47. กระสุนนัดสุดท้าย


คำสารภาพ

     ลมหนาวพัดแผ่วๆ มาตามกำหนด ชาวบ้านคำบากเกี่ยวข้าวเสร็จแล้ว และนำรวงข้าวที่มัดเป็นฟ่อนวางซ้อนกันบนลานดินที่สูงกว่าพื้นนิดหน่อย ไม่ไกลจากเถียงนาหรือกระท่อมน้อย 

     เหรียญกับชินยังคงนอนที่เถียงนา เพราะต้องนวดข้าว แต่ปลายเดือนพฤศจิกายนข้าวคงนวดเสร็จและนำขึ้นเล้า (ฉาง)

     ไม่ถึงชั่วโมงหลังจากผมกลับจากอำเภอ ทุกคนก็รู้ข่าวการย้ายของผม แม้แต่เหรียญที่อยู่ทุ่งนา

    เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่ผมและครูสมหมายกำลังเตรียมตัวจะไปสอนเด็ก เหรียญก็มาถึงบ้านบนบ่าหาบกระจงข้างละสองตัว

     "โอ้โฮ...เอามาจากไหนตั้งสี่ตัว"  ผมถาม แต่แทนที่เหรียญจะตอบคำถามผม เขากลับย้อนถามผมทีเดียวสองคำถาม

     "ครูได้ย้ายเหรอ จะไปวันไหน"

      "ใช่...คงต้องไปเร็วๆ นี้" ผมตอบ

      เหรียญนิ่งสีหน้าดูเนือยๆ แล้วเล่าถึงกระจงสี่ตัวว่า เขาไปส่องไฟในป่าไม่ไกลจากทุ่งนาและยิงได้เมื่อคืนนี้ ตอนค่อนแจ้ง 

      "ครูอยากไปส่องกระจงไหม" เหรียญชวน "แต่ต้องไปคืนนี้หรือพรุ่งนี้ เพราะเดือนยังมืดอยู่"

      "คืนนี้เลย" ผมตัดสินใจบอกเหรียญด้วยความตื่นเต้น 

      กลับจากสอนเด็ก ผมไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้า เพียงคว้ากางเกงตัวเก่งที่ใช้ใส่เดินป่า ผ้าขาวม้า และเสื้อยืดตัวที่หนาหน่อย ที่ลืมไม่ได้คือปืนแก๊ปประจำตัวพร้อมถุงกระสุนและดินปืน เดินตามเหรียญมุ่งสู่ท้องนา

      หนาวที่บ้านคำบากไม่หนาวมากนัก คงจะเป็นเพราะป่าใหญ่ช่วยกันลม ประมาณตีสาม หลังพระจันทร์ขึ้นสิบค่ำลับยอดไม้ ป่าทั้งป่ามืดสนิท ผมก็เดินตามเหรียญลงจากเถียงนา มุ่งสู่ป่าโปร่งใกล้นาอย่างเงียบๆ

      เหรียญติดโคมไฟไว้ที่หน้าผาก มือซ้ายถือปืนแก๊ป กวาดแสงไฟไปซ้ายขวา สายตามองตาม ผมสะพายย่ามใส่ลูกกระสุนและดินปืนด้วยไหล่ขวา สองมือว่างเปล่า ผมไม่ได้เอาปืนแก๊ปประจำตัวไปด้วย เพราะมองว่าไม่จำเป็น

      เราเดินมานานเหรียญยังคงอยู่ในอิริยาบถเดิม ไม่มีการหยุดประทับปืนบนไหล่ จนประมาณตีสี่เศษๆ เหรียญหยุดเดิน แล้วหันมาพูดกับผม

      "คืนนี้ไก้ (กระจง) มันไปไหนกันหมด ดูท่าจะไม่ได้แล้วละครู" 

      "ให้ผมลองดูหน่อยไหม" ผมขอติดโคมไฟบ้าง เหรียญรับคำ แล้วถอดโคมไฟให้ผมพร้อมกับปืนแก๊ป 

      ผมเดินนำเหรียญมือขวาถือปืน ผมเป็นคนถนัดซ้ายมีเพียงเขียนหนังสือเท่านั้นที่ใช้มือขวา การถือปืนข้างขวา เพราะเมื่อเจอสัตว์ที่จะยิง มือขวาที่ถือปืนจะยกปืนขึ้นประทับไหล่ซ้าย มือซ้ายนิ้วหัวแม่มือจะง้างนกปืน นิ้วชี้สอดเข้าโกร่งไกปืน พร้อมที่จะยิงภายในเวลาชั่วพริบตา 

      ผมเดินตามทางเดินในป่าโปร่งสอดส่ายสายตาและโคมไฟไม่นานนัก ก็เห็นดวงไฟเล็กๆ คู่หนึ่งแว๊บขึ้นทางด้านขวามือนอกทางเดิน ผมได้แค่ยกปืนขึ้น ดวงไฟคู่นั้นก็หายไป   ผมเดินออกนอกทางเดินตามดวงไฟคู่เล็กคู่นั้น ในขณะที่เหรียญยืนรออยู่

      ป่าบริเวณนั้นไม่รกนัก ผมเดินสอดส่ายไปเรื่อยในใจกะว่า ต้องเจอแน่ๆ ขอยิงสักเปรี้ยงเถอะ นานพอควรดวงไฟคู่น้อยนั้นหายลับ จนผมคิดว่าไม่เจอแน่ ต้องหาทางกลับไปหาเหรียญที่ยืนรออยู่

     ทันใดผมก็เห็นดวงไฟดวงเล็ก แต่มีเพียงดวงเดียว ผมยกปืนขึ้นประทับนิ้วหัวแม่มือซ้ายทำงาน นิ้วชี้ซ้ายสอดเข้าหาไกปืน กำลังจะลั่นไก พลันไฟดวงนั้นก็สว่างวาบขึ้น ผมตกใจมาก ลดปืนลงพร้อมทั้งลดนกปืนเข้าที่ ใจเต้นโครมคราม เกือบแล้ว เพียงเสี้ยววินาที

      ดวงไฟที่สว่างวาบนั้น มีสะเก็ดไฟด้วย มันเป็นไฟจากปลายบุหรี่ของเหรียญนั่นเอง เกือบไปแล้วจริงๆ ผมเกือบจะลั่นไกปืนส่งลูกกระสุนเจาะใบหน้าของเหรียญเข้าแล้ว

      เราไม่ได้กลับบ้านมือเปล่า เพราะใกล้แจ้งขณะที่ผมส่องไฟขึ้นไปบนยอดไม้สูงใหญ่ ผมเห็นตาคู่หนึ่ง มือขวาและซ้ายทำงานอีกครั้ง ครั้งนี้เสียงปืนดังสะท้านป่า 

      "ปัง" 

       แล้วความเงียบก็เกิดขึ้นเพียงอึดใจ มีเสียงที่เกิดจากสิ่งหนึ่งร่วงหล่นระกิ่งไม้ใบไม้ลงมาจากยอดไม้ต้นใหญ่นั้น จนถึงพื้น

       "ครูยิงแม่นจัง ลิงลมตัวนิดเดียว เจาะเข้ากลางหน้าผากเลย" 

       ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ หากก่อนหน้านี้ เหรียญเพียงคาบบุหรี่ยังไม่ดูด กระสุนปืนนัดนี้คงจะเจาะเข้าใบหน้าของเหรียญไปแล้ว

       กระสุนนัดสุดท้ายนี้ นอกจากผมแล้วไม่มีใครรู้ แม้แต่เหรียญก็รู้เพียงมันเจาะเข้ากระโหลกของลิงลมเท่านั้น 

       วันนี้ผมได้สารภาพผิดกับเหรียญแล้ว

 น่าสงสารยังทำได้ลงคอ


อ่านตอนที่ 48 ลาก่อนบ้านคำบาก


ท้ายบันทึก หลังจากวันนั้น ผมไมได้ยิงสัตว์อีกเลย ผมขออโหสิกรรมแก่สัตว์ทุกตัวที่ผมล่า จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด ยกโทษให้ผมด้วย 

หมายเลขบันทึก: 478472เขียนเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 22:36 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 มิถุนายน 2013 19:45 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

สัตว์ป่าน่าสงสาร

แต่เมื่อผ่านความผิดจึงคิดได้

ยิ่งสำนึกเมื่อกาลที่ผ่านไป

เสียใจเพระว่าไม่น่าทำ  นะครับ

สวัสดีครับ  

                 กระสุนกระสันต์มันเขี้ยว

                 นัดเดียวเสียวซ่านผ่านหัว

                 รำลึกนึกถึงจึงกลัว

                  มันชั่วหรือดีที่ทำ

สวัสดีครับ อาจารย์ Ico48

นั่นนะซีครับ เมื่อก่อนคึกคะนองอย่างเดียว 

ขอบคุณนะครับ

 

ขอให้อาจารย์มีความสุขในวันวาเลนไทน์ และตลอดไปนะครับ


สวัสดีครับ Ico48

ตอนทำไม่คิดกลัว พอทำชั่วก็กลัวกรรม

ด้วยจิตคารวะ และขอบพระคุณครับ

ในสมัยก่อนตอนไปยิงไก่ป่า ชาวบ้านเห้นคนเป็นไก่ ยิงกันเองเลยครับ แปลกมากๆ

ผมก็เคยได้ยิน ครูท่านหนึ่งอยู่ชายแดนแถบอุบลราชธานี ไปนั่งห้าง ตอนเช้าๆ เพื่อนก็นั่งอีกห้างหนึ่ง แต่เพื่อนลงจากห้างไม่บอกครู เดินแหวกพุ่มไม้มาหา ครูนึกว่าเก้ง ซัดตูมเข้าให้ แบกกันกลับมาตายที่บ้านครับ เวรกรรมจริงๆ ขอบคุณครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท