy.tc?gwv

5 กรกฎาคม 2013

ดร.วิรไท สันติประภพ

................................................................................................................

ก่อนอ่าน อ่านประวัติ ดร. วิรไท สันติประภพ ก่อนนะครับ

http://www.easy.tc?gww

บุตรชายของ พล ต.อ. ประทิน สันติประภพ อดีตอธิบดีกรมตำรวจและ สว. คนดัง ดร วิรไท เป็นนักเรียนไทยไม่กี่คนในประวัติศาสตร์ชาติไทยที่สามารถหักด่านอรหันต์็็โดยการจบตรีจากเมืองไทยแล้วสามารถเข้าเรียนปริญญาเอกเศรษฐศาสตร์ในมหาวิทยาลัยระดับ Top 5 ของโลก (ไม่รวม Chicago) เขียนวิทยานิพนธ์เรื่องการเปิดเสรีทางการเงินในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Financial Liberization in Southeast Asia) กับ Dwight Perkins นักเศรษฐศาสตร์ระดับ "ตำนาน" อีกคนของ Harvard

.................................................................................................................

ผ่านไปครึ่งปีแล้วนะครับ สำหรับปีแม่ปูขี่งูเล็ก ครึ่งปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกต้องเผชิญกับความผันผวนสูงมาก ใครที่ลงทุนในตลาดหุ้นคงรู้สึกเหมือนกับเล่นรถไฟเหาะตีลังกา ใครที่ลงทุนในทองคำคงรู้สึกเหมือนกับเล่นสไลเดอร์ที่มองไม่เห็นพื้นดิน ประมาณการเศรษฐกิจไทยที่ออกมาใหม่ๆ ทำให้รู้สึกว่าเรากำลังรำวงสาละวันเตี้ยลงๆ ส่วนสถานการณ์การเมืองก็คล้ายกับติดอยู่ในเขาวงกตที่มีกับระเบิดซ่อนไว้หลายจุด

หลายคนคงเห็นคล้ายกันว่า เศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ดูจะไม่สดใสเท่าไหร่ แม้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นเรื่อยๆ เศรษฐกิจญี่ปุ่นเริ่มเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ และความกังวลว่าเศรษฐกิจยุโรปจะล้มละลายได้ลดลงไปมาก สาเหตุสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจไทยดูไม่ค่อยสดใสเท่าไหร่คงเป็นเพราะเศรษฐกิจไทยในช่วงสองปีที่ผ่านมาได้ใช้ยาชูกำลังหลายขนาน ยาชูกำลังเหล่านี้ทำให้คนไทยลันล้ามาได้ต่อเนื่อง ไม่ว่าเศรษฐกิจโลกจะเละแค่ไหนก็ตาม

มาถึงวันนี้ ยาชูกำลังของเศรษฐกิจไทยอ่อนฤทธิ์ลงเรื่อยๆ ทั้งยาชูกำลังสัญชาติฝรั่งและยาชูกำลังแบบไทยไทย สำหรับยาชูกำลังสัญชาติฝรั่งนั้น เราได้รับอานิสงจากยา QE ที่ผลิตโดยธนาคารกลางของประเทศยักษ์ใหญ่ในโลก นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายมากๆ และสภาพคล่องส่วนเกินที่ธนาคารกลางอัดฉีดเข้าสู่ระบบการเงินโลก ส่งผลให้ราคาหุ้น ราคาทองคำ และราคาอสังหาริมทรัพย์ ปรับเพิ่มขึ้นตลอดช่วงสองปีที่ผ่านมา อัตราดอกเบี้ยในตลาดเงินทั่วโลกลดลงต่ำมาก ทำให้ต้นทุนการกู้เงินของรัฐบาลไทยและธุรกิจไทยขนาดใหญ่ต่ำลงมากจนบางคนชะล่าใจว่าอัตราดอกเบี้ยจะต่ำอย่างนี้ตลอดไป

ในวันนี้ยาชูกำลัง QE ที่ไหลเข้าปากคนไทย กำลังจะแปลงสภาพเป็นกรดไหลย้อน แค่ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาเริ่มส่งสัญญาณว่าอาจจะลดการทำนโยบาย QE ลงได้ ก็สร้างความปั่นป่วนให้กับทั้งตลาดหุ้น ตลาดทองคำ และตลาดพันธบัตร แบบที่คนไทยส่วนใหญ่ตั้งตัวไม่ทัน ธุรกิจขนาดใหญ่หลายแห่งต้องยกเลิกการออกหุ้นกู้เพราะอัตราดอกเบี้ยกระโดดขึ้นสูงกว่าที่รับได้ บางบริษัทต้องเลื่อนการออกหุ้นระดมทุนเพราะตลาดหุ้นตกลงแรง ในวันนี้สภาวะอัตราดอกเบี้ยต่ำในระบบการเงินโลกเริ่มที่จะกลับทิศแล้ว แม้ว่าธนาคารกลางของยุโรปและญี่ปุ่นยังจะคงผลิตยาชูกำลัง QE ต่อเนื่อง แต่ยาของญี่ปุ่นและยุโรปไม่ถูกปากถูกใจคนไทย และไม่แรงเท่ากับยา QE ของสหรัฐอเมริกา

ยาชูกำลังต่างชาติตัวที่สอง ที่เราได้รับอานิสงมาต่อเนื่องก็คือยาสัญชาติจีน ในขณะที่เศรษฐกิจตะวันตกอ่อนแอ เศรษฐกิจจีนได้ทำหน้าที่พยุงเศรษฐกิจเอเชีย การส่งออกของไทยไปจีนขยายตัวดีมาโดยต่อเนื่อง นักท่องเที่ยวจีนเข้ามาทดแทนนักท่องเที่ยวชาติอื่นจนเต็มทุกแหล่งท่องเที่ยวในประเทศไทย เมื่อจีนเปลี่ยนผู้นำในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา นักวิเคราะห์ทั่วโลกคาดหวังว่าผู้นำจีนชุดใหม่จะออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่จะช่วยให้เศรษฐกิจจีนกลับมาขยายตัวดีอีกครั้งหนึ่ง ในทางตรงกันข้าม ผู้นำจีนชุดใหม่กลับให้ความสำคัญกับการสร้างความเข้มแข็งและสร้างวินัยให้กับระบบเศรษฐกิจจีน โดยเฉพาะระบบสถาบันการเงิน ยาชูกำลังสัญชาติจีนกำลังจะกลายเป็นยาขม อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ในตลาดเงินจีนกระโดดขึ้นเร็วมาก เพราะรัฐบาลมีนโยบายที่จะใช้อัตราดอกเบี้ยสูงหยุดพฤติกรรมเก็งกำไร และหยุดโครงการลงทุนที่ไม่มีประสิทธิภาพ แม้ว่านักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจีนจะยังขยายตัวได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 7 ในปีนี้ แต่ก็เชื่อว่าธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กในจีนจะถูกกระทบรุนแรง ตัวเลขการส่งออกจากไทยไปจีนในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาก็เริ่มส่งสัญญาณอันตรายแล้ว เพราะติดลบไปถึงร้อยละ 16 จากช่วงเดียวกันของปีที่ก่อน

เมื่อหันกลับมาดูสถานการณ์ภายในประเทศ รัฐบาลไทยได้ใช้ยาชูกำลังและยาม้าหลายประเภท ทั้งยาที่ส่งเสริมให้คนไทยบริโภคเกินจริง แล้วยาประเภทที่กินแล้วฝันดีว่าอนาคตจะสดใสแต่วันนี้ยาชูกำลังขนานหลักๆ เริ่มอ่อนกำลังลง ยาม้าหลายตัวเริ่มส่งผลข้างเคียง ปล่อยสารตกค้างไว้ในร่างกาย ทำให้เศรษฐกิจไทยไหลลงเร็วโดยไม่ได้ตั้งใจด้วย ยาชูกำลังที่ทำให้คนไทยบริโภคเกินจริงมีหลายขนาน ชุดใหญ่ๆ คงหนี้ไม่พ้นโครงการรับจำนำ (หรือรับซื้อ) ข้าวทุกเม็ดในราคาที่สูงกว่าตลาดโลกมาก โครงการรับจำนำข้าวและสินค้าเกษตรอื่นๆ ได้ส่งผลให้เศรษฐกิจชนบทกระชุ่มกระชวยเป็นพิเศษ นอกจากนี้ ค่าแรงขั้นต่ำได้ถูกปรับขึ้นเป็น 300 บาททั่วประเทศ เงินเดือนข้าราชการระดับปริญญาตรีได้เพิ่มขึ้นเป็น 15,000 บาทต่อเดือน รัฐบาลได้เร่งเบิกจ่ายงบประมาณในหลายโครงการ โดยเฉพาะพวกรายจ่ายที่ไม่เกิดประโยชน์ในระยะยาว เช่น การจัดกิจกรรมเปิดงานประชาสัมพันธ์เรื่องต่างๆ การซื้อพื้นที่โฆษณาตามหนังสือพิมพ์ ไปจนถึงการเช่าป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ติดชื่อและรูปของรัฐมนตรี ใครที่ใช้ดอนเมืองโทลเวย์เป็นประจำ คงเห็นด้วยกับผมว่าสินค้าที่มีป้ายโฆษณามากที่สุดคือรัฐบาลไทย

นอกจากมาตรการยาชูกำลังแล้ว รัฐบาลได้ออกมาตรการแบบยาม้าอีกหลายขนาน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจแบบแรงๆ ได้ใจในช่วงสั้นๆ พฤติกรรมรัฐบาลก็เหมือนกับเด็กติดยาม้าทั่วไป นึกแต่ความสนุกไม่ได้นึกถึงผลร้ายที่ตกค้างอยู่ในร่างกายเมื่อยาม้าเริ่มอ่อนฤทธิ์ โครงการรถคันแรกเป็นตัวอย่างที่เห็นชัดเจนที่สุด รัฐบาลกระตุ้นอุตสาหกรรมรถยนต์และการบริโภคได้สำเร็จในช่วงสั้นๆ แต่เมื่อหมดโครงการแล้ว บริษัทผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ไม่รู้จะทำอะไรกับกำลังการผลิตส่วนเกินที่ลงทุนไปแล้ว อุปสงค์ของรถยนต์ใหม่จะชะลอไปอีกหลายปี เพราะโครงการรถคันแรกได้เร่งให้คนที่ตั้งใจจะซื้อรถในอีก 2-3 ปีข้างหน้ามาซื้อในปีที่แล้ว ดีลเลอร์รถยนต์ทั่วประเทศกำลังงงว่าจะจัดการอย่างไรกับรถคันแรกที่คนแห่กันมาจองแต่ยังไม่มารับรถ ส่วนประชาชนที่ซื้อรถคันแรก เพราะคิดว่าเป็นสิทธิ์ที่รัฐบาลให้มากกว่าที่จะคิดถึงผลได้ผลเสียที่เกิดขึ้น เริ่มมีปัญหาเรื่องการผ่อนรถ และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ตามมากับรถยนต์ ใครที่ขอสินเชื่อในโครงการรถคันแรก ก็คงหมดโอกาสที่จะขอกู้เงินซื้อบ้าน (ซึ่งเป็นการลงทุนที่สำคัญต่อชีวิตมากกว่ารถ) ไปอีกหลายปี ในระดับประเทศ ความต้องการพลังงานก็เพิ่มขึ้นเร็วมาก รถติดมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และมีอุบัติเหตุที่เกิดจากนักขับรถมือใหม่เพิ่มขึ้น จนบริษัทประกันวินาศภัยตั้งท่าจะขอขึ้นค่าธรรมเนียมประกันภัยรถยนต์ทั้งระบบในปีหน้า

ปฏิเสธไม่ได้ว่ามาตรการเศรษฐกิจแบบยาม้าได้ทิ้งสารตกค้างไว้ในร่างกายจำนวนมาก นักเศรษฐศาสตร์เกือบทุกสำนักเห็นตรงกันว่าหนี้ครัวเรือนไทยเพิ่มขึ้นเร็วมาก จนเกือบถึงระดับที่จะกระทบต่อการเจริญเติบในระยะยาว หนี้ครัวเรือนได้กลายเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญของประเทศ และจะเป็นตัวถ่วงศักยภาพของเศรษฐกิจไทยในอนาคต ในวันนี้ คนไทยเริ่มกังวลเรื่องรายจ่ายมากขึ้น ซึ่งอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้การบริโภคชะลอตัวลงเร็วกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดไว้ก็ได้

นอกจากโครงการรถคันแรกแล้ว รัฐบาลยังบริหารเศรษฐกิจแบบใช้ยาม้าอีกหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเร่งให้ธนาคารเฉพาะกิจของรัฐปล่อยสินเชื่อ จนธนาคารเฉพาะกิจสองแห่งมีปัญหาหนี้เสียเพิ่มขึ้นเร็วและรัฐบาลต้องช่วยเพิ่มทุน โครงการพักหนี้ดีเพื่อให้คนไทยเอาเงินที่ต้องชำระหนี้มาจับจ่ายใช้สอยก่อน ไปจนถึงกดดันให้ธนาคารแห่งประเทศไทยลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงแรงๆ เพื่อทำให้ค่าเงินบาทอ่อน กระตุ้นการส่งออกและการบริโภคในช่วงสั้นๆ โดยไม่ได้คำนึงถึงผลข้างเคียงในระยะยาวๆ โชคดีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย และคณะกรรมการนโยบายการเงิน ไม่นิยมการเสพยาม้าหาความสุขช่วงสั้นๆ ด้วย มิฉะนั้นแล้วเศรษฐกิจไทยคงจะต้องเผชิญกับความผันผวนและความถดถอยมากกว่านี้มาก

สำหรับยาชูกำลังประเภทที่ยังไม่ได้ออกฤทธิ์ชูกำลังจริง แต่ทำให้คนไทยนอนหลับฝันหวานได้ก็มีอีกหลายรายการไม่ว่าจะเป็นโครงการบริหารจัดการน้ำสามแสนห้าหมื่นล้านบาท ที่วันนี้กลายเป็นฝันค้างของประชาชน และฝันร้ายของรัฐบาลไปแล้ว เพราะศาลปกครองเห็นว่าวิธีใช้ทางลัดของรัฐบาลไม่ชอบด้วยบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ อีกโครงการฝันหวานที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือโครงการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานของประเทศสองล้านล้านบาท ซึ่งมีขนาดใหญ่มาก มีความซับซ้อนมาก และนักวิชาการยังมีข้อกังขาหลายเรื่อง หวังว่ารัฐบาลจะไม่ทำทุกโครงการที่อยู่ในแผนแต่จะเร่งทำเฉพาะโครงการที่จะเกิดประโยชน์ต่อประเทศจริง แสดงได้ชัดเจนว่าคุ้มค่าการลงทุน เพราะถ้ารัฐบาลยืนยันที่จะทำหมดทุกโครงการแล้ว ยาชูกำลังสองล้านล้านบาทนี้ อาจจะทำให้คนไทยฝันร้ายจนหาทางลงจากรถไฟความเร็วสูงไม่ถูกก็ได้

รัฐบาลได้บริหารเศรษฐกิจโดยใช้ยาชูกำลังเป็นหลัก และยาชูกำลังเหล่านี้กำลังอ่อนฤทธิ์ลง รัฐบาลเริ่มติดขัดข้อจำกัดด้านงบประมาณ หนี้สาธารณะ ขาดความสามารถในการนำมาตรการต่างๆ ไปปฏิบัติให้เกิดผลจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพและไม่รั่วไหล รวมทั้งขาดการวางแผนบริหารเศรษฐกิจอย่างเป็นระบบ และคิดยุทธศาสตร์สำหรับระยะยาว ผมเกรงว่าวิธีบริหารเศรษฐกิจของรัฐบาล ได้ส่งผลให้คนไทยเริ่มเสพติดยาชูกำลังเช่นกัน เมื่อมีสัญญาณว่าเศรษฐกิจไทยจะไม่สดใส คนบางกลุ่มได้เริ่มออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ ด้วยยาชูกำลังขนานใหม่ๆ และยาม้าแบบแรงได้ใจ

ในทางตรงกันข้าม ผมเห็นว่ารัฐบาลไม่ควรกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ด้วยมาตรการประเภทยาม้าหรือยาชูกำลัง โดยเฉพาะในช่วงที่รัฐบาลยังเป็นแม่ปูขี่งูแก้แห ไม่สามารถจัดการสารตกค้างจากยาม้าและยาชูกำลังหลายประเภทที่ผ่านมาได้ เศรษฐกิจไทยในวันนี้ยังขยายตัวได้แม้ว่าจะไม่ได้ขยายตัวในอัตราสูงเหมือนกับที่คนไทยบางกลุ่มอยากเห็น แต่เราควรใช้โอกาสนี้สร้างความเข้มแข้งให้เศรษฐกิจไทย เพื่อให้ขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องในระยะยาว ทั้งสหรัฐอเมริกาและจีนได้แสดงตัวอย่างให้เห็นแนวคิดการบริหารเศรษฐกิจแบบสร้างวินัยและสร้างความเข้มแข็ง ทั้งในระดับรัฐบาลและระดับครัวเรือนได้เป็นอย่างดี

หนทางเดียวที่จะสร้างความเข้มแข้งในระยะยาวให้แก่เศรษฐกิจไทยได้ คือต้องปล่อยให้สารตกค้างจากยาม้ายาชูกำลังในร่างกายหมดลง หยุดใช้ยาม้ายาชูกำลังรอบใหม่ และหันมายอมเหนื่อยออกกำลังกายกันอย่างจริงจังครับ

หมายเหตุ : ตีพิมพ์ครั้งแรก คอลัมน์เศรษฐศาสตร์พเนจร น.ส.พ. กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 4 กรกฎาคม 2556


                          ภาพจาก Duke Rangsan http://www.easy.tc?gx2


คำสำคัญ (Tags): #เศรษฐกิจไทย
หมายเลขบันทึก: 542268เขียนเมื่อ 13 กรกฎาคม 2013 12:38 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 กรกฎาคม 2013 09:32 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

สุขภาพที่แข็งแรง ต้องรับประทาอาหารครบ 5 หมู่ พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกาย มีจิตใจผ่องใส ทำอะไรตรงไปตรงมา ไม่ทำอะไรแบบแอบแฝง ประเทศแข็งแรงอย่างยั่่งยืน ต้องไม่ใช้ยาประชานิยมชูกำลังประชาชน

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท