ตอนที่ 12 บ้านหลังใหม่....และน้ำใจชาวบ้านนา


ขบวนเกวียนเคลื่อนตัวช้าๆ ตามจังหวะย่างก้าวของวัวคู่งาม คนขับเกวียนปล่อยให้วัวเดินตามสบายไม่เร่งรีบ

พระจันทร์ข้างขึ้นส่องสว่างมองเห็นทางรอยเกวียนคู่ขนานกันทอดยาวไปข้างหน้า คดเคี้ยวหลบต้นไม้บ้าง หลบจอมปลวกบ้าง จากใกล้ค่อนข้างชัดไกลถัดไปลางเลือน


เสียงกระดิ่งของวัวคู่หน้าดังเป็นครั้งคราว ยามเมื่อมันสะบัดหัวไล่แมลงกลางคืน ที่ตอมตามใบหน้าและศรีษะของมัน เหมือนเป็นสัญญาณให้คู่หลังเดินตาม

เด็กผอมตื่นกลางดึก มองหาแม่ไม่พบเห็นแต่น้องเด็กหญิงอ้วนกลมนอนหลับสนิท เกวียนก็จอดนิ่ง รู้สึกตกใจมาก ผุดลุกขึ้นนั่ง แต่พอได้ยินเสียงหนึ่งเบาๆ ใกล้ตัวก็คลาย


“แม่อยู่นี่” แม่นั่นเอง แม่ยืนอยู่ท้ายเกวียน ในมือมีผ้าขาวม้าโบกไล่ยุงให้ลูกน้อย

“จอดพักวัวน่ะลูก พอวัวหายเหนื่อยก็จะเดินทางต่อ นอนเถอะไม่มีอะไรหรอก”

เด็กน้อยล้มตัวลงนอน และหลับอย่างง่ายดาย


รู้สึกตัวตื่นอีกครั้งหนึ่ง เมื่อได้ยินเสียงคนจำนวนมาก มีทั้งเสียงตะโกน มีทั้งคุยกันเบาๆ

“เกวียนที่ขนของมาจอดด้านนี้นะ” เสียงพ่อนั่นเองที่ตะโกนบอกคนขับเกวียนให้นำเกวียนที่บรรทุกของไปทางบันไดบ้านหลังเล็กหลังหนึ่งที่มีแสงไฟจากตะเกียงหลายดวงสว่างไปทั่วบริเวณบ้าน

“ลงจากเกวียนได้แล้วลูก ถึงบ้านใหม่แล้ว” แม่บอกเมื่อเห็นเด็กน้อยลุกขึ้นนั่ง


“ขยับไปนั่งที่นั่งคนขับก่อนนะ เดี๋ยวแม่จะเอาลงจากเกวียน” ขณะนั้นคนขับเกวียนได้นำวัวทั้งคู่ออกจากเกวียนแล้ว ใช้ไม้ค้ำเกวียนค้ำไว้แทนอย่างมั่นคง แล้วนำวัวไปล่ามในที่ห่างออกไป

เด็กน้อยค่อยๆ คลานออกจากประทุนเกวียนไปนั่งตามที่แม่บอก ส่วนแม่วางผ้าขาวม้าในมือที่คอยปัดไล่ยุงให้ลูกน้อย เอามือช้อนลูกคนเล็กที่กำลังหลับไปวางที่ปากประทุนเกวียน


แม่ลงจากเกวียน แล้วอุ้มเด็กผอมลงมาก่อน จากนั้นหันมาอุ้มเด็กหญิงคนเล็ก แล้วเดินนำเด็กชายไปใต้ถุนบ้าน

“ตื่นแล้วเรอะ แม่ลูก” เสียงพ่อทัก แล้วพูดต่อ “นั่งพักที่แคร่ไม้ไผ่ใต้ถุนบ้านก่อนนะ”

“พ่อจะให้เขาเอาของขึ้นบ้านตอนนี้เลยเหรอ” แม่ถาม


“เอาที่หลับที่นอนเข้าไปในห้องก่อน เด็กๆ จะได้นอนต่ออีกหน่อย เพราะเพิ่งจะตีสาม” พ่อตอบ “ข้าวปลาอาหารเอาวางไว้นอกชาน ที่เหลือไม่ค่อยสำคัญก็เอาไว้ใต้ถุนบ้านก่อน พอแจ้งค่อยเอาขึ้นก็ได้”


“ที่นอนปูไว้แล้วนะครับ ครูอรพินไปขอจากชาวบ้าน แล้วพาเด็กมาปูไว้ให้แล้ว” ชายคนหนึ่งยืนอยู่ใกล้ๆ พ่อพูดขึ้น มาทราบภายหลังว่าเขาเป็นครู ซึ่งได้มานอนรอพ่อตั้งแต่หัวค่ำแล้ว

คนขับเกวียนส่วนใหญ่เป็นหนุ่ม ทำงานกันอย่างรวดเร็ว ช่วยพ่อและครูชายคนนั้นนำสิ่งของไปไว้ตามที่พ่อบอก ไม่นานก็เก็บของจนเรียบร้อย


แม่พาเด็กๆ เข้าไปในห้องที่มีเสื่อปูไว้แล้วจนเต็มพื้นห้อง และมีที่นอนปูเรียบร้อยครบจำนวนคน รวมทั้งพ่อและแม่ด้วย ซึ่งเด็กทุกคนไม่รอช้าต่างเข้านอนตามตำแหน่งที่เคยนอนที่บ้านเดิม

ขบวนเกวียนกลับแล้วไม่รอจนสว่าง คนขับเกวียนบอกว่า ค่อนแจ้งอากาศดี วัวไม่เหนื่อย จะได้กลับถึงบ้านตอนสายๆ แดดยังไม่ร้อน หากรอสว่างจะมีปัญหาตอนแดดจัด ต้องให้วัวพัก ซึ่งจะเสียเวลามาก


แล้วบ้านน้อยหลังใหม่ก็ตกอยู่ในความเงียบ จะมีเพียงเสียงเบาๆ ของพ่อและครูชายนั่งคุยกันที่นอกชานเท่านั้น


เช้าวันรุ่งขึ้น เด็กผอมตื่นทีหลังพี่ๆ เช่นเคย เด็กน้อยงุนงงแปลกที่ สักพักก็นึกได้ รีบลุกขึ้นเดินออกมาจากห้อง มองไปที่หน้าบ้านเห็นอาคารหลังใหญ่หลังหนึ่งไกลออกไปพอวิ่งเหนื่อย อาคารนั้นหันข้างให้บ้าน  เด็กน้อยได้ยินเสียงคนดังมาจากอาคารพอได้ยิน แต่จับใจความไม่ได้


กำลังตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรต่อไป ก็ได้ยินเสียงคนขึ้นบันไดบ้านมา พร้อมกับเรียกชื่อเด็กน้อย

“ไหว...ไหว” แล้วคนเรียกก็โผล่หน้าพ้นบันได พี่ชายตัวสูงนั่นเอง


“แม่ให้มาตาม ไปโรงเรียน” พี่บอกโดยที่ยังยืนอยู่บนบันได

“อ้อ..นั่นโรงเรียนหรือ แม่อยู่นั่นหรือ” เด็กน้อยถามที่เดียวสองคำถาม

“เออ...ไปล้างหน้าก่อน ไป” พี่ชายกำชับแล้วลงบันได


เด็กน้อยรีบลงตาม แล้ววิ่งแซงพี่ชายไปอาคารเรียนโดยไม่ยอมล้างหน้า พี่ชายได้แต่โคลงศรีษะ แล้วเดินตาม

บนอาคารเรียนมีผู้คนมากมาย ทั้งหญิงและชาย ยืนบ้างนั่งบ้าง เขาเหล่านั้นนำอาหารและข้าวเหนียวจำนวนมาก ล้วนแล้วแต่อาหารดีๆ มาให้ครูใหญ่คนใหม่และครอบครัว เป็นอาหารเช้านั่นเอง 

อ่านตอนที่ 13 ครูคนแรก



                       


                             

หมายเลขบันทึก: 539633เขียนเมื่อ 17 มิถุนายน 2013 23:37 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 มิถุนายน 2013 22:33 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

ชาวชนบทไม่ว่ายุคสมัยใด  และแม้ปัจจุบันก็ยังมากด้วยน้ำใจ และให้ความสำคัญกับ " ครู " เสมอมา จะ

ติดตามอ่านตอนที่ 13 จ้ะ

สวัสดีครับ Ico48

ผมยังจำได้แม่นยำ ปู่เนย (ลูกพี่ลูกน้องของปู่ผม) บอกผมว่า หมอกับครูเป็นอาชีพที่ได้บุญกุศลมากที่สุด โดยเฉพาะครู ชาวบ้านรักและเคารพมากกว่าอาชีพใดๆ
ภูมิใจกับท่านที่ได้ชื่อว่า "ครู" ครับ
ขอบคุณครับ จะพยายามเขียนต่อครับ

ขอขอบคุณ

คุณทิมดาบ คุณมะเดื่อ คุณชยันต์ เพชรศรีจันทร์ และคุณนิตยา ที่ให้ดอกไม้เป็นกำลังใจนะครับ


...ที่นี่จะมีหนังเก่าๆหลายเรื่องที่บอกเล่าเรื่องราววิถีชีวิตของคนรุ่นก่อนๆ...จะหมุนเวียนออกมาฉายให้ดูทางโทรทัศน์บ่อยมาก...แต่ดูกันไม่เคยเบื่อ เพราะเป็นเรื่องราวของครอบครัว การเดินทาง ที่อบอุ่น ...และธรรมชาติที่สวยงามค่ะ

สวัสดีครับ Ico48

ดีจังเลยนะครับ บ้านเมืองเขาถึงเจริญทั้งทางวัตถุและทางด้านจิตใจ
หนังที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของไทย ไม่ประสบผลสำเร็จสักเรื่อง คนทำก็คงท้อ
ขอบคุณครับ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท