จดหมายถึงครู l หากแม้นจะเป็นเฮือกสุดท้าย
วันพฤหัสบดี ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2556
กราบสวัสดีค่ะครู
หากหมดลมหายใจลงในคืนนี้ก็ขอใช้จดหมายฉบับนี้กราบขอขมาครู เมตตาอโหสิกรรมให้กับลูกศิษย์
วันนี้รู้อยู่แก่ใจว่า “ไม่ผ่าน ไม่รอด”
รับรู้ลึกลงไปอีกว่า “ได้รับการช่วยเหลือแบบสุดกำลังเจ้าค่ะ”
ใจที่ร้อนรน กดไม่ลง เหยียบไม่ได้ แหลมหน้ามาดื้อด้าน ทำให้การทำงาน หนักหน่วงอยู่ในใจ
หนักอึ้งแน่นอก มีช่วงจางคลาย เพียงครูชี้แล้วหันมองเข้าไป แล้วได้ถามว่า “ทำไม ๆ ๆ และทำไม”
สิ่งที่ควรแก้ก็ไม่ได้แกไข แล้วก็ยังทำใหม่เพิ่ม ก็เหลือเพียงรับกรรม
วันนี้ตั้งใจทำอาหาร แล้วค่อยตามครูออกไปทำงาน แต่ด้วย เหมือนคนไข้ที่รับยาไม่ครบขนาด เป็นอาการขาด ๆ เกิน ๆ
มีพลังขึ้นมาตอนที่ครูเมตตาให้ได้เย็บถุงผ้าให้
พอนึกขึ้นได้ ควรจะล้างบาตรให้ครู จึงขอโอกาส แต่ใจหนูก็ยังดิ้นขึ้นมา แล้วก็ไม่ตาม ดู
เช้านี้หนูพลาดตั้งแต่ออกมาช้า ครูเข้ามารอบหนึ่งแล้ว ต้องเข้ามาอีกรอบ
เหมือนที่ครูเคยชี้ พลาดหนึ่ง ไม่ตั้งสติ สอง สาม สี่ จะพลาดตามมา
วันนี้ได้เห็นครูเสียสละทำงานแบบเต็มที่ เป็นภาพคุ้นชินที่ได้เห็น ครูทำเสมอ ๆ ไม่ว่าทำอะไร
ระหว่างที่จิตหนูติดหล่ม อกุศลครูก็ช่วยแคะ
ล่าสุดมีแม่ออกเสียชีวิตกะทันหัน
ครูเมตตาโทรมาเตือน ถ้าไม่แก้ไข จะหนักแล้วจะแย่ตายไป ไปไม่ดี เพราะกรรมหนัก
แต่ใจที่เกิดขึ้นก็ยังแน่น วางสายจากครูนั่งทบทวนกับตนเองแล้วก็ออกมาเดิน
ระลึกว่า คุณด้วยอำนาจกุศลที่ได้สร้างมา ขอใช้เป็นสิ่งบูชาพระพุทธ พระธรรมและพระสงฆ์ ครูและพ่อแม่
หากต้องหมดลมหายใจก็ไม่มีสิ่งใดจะทดแทนพระคุณ
สิ่งชั่วร้ายและไม่ดีทั้งหลายแหล่ที่ทำมาตลอดชีวิต มิได้เกิดแต่การบ่มเพาะสอนสั่งของพ่อ แม่ และครูบาอาจารย์
หากเกิดแต่จิตชั่ว อันเป็นกรรมที่ได้กระทำมา
สิ่งดี ๆ อันเป็นกุศลนั้นแทบจะทั้งหมดเกิดจากการอบรมบ่มเพาะ สอนสั่งของครูบาอาจารย์และพ่อแม่แทบจะทั้งสิ้น
หากชีวิตที่ผ่านมาทำสิ่งใดผิดพลาดไว้กับท่านผู้ใด ขอได้โปรดอโหสิกรรม
สาธุ
ไม่มีความเห็น