48. ลาก่อนบ้านคำบาก


ค่อนแจ้งวันจันทร์ปลายเดือนธันวาคม 2512 ผม เหรียญและเถิง เดินออกจากบ้านคำบาก ฝ่าลมหนาวมุ่งหน้าสู่บ้านสร้างหอม ต่อไปบ้านห้วยข่า ปลายทางที่บ้านโนนสูง ตำบลหนองแสง อำเภอบุณฑริก จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งผมได้รับคำสั่งให้ไปเป็นครูที่นั่น

ปีนั้นถนนยังไปไม่ถึงบ้านคำบาก เราจึงต้องเดินไปขึ้นรถโดยสารที่บ้านห้วยข่า ระยะทางราว 12 กิโลเมตร


วันศุกร์ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการสอนที่โรงเรียนบ้านคำบาก ผมใจไม่แข็งพอที่จะกล่าวคำลากับเด็กๆ ผมเพียงบอกครูสมหมายแล้วออกจากโรงเรียนราวๆ บ่ายสามโมงก่อนโรงเรียนเลิก แม้ว่าผมจะอยู่ที่บ้านคำบากเพียง 10 เดือน แต่ในช่วงนั้น ผมกลับบ้านที่วารินชำราบไม่กี่ครั้ง ที่นานหน่อยก็ตอนปิดเทอมเท่านั้น

บ้านของเหรียญที่ผมพักอาศัยอยู่ค่อนไปทางหัวหมู่บ้าน เราเดินผ่านบ้านไม่กี่หลังก็จะออกไปถึงทางเกวียนไปบ้านสร้างหอม


ธันวาคมที่บ้านคำบากไม่ค่อยหนาว แต่ชาวบ้านก็ตื่นตั้งแต่เช้า ชวนกันนั่งล้อมกองไฟหน้าบ้านที่ผมจะผ่านไป

"โชคดีนะครู" ชาวบ้านคนหนึ่งให้พร เมื่อผมเดินแวะเข้าไปลา

"กลับมาเยี่ยมด้วยนะ อย่าไปแล้วไปเลย" อีกคนหนึ่งพูด


ผมรับคำพร้อมกับให้สัญญากับตัวเองว่า จะต้องกลับมาเยี่ยมบ้านคำบากอีกครั้งแน่นอน

ออกพ้นหมู่บ้าน ผมใจหาย มันเร็วเกินไปที่ผมจะไปจากบ้านคำบาก ผมมีความสุขมากที่นั่น เด็กๆ ทุกคนว่าง่าย ตั้งใจเรียน ชาวบ้านให้ความรักและดีกับผมมาก แม้ว่าอายุผมยังไม่เต็ม 20 ปี ชาวบ้านทุกคนก็นับถือ เรียกผมว่า "ครู" อย่างสนิทปาก


ผมมีสมบัติเพียงกระเป๋าผ้าใบเดียว ที่มีหูหิ้วใหญ่หน่อย พอดีที่แขนสองข้างสอดเข้าไปในหูหิ้วเอากระเป๋าขึ้นหลัง เหมือนกับการสะพายเป้ ส่วนปืนแก๊ปผมขาย เพราะคงไม่ได้ใช้และไม่กล้าแบกเข้าไปในอำเภอ

เราเดินสบายๆ ไม่รีบเร่ง เถิงกับเหรียญเดินคุยกันอยู่ข้างหลังผม นานๆ ผมจะพูดร่วมวงด้วย เรื่องที่คุยก็ไม่แคล้วเรื่องสาวๆ ตามประสาคนหนุ่ม จนเราผ่านบ้านสร้างหอม เถิงได้ถามผมว่า


"ครู ถามจริงๆ หลังจากคืนที่ผมพาไปล้วงสาวแล้ว ครูได้ไปเองบ้างไหม" ไม่ถามเปล่า เถิงยังเดินขึ้นมาเคียงผม แล้วจ้องหน้าผมเขม็ง

"เฮ้ย...นานแล้ว ถามทำไม" ผมเขิน

"แล้วไปไหมล่ะ" เถิงคาดคั้น

"ไปซี ผมรู้" เหรียญตอบแทน พร้อมกับหัวเราะ แล้วพูดต่อว่า

"บอกไปเลยครู ไม่เห็นต้องน่าอาย"

"อือ...ก็ ไปครั้งหนึ่ง" ผมสารภาพ ด้วยจนทางหนี


"แต่คนละหลังนะ บ้านที่เถิงพาไปใต้ถุนมันสูง ลำบากว่ะ"

สองคนนั้นหัวเราะ แล้วมองหน้ากัน ผมชักจะสงสัย แต่ก็เล่าต่อ

"เย็นวันนั้น ผมไปอาบน้ำบ่อท้ายบ้าน เจอเธอพอดี เธอว่าเธอคนจน ผมไม่เคยเหลียวมองเธอเลย ผมเลยนัดจะไปหา คืนนั้นราวสี่ทุ่ม ก็เลยไปตามนัด" ผมหยุดคิด

"ล้วงเขาไหมเล่า" เถิงถาม

"อ้าว..มันก็ธรรมดา" ผมตอบ

"แล้วไง" เถิงรุก ผมจึงเล่าต่อ


"รสสัมผัส อารมณ์หนุ่ม ความเงียบ หรืออะไรไม่ทราบ ทำให้ผมขอให้เธอลงจากบ้านมาหาผม เธอบอกลงไปไม่ได้ พ่อเธอจะตื่น ผมบอกว่า ก็บอกพ่อว่าปวดท้องก็ได้ เธอก็ยังใจแข็ง"

"แล้วลงมาไหม" เถิงถามอีก ส่วนเหรียญฟังเงียบๆ

"เธอบอกลงไปหาไม่ได้ ผมเลยยื่นคำขาดว่า ถ้าไม่ลงมา ผมจะไม่มาหาเธออีกเลย เธอเงียบครู่หนึ่ง แล้วจับมือผมออกจากตัวเธอ อึดใจใหญ่ๆ เสียงประตูบ้านเปิด ผมตกใจกลัว รีบวิ่งมุดรั้วกลับบ้านอย่างรวดเร็ว"


"ฮา ฮา" เสียงหัวเราะของสองคนดังสนั่นลั่นป่า ทำให้ผมพลอยหัวเราะแบบแห้งๆ ไปด้วย

"ถ้าครูไม่กลับบ้านนะ ยังอยู่ที่บ้านเขาไม่ถึงนาที ครูได้เมียเป็นสาวบ้านคำบากไปแล้ว" เหรียญพูดเมื่อเสียงหัวเราะเบาลง แต่บางคำยังมีหัวเราะเจืออยู่

"อ้าว...งั้นเรอะ" ผมร้องอ้าว..อีกครั้ง "เหรียญรู้เรอะ"


"ก็ผมแอบอยู่แถวนั้น ครูเซ่อไม่เห็นผมเอง" แล้วเหรียญก็พูดต่อ ซึ่งทำให้ผมเสียวสันหลังวาบ

"พอสาวนั่นลงมานะ พ่อเขาก็แอบย่องตามลงมา ถ้าครูยังอยู่ตรงนั้นละก็ ได้เมียแน่ๆ"


เราไปถึงบ้านห้วยข่าก่อนแปดโมง นั่งกินข้าวที่ห่อมาจากบ้านขณะรอรถที่มาจากบ้านนาจะหลวย (ปัจจุบันเป็นอำเภอนาจะหลวย) ราวๆ เก้าโมงรถบรรทุกหกล้อ ที่ปกติใช้รับซื้อข้าวสารและของป่า ไม่มีหลังคาก็มาถึง ที่นั่งม้ายาวสองฝั่งเต็มแล้ว เหลือเพียงพื้นรถโล่งๆ ซึ่งมีคนนั่งอยู่ก่อนไม่กี่คน

จากบ้านห้วยข่าไปตัวอำเภอบุณฑริก ถนนยังเป็นดินทราย มีลูกรังอยู่บ้างในช่วงที่ผ่านป่าโปร่ง บนรถทุกคนนั่งเงียบ ทำให้ผมนึกถึงเหตุการณ์ที่พูดคุยกัน

ผมมั่นใจว่า ผมไม่ได้รังเกียจเธอ แต่เป็นเพราะผมกลัว และผมแต่งงานกับเธอไม่ได้จริงๆ

ผมฝากขอโทษเธอและพ่อแม่ของเธอด้วย

อ่านตอนที่ 47 กระสุนนัดสุดท้าย



หมายเลขบันทึก: 539493เขียนเมื่อ 16 มิถุนายน 2013 12:57 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 ตุลาคม 2015 23:07 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (12)
สวัสดีครับ Ico48

ขออภัยที่ทำให้เสียความรู้สึกครับ คราวต่อไปผมจะพิมพ์ลง word ให้เรียบร้อย ถึงจะนำลงนะครับ
ขอบคุณครับ

กลับมาอ่านต่อจ้ะ  ขอชื่นชมในผลงาน  เขียนได้น่าอ่านน่าติดตาม  จะรออ่านตอนต่อไปจ้ะ


...เมื่อวัยเด็กได้นั่งเกวียนจากหมู่บ้านเมื่อพ่อเป็นครู...ย้อนรอยเกรียนนั้นกลับมาถึงลูกได้นะคะ...การได้รู้จักผู้หญิงในวัยหนุ่มถือเป็นประสบการณ์ที่ท้าทายชีวิตลูกผู้ชายนะคะ...เรื่องราวแต่ละตอนน่าอ่านน่าติดตามค่ะ


เป็นประสพการณ์ที่น่าอ่านมากค่ะ

สวัสดีครับ

คุณมะเดื่อน่ารักจริงๆ เลย

ขอบคุณครับ


สวัสดีครับ

นอกจากเดินตามรอยเกวียนแล้ว ผมยังได้นั่งเกวียนอีกครั้ง ปวดท้องมากไปหาหมอที่อำเภอ คงอีก 3-4 ตอนครับ

ขอบคุณนะครับ ที่ติดตามมาตลอด เป็นกำลังใจอย่างดียิ่งครับ


สวัสดีครับ

ตอนนี้เป็นคนป่ากำลังจะเข้าเมืองครับ อิอิ

ขอบคุณครับ



เมื่อก่อนปี 2534 เคยเป็นตำรวจที่ สภ.ต.ห้วยข่า อ.บุณฑริก เคยไปกินนอนที่บ้านคำบาก สนุกดีชาวบ้านเป็นกันเอง ได้ประสบการณ์ชีวิตมากเลย อาจจะกลับมาเยือนถิ่นนี้เมื่อมีโอกาส บ่าววี

สวัสดีครับ คุณวี บ่าววี

ปี 2534 ผมจากบ้านคำบากมา 22 ปีครับ ช่วงนั้นถนนหนทางคงดีมากแล้ว 

ผมได้กลับไป 2 ครั้ง สภาพบ้านเปลี่ยนไปมากมาก แต่สิ่งที่ไม่เปลี่ยนคือ น้ำใจที่เอื้อเฟื้อของชาวบ้านคำบาก 

หากคุณบ่าววีได้ไปแล้วเล่าให้ฟังด้วยนะครับ ขอบคุณครับ

ในภาพเป็นช่องล้วงสาวเหรอครับ

เพิ่งเคยเห็นครับ

สวัสดีครับ ดร.

ใช่ครับ แต่เป็นของชนเผ่าในลาว แสดงที่หมู่บ้านชนเผ่าใกล้เมืองปากเซ

ส่วนช่องล้วงสาวในครั้งก่อนแถวชายแดน เป็นเพียงไม้ฝาหรือไม้กระดานที่วางห่างกันพอที่มือจะสอดเข้าไปได้ครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท