เด็กและอันตรายจากสารเคมีและสารพิษในบ้านเรือน
ปัจจุบันมีการใช้งานสารเคมีหรือสารพิษในบ้านเรือนอย่างกว้างขวางไม่ว่าจะเป็น น้ำยาล้างห้องน้ำ น้ำยาถูพื้น น้ำยาฟอกผ้าขาว น้ำยาฆ่าเชื้อรา น้ำยาล้างเล็บ ยาฆ่าหญ้า ยาฆ่าแมลง ยุง มด เหยื่อดักหนูหรือแมลงสาบ ผลิตภัณฑ์กำจัดเห็บหรือหมัดสำหรับสัตว์เลี้ยง สารเคมีสำหรับสระว่ายน้ำ น้ำยาเติมหม้อน้ำรถยนต์ สี กาว เป็นต้น สารเคมีหรือสารพิษเหล่านี้เป็นวัตถุอันตรายที่หากมีการเก็บรักษาหรือใช้งานไม่ถูกต้องจะเป็นอันตรายอย่างมากต่อผู้ใช้งานรวมถึงเด็กที่อาศัยในบ้าน ในแต่ละปีพบว่ามีเด็กอายุต่ำกว่า 6 ขวบ จำนวนมากที่เจ็บป่วยหรือเสียชีวิตจากการได้รับสารพิษที่ใช้งานอยู่เป็นประจำภายในบ้าน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมีสาเหตุมาจากการที่ผู้ปกครองไม่มีการเก็บรักษาสารเคมีและสารพิษเหล่านั้นให้พ้นจากเด็ก
เด็กได้รับสารเคมีและสารพิษได้อย่างไร?
ในแต่ละวัน เด็กมีโอกาสที่จะได้รับสารเคมีหรือสารพิษจากหลายแหล่งทั้งจากในบ้านบริเวณที่เก็บหรือที่มีการใช้งาน ที่โรงเรียน สถานรับเลี้ยงเด็ก สวนสาธารณะ หรือแม้แต่จากสัตว์เลี้ยง โดยพฤติกรรมของเด็กมักจะสัมผัสสิ่งของต่างๆ(ที่อาจปนเปื้อนสารเคมีหรือสารพิษ)และเอามือเข้าปาก การคลานและเล่นบนพื้น สนามหญ้า หรือพื้นที่อื่นๆที่มีการใช้งานสารเคมี หรือสารพิษ ก็เป็นช่องทางการได้รับสารพิษผ่านทางผิวหนังและการหายใจเข้าสู่ร่างกายได้เช่นกัน
จะรู้ได้อย่างไรว่าเด็กได้รับสารเคมีหรือสารพิษ?
หากเด็กสามารถบอกหรือผู้ปกครองสังเกตุเห็นอาการเบื้องต้นดังต่อไปนี้หลังจากมีการสัมผัสสารเคมีหรือสารพิษให้รีบนำตัวพบแพทย์โดยเร็วพร้อมภาชนะบรรจุ(ถ้ามี) อาการปวดหัว (Headaches), เวียนหัว (Dizziness), กล้ามเนื้อกระตุก (Muscle twitching), ความอ่อนแอ กะปลกกะเปลี้ย (Weakness), รู้สึกเสียวแปลบ (Tingling) ทั้งนี้ผลจากการได้รับสารเคมีหรือสารพิษแต่ละอย่างจะมีอาการแสดง อันตราย และความรุนแรงที่แตกต่างกันออกไป
ความปลอดภัยในการป้องกันเด็กจากการได้รับสารเคมีและสารพิษ
คำแนะนำและวิธีปฏิบัติเบื้องต้นสำหรับผู้ปกครองเพื่อความปลอดภัยในการป้องกันเด็กจากการได้รับสารเคมีและสารพิษ ดังนี้
- อ่านฉลากให้เข้าใจก่อนใช้งานและปฏิบัติตามวิธีการใช้งานตามที่ระบุไว้อย่างเคร่งครัด
- ก้มตัวลงคลานเข่าเสมือนเด็กคลานเล่นที่พื้นแล้วมองดูรอบๆเพื่อหาว่ายังมีจุดใดที่อาจเป็นอันตราย
- ปิดฝาภาชนะบรรจุวัตถุอันตรายทุกครั้งเมื่อต้องหยุดใช้งานชั่วคราว เช่น กรณีที่ต้องเดินไปรับโทรศัพท์ หรือเดินไปเปิดประตูบ้านเมื่อมีคนมากดกริ่งหน้าบ้าน เป็นต้น เพื่อให้มั่นใจว่าเด็กจะไม่นำไปเล่นหรือเผลอสัมผัสในขณะที่ผู้ปกครองไม่อยู่
- ปิดภาชนะบรรจุวัตถุอันตรายให้แน่นทุกครั้งภายหลังการใช้งาน
- เก็บวัตถุอันตรายไว้ในบรรจุภัณฑ์เดิม ไม่ถ่ายเทหรือเปลี่ยนไปใส่ภาชนะอื่นที่อาจทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นอาหารหรือเครื่องดื่ม
- ให้ความรู้ความเข้าใจแก่พี่เลี้ยงเด็กเกี่ยวกับอันตรายที่เกิดจากสารเคมีและสารพิษรวมถึงการป้องกันปัญหา
- สอนเด็กให้รู้จักว่าสิ่งเหล่านี้คือ “สารเคมีและสารพิษ” ห้ามแตะต้องเด็ดขาด
- ติดตั้งกลอนหรือสลักป้องกันเด็กในตู้เก็บ
- เก็บวัตถุอันตรายทุกอย่างในบ้านไว้ในตู้และทำการล็อกทุกครั้งเพื่อป้องกันเด็กหยิบมาเล่น
Down Load เอกสาร : household_chem.pdf
Reference :
(1) US EPA 735-K-07-003, Play it Safe: Reduce Your Child's Chances of Pesticide Poisoning, July 2007.
(2) ภาพประกอบจาก Internet : http://www.safelawns.org และ http://healthychild.org
ไม่มีความเห็น