USA Trip 2013 : เริ่มต้นเดินทางไป Davis

วันที่ 8-23 มิถุนายน 2556 ดิฉันและสามีเดินทางไปสหรัฐอเมริกาเพื่อร่วมงานรับปริญญาของลูกชายคนที่สองที่ UC Davis และถือโอกาสไปเที่ยวพักผ่อนด้วย เพราะหากลูกกลับเมืองไทยแล้วเราคงจะไปเที่ยวอเมริกาลำบาก

การวางแผนการเดินทางเริ่มต้นตั้งแต่ประมาณต้นเดือนเมษายน ดิฉันติดต่อบริษัทที่เคยจัดการเรื่องตั๋วเครื่องบินตอนที่ไปอเมริกาเมื่อปีก่อนให้ ปรากฎว่าช่วงเวลาที่เราจะเดินทางตั๋วมีราคาค่อนข้างสูง เราให้เขาเปลี่ยนสายการบินและเที่ยวบินอยู่หลายรอบ พร้อมๆ กับเช็คราคาการซื้อทางออนไลน์ไปด้วย จนเขาบอกว่าไม่มีเวลาจะทำให้แล้ว เราจึงเปลี่ยนบริษัทใหม่ ในที่สุดก็ได้สายการบิน ANA ที่มีราคาพอรับได้และเชื่อว่าการบริการรวมทั้งอาหารน่าจะใช้ได้ 

การเดินทางครั้งนี้เราลงเครื่องที่ San Francisco (SFO) ไม่ได้ต่อเครื่องไปลงที่ Sacramento (SMF) เหมือนครั้งก่อน เพราะลูกชายจะขับรถมารับเอง ประหยัดเวลาในการรอต่อเครื่องบินและค่าใช้จ่ายด้วย เส้นทางการเดินทางคือออกจากสุวรรณภูมิด้วยเที่ยวบิน NH 0954 เวลา 08.15 น. ถึงสนามบิน Narita (NRT) 16.25 น. แล้วต่อเที่ยวบิน NH 008 ออกจาก NRT เวลา 17.25 น. ถึง SFO เวลาประมาณ 10.45 น.

เรามีประสบการณ์การต่อเครื่องบินที่ NRT ในเวลาจำกัดเมื่อปีที่แล้ว (อ่านที่นี่) ถึงอย่างไรก็ทันเครื่องบินแน่นอน และเป็นการดีเสียอีกที่ไม่ต้องเสียเวลารอนาน ครั้งนี้จึงไม่เป็นกังวล แต่ได้ขอให้บริษัทเลือกที่นั่งตำแหน่งต้นๆ ให้หน่อย จะได้ออกจากเครื่องได้เร็วขึ้น

วันที่ 7 มิถุนายน 2556 

ดิฉันมีประชุมที่กรุงเทพฯ จึงมีเวลาจัดกระเป๋าล่วงหน้า เตรียมเสื้อผ้าที่ไม่หนามากเพราะลูกชายบอกว่าอากาศที่ Davis ร้อนมาก ร้อนแบบเผาๆ ด้วย เช็คจากอินเทอร์เน็ตก็พบว่าร้อนจริง วันเสาร์ที่ 8 ที่เราไปถึงอุณหภูมิจะสูงถึง 40 องศาเซลเซียส แต่กลางคืนอากาศจะเย็นลง แต่ก็ยังต้องเตรียมเสื้อผ้าที่กันหนาวได้บ้างไปด้วย เผื่อจะไปเที่ยวในที่ที่มีอากาศเย็น

สะสางงานบางเรื่องเพื่อไม่ให้คั่งค้าง กว่าจะเข้านอนก็เที่ยงคืนกว่า

วันที่ 8 มิถุนายน 2556

เราตั้งนาฬิกาปลุกไว้ตอน 04.00 น. ตื่นขึ้นมาเตรียมตัว ลูกชายคนเล็กขับรถไปส่งที่สนามบินสุวรรณภูมิ เราออกจากบ้านประมาณ 05.20 น. ไปถึงที่เคาน์เตอร์ check in คนยังไม่มาก เราออกตั๋วชั้นประหยัดตั้งแต่วันที่ 2 พฤษภาคม จึงยังสามารถ load กระเป๋าที่มีน้ำหนักไม่เกิน 23 กก. ได้คนละ 2 ใบ แต่ถ้าออกตั๋วตั้งแต่วันที่ 1 มิถนายน เป็นต้นไปจะ load กระเป๋าได้คนละ 1 ใบเท่านั้น แต่เราก็มีกระเป๋า load คนละ 1 ใบ รวมน้ำหนักประมาณ 31 กก.

สนามบินสุวรรณภูมิ

เราผ่านกระบวนการตรวจต่างๆ อย่างสะดวก ไม่มีปัญหาอะไร เข้าไปรอขึ้นเครื่องที่ Gate C5

ลูกชายคนเล็กเตือนว่าให้หาอะไรกินกันก่อนขึ้นเครื่อง แต่เราคิดว่าขึ้นเครื่องไม่นานเขาคงเสริฟอาหารเช้าและขณะนั้นยังไม่หิวเลย ความจริงไม่เป็นเช่นนั้น กว่าจะได้กินคือเวลาอาหารกลางวัน (น่าจะเป็นเวลาของญี่ปุ่นที่เร็วกว่าเรา 2 ชม.) ต้องทนหิวกันเล็กน้อย

วัลลา ตันตโยทัย

[วิริยะหนอ]

ขอแสดงความยินดียิ่งด้วยค่ะ