นั่งสรุปแบบสัมภาษณ์งานวิจัยเกี่ยวกับการประเมินผลการกระจายอำนาจ แล้วก็พลอยนึกถึงเรื่องเล่าของ นายกฯ กับปลัดสองสามคนที่ได้ไปสัมภาษณ์ ซึ่งให้ข้อมูล+ความเห็นเกี่ยวกับการกระจายอำนาจหลายเรื่อง แต่นึกถึงเรื่องสำคัญ ๆ ที่เกี่ยวข้องตรง ๆ กับนโยบายการกระจายอำนาจการปกครองของไทยมาสัก 3 เรื่อง
เรื่องแรก จังหวัดในฐานะราชการส่วนภูมิภาคควรทำหน้าที่ตรวจสอบ ติดตาม ประเมินผล และกำกับการทำงานให้เป็นไปตามกฎหมายก็เพียงพอ อย่ามาดึงงบประมาณของ อบต เทศบาล กลับไปกองตรงกลางแล้วขยำเป็นก้อนเดียวเพื่อทำงานตามแนวคิดของผู้ว่าเลย
เรื่องที่สอง รัฐบาลมักอ้างว่า จัดสรรงบประมาณให้ท้องถิ่นเยอะเพียงพอ แต่จริง ๆ เป็นการดึงงบทั้งหมดไปจัดสรรเอง...ในฐานะโครงการพัฒนาพิเศษ งบอุดหนุนเฉพาะกิจ แล้วให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเขียนโครงการขอ พร้อมออกแรงวิ่ง และจ่ายค่าเหนื่อยในการอ่านโครงการให้ผู้มีอำนาจอนุมัติโครงการ
เรื่องที่สาม อะไรที่จัดสรรให้แล้ว ราชการส่วนกลางมักยกให้ขาด เช่น ถนนราดยาง คือให้ไปแล้ว ก็ให้ไปเลย ไปหาเงินซ่อม หาบุคลากรดูแลกันเอาเอง ในขณะที่ของแบบนี้มันซ่อมเองยาก และใช้เงินเยอะ ซึ่งบางที่ก็มีรายได้ไม่พอซ่อม และวิ่งหาเงินงบประมาณไม่เก่งด้วย
เรื่องเล่าทั้งหมดนี้มักลงท้ายที่ว่า ช่วยสะท้อนปัญหาให้หน่อย แต่เขียนให้เพราะ ๆ ด้วยล่ะ
ปล. ได้ยินแล้วก็นึกถึงสิ่งที่ อ.บุษบง Bussabong Chaijaroenwatana บอกว่า ที่ประเทศนี้ทำอยู่มันไม่ใช่การกระจายอำนาจ มันเป็นแค่การแบ่งปันอำนาจจากส่วนกลางมาให้ท้องถิ่นเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้นเอง
ยกเลิกการบริหารส่วนภูมิภาคดีมั้ยท่าน
ในความเห็นส่วนตัว คิดว่า ไม่ดีครับ
ผมคิดว่าควรเร่งปรับราชการส่วนภูมิภาค จากการเป็นหน่วยงานสาขาของกระทรวง กรม ส่วนกลาง ที่คอยทำงานตามที่ส่วนกลางรับมอบหมาย ให้เป็น ผู้ตรวจสอบ ติดตาม ประเมินผล และเป็นที่ปรึกษาในลักษณะผู้เชี่ยวชาญพิเศษของกระทรวงและกรมจากส่วนกลางมากกว่า
ในความคิดผม อยากให้รื้อฟื้น "มณฑลเทศาภิบาล" เพื่อจะได้เป็น หน่วยตรวจสอบ กำกับ ประเมินผล การทำงานในแต่ละพื้นที่ ที่อาจจะมีลักษณะพิเศษในแง่ภูมิศาสตร์ วัฒนธรรม เศรษฐกิจ อะไรอย่างนี้ด้วยซ้ำครับผม