จะเป็นพยาบาลที่ดีหรือลูกที่ดี... กันดี


วันนั้นเป็นทั้งพยาบาลที่ไม่ดี และลูกที่ไม่ดี เพราะทำได้ไม่สมบูรณ์เลยสักอย่าง แต่ทำได้หลายอย่าง...เป็ดโดยแท้เลยเรา...

วันพฤหัสที่แล้วโน้น แม่ผู้เขียนมาตรวจตาตามนัด... ในคลินิกต้อหิน

เวลาแม่มาตรวจมักมากับพ่อ ทั้งๆที่พ่อไม่ได้ตรวจตาด้วย... แต่หลังๆมานี่ ตรวจตาต้องเสียเวลาทั้งวัน คุณตาเองก็มีภารกิจต้องทำเลยต้องให้คุณยายมาคนเดียว

ตอนเช้าเราขับรถเลยไปรับแม่ที่บ้านแม่แล้วพามาตรวจที่คลินิก


   แม้เป็นบุคลากรภายใน ก็ไม่ได้สิทธิพิเศษอะไรกับคิว... ถือว่ามาตรฐานเดียวกัน เกรงใจคนไข้ว่าสอง สาม มาตรฐาน

...ผู้เขียนลาพักร้อนในวันนี้ไม่ได้ เนื่องจากเป็นวันพฤหัสบดี พชท./พจบ.เรียนในเวลาราชการ ภาระการดูแลผู้ป่วยจึงตกอยู่ที่วิสัญญีพยาบาลล้วนๆ น้องๆวิสัญญีพยาบาลหลายคนลาไปปฐมนิเทศลูก จึงหมดโควต้า... สำหรับผู้เขียนที่เชื่องช้าในการจองคิวลา

แล้วก็ให้บังเอิญที่เช้าทุกวันพฤหัสเว้นพฤหัสเป็นวันที่นำรายผู้ป่วยเก่าที่น่าสนใจมาศึกษาร่วมกันใน Morbidity Mortality Conference... แถมด้วยการต้องลงชื่อเข้าฟัง ก่อน 8.10 น. .. มิเช่นนั้นจะถูกตัดแต้ม

ที่บ่นมาคือวิถีปกติของชีวิต

แต่ที่จะเล่าถัดไปคือสถานการณ์จริงในวันนั้น

...


  หลังลงจากรถพร้อมแม่และน้องกีตาร์ที่รอไปปฐมนิเทศมัธยมปลายในช่วงบ่าย ผู้เขียนลากกระเป๋าใส่เอกสารงานต่างๆ พร้อมกระเป๋าสะพายและโน้ตบุ๊ค รวมทั้งพาแม่เดินไปห้องตรวจ

ไม่นานก็ขอเดินนำหน้าไปก่อน เพราะคุณยายแข้งขาไม่ดี เดินกระย่องกระแย่งเลยให้น้องกีตาร์เดินไปเป็นเพื่อน... เราเองต้องรีบไปรับบัตรคิว เพราะสายแล้ว

แต่ไปถึงจริง คิวผู้ป่วยยาวมาก เลยตัดสินใจไม่เข้าคิวกับผู้อื่นแล้วแหละ นำ OPD Card ของแม่ที่ค้นไว้ก่อนแล้วเดินเข้าไปในตู้กระจกขอความอนุเคราะห์ เจ้าหน้าที่ประจำ ซึ่งก็ใจดี ไม่นานก็ส่งประวัติของแม่กลับมาให้ไปตรวจลานสายตา และอื่นๆ

รอวัดสายตา... และวัดอะไรอีกบ้างไม่รู้ รู้แต่บอกแม่ว่า ให้แม่ไปตามขั้นตอนที่แม่เคยทำ (ไหวมั้ย?...) และบอกลูกสาวให้ดูคุณยาย (รอบนี้ดีกว่ารอบอื่นๆนิดนึงที่มีน้องกีตาร์ช่วย)

แล้วเราก็รีบเข้าประชุม (ทัน)



ก่อน 9 โมง ลงไปตรวจสอบซ้ำทั้งเครื่องมือ อุปกรณ์ ยา และดูความเรียบร้อยอื่นๆพร้อมดมยาในห้องผ่าตัด 

วันนี้อยู่กับคุณหมอ dent 1... ใหม่เอี่ยม ซิงๆ จึงต้องเข้มนิดนึงในงาน ตัวอาจารย์วิสัญญีแพทย์มี นศพ.ด้วย เลยต้องทั้งสอนทั้งบริการไปพร้อมๆกัน ก็เลยดูอิรุงตุงนังบ้างในงาน

เริ่มเคสได้สักพักก็กระซิบบอกอาจารย์ว่า ต้องขอแวบไปดูแม่เพื่อหวังให้อาจารย์ไม่ละงานจาก dent ด้วยคิดว่ามีเราอยู่ตลอด


 

เปลี่ยนเสื้อผ้าลงไปห้องตรวจเห็นลูกสาวนั่งเล่น BB อยู่คนละทิศละทางกับคุณยายเลยเรียกลูกมาใกล้ๆ... สักครู่ลูกบอกว่าหนูคุยกับเพื่อน ต้องไปโรงเรียนราวสิบโมงนะ

กลับขึ้นไปในห้องผ่าตัดอีกครั้ง เพราะเคสต่อเนื่องเร็ว ต้องบล็อกไว้ให้ก่อนเคสในห้องผ่าตัดเสร็จ กะว่าผู้ป่วยมีอาการชาขาพร้อมผ่าตัดพอดีกับรายข้างในเสร็จ จะได้ไม่เสียเวลาคอยทีมดมยาที่ต้องสอน นศพ.ไปพร้อมๆทำหัตถการให้ผู้ป่วย เป็นการทำงานเหลื่อมเวลากัน... คุ้มค่าจริงๆ

พอเสร็จก็โทรฯเช็คคุณยาย คุณยายไม่รับสาย... กี่ครั้งก็ไม่รับ...

เริ่มกังวลเพราะแม่เป็นคนที่มีมนุษยสัมพันธ์ดีมากๆ คุยกับใครก็ได้ ใจดี กลัวเขาหลอกเอาสมบัติติดตัวไป เห็นท่าไม่ดี พองานทุกอย่างลงตัวคงที่ ก็ขอแวบลงไปดูแม่อีกครั้ง...



น้องกีตาร์ไปโรงเรียนแล้ว

คุณยายกำลังนั่งเอาคางเกยแท่นตรวจตาอยู่...เฮ้อ!... โล่งอก

ตรวจเสร็จคุณยายออกมาบอกว่าเครื่องโทรศัพท์ไม่ดี มันปิดตัวเองบ่อยๆ... และเงินที่เติมหมดแล้ว

คุณยายตรวจรอบเช้าเสร็จขอไปนั่งเล่นที่ระเบียง รอตรวจบ่ายอีกรอบ เราเองก็วกกลับขึ้นไปดูคนไข้และทำงานต่อ... อ้อเติมเงินค่าโทรฯให้คุณยายด้วย

ใกล้เที่ยงโทรฯเช็ค... คุณยายเดินไปทานข้าวเองแล้ว เดี๋ยวจะกลับมารอหน้าห้องตรวจคลินิคต้อตอนบ่ายต่อ

เรากับ dent ผลัดเปลี่ยนกันทานมื้อเที่ยง    

...แล้วหมอก็ไปเรียน ได้น้องพยาบาลมาอยู่แทนด้วย 1 คน


ตอนบ่ายมีเคสใหญ่เข้าผ่าตัด เลยไม่ได้แวบลงไปดูแม่... ใช้วิธีโทรฯเช็คเอาเองเป็นระยะ

ทราบอีกที ตรวจเสร็จแล้ว... รอเบิกยาอยู่...

ทราบอีกที รับยาแล้ว... นั่ง(เล่น) รออยู่หน้าโรงพยาบาล



แหงนดูเวลาอีกทีราวบ่ายสามโมงกว่า น้องให้เบรกบ่ายเลยได้แวบมาดูแม่ เห็นแต่แฟนแม่เค้าโทรฯมาเช็คกัน เลยบอกไปว่า เดี๋ยวรอกลับพร้อมกันทีเดียวหลังเลิกงานก็แล้วกัน ไม่ต้องกลับแท็กซี่เพราะป๊าของน้องกีตาร์มาฟังปฐมนิเทศลูกให้ เสร็จภารกิจคงกลับได้เลย...

ราว 4 โมงเย็นโทรฯเช็คกัน  ป๊าเรียบร้อย... คุณยายเรียบร้อย...  เหลือแต่ผู้เขียนที่เคสยังไม่เสร็จ... น้องใจดีบอกว่าพี่ไปเลย ไม่มีอะไรน่าห่วง เดี๋ยวเวรก็เข้ามารับงานต่อเอง

... แต่ผู้เขียนก็ยังรีรอ จนราว 4.15 น. จึงเตรียมตัวเก็บของกลับบ้าน... ซึ่งเป็นเวลากลับที่ไม่คุ้นเคยเลยจริงๆ



ระหว่างทางกลับบ้านมีงานของประมงจังหวัดพอดี คุณยายเลยได้ลงไปเดินเล่นนิดหน่อย ได้แกงเลียงเห็ด 5 อย่างเป็นอาหารเย็น ได้กาบมะพร้าวหั่นไปใส่ต้นไม้ และซื้อกิ่งตอนฝรั่ง 2 ต้น เห็นว่าจะเอาไปปลูกไว้กินใบต้มน้ำ... ใครไม่รู้มาบอกว่าดี

เอ้า...ตามใจเค้าไป.. ดี ก็ ดี



ส่งแม่ที่บ้าน ก่อนละจากกันแม่ให้เงินมา 500 บาท บอกว่าฝากซื้อข้าวนกเอี้ยงและยาคลายเส้นด้วย

“แม่รำคาญพ่อ เวลาซื้อ ซื้อมาทีละนิด แล้วก็บ่น... แกซื้อให้แม่หน่อย”

...

...เฮ้อ!  หมดไปอีกหนึ่งวัน

สงสารก็แต่แม่นี่แหละ ที่ไม่มีคนคอยดูแลใกล้ชิด ว่าจะพักร้อนไปด้วยทุกครั้ง เธอก็บอกว่า ไม่เป็นไร


นี่แหละ...

วันนั้นเลยเป็นทั้งพยาบาลที่ไม่ดี และลูกที่ไม่ดี เพราะทำได้ไม่สมบูรณ์เลยสักอย่าง... เป็ดโดยแท้เลยเรา...

นี่ยังไม่ได้ผูกพ่วงไปกับ แม่ที่ไม่ดี ที่ไม่ได้ดูแลลูกในวันปฐมนิเทศนะเนี่ย... อิ อิ



หมายเลขบันทึก: 537842เขียนเมื่อ 2 มิถุนายน 2013 07:53 น. ()แก้ไขเมื่อ 3 มิถุนายน 2013 21:20 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)

เป็นให้ดีทั้งสองอย่างครับ  จะประเสริฐที่สุดเลย

ทำได้ก็ดี... นิ

ญาติโยมของแพทย์กับพยาบาลมักจะมีประสบการณ์หมือนๆกันค่ะ คือลูกหลานต้องรับผิดชอบงานประจำ ทำให้ดูแลท่านไม่ได้ดีเท่าที่ควร

เห็นญาติผู้ป่วยบางคน จากต่างจังหวัด มากันเป็นคันรถก็มี...ดูแล้วอบอุ่นดีค่ะ

แต่พ่อกับแม่มักให้กำลังใจเสมอว่า "ไม่เป็นไรลูก...พ่อกับแม่ยังไหว ไปดูแลคนไม่ไหวก่อนดีกว่า..."

ขอบคุณนะคะ

เข้ามาเป็นคนอ่านยังเหนื่อยเลยครับ ขอเป้นกำลังใจครับ 

... เหนื่อยแป๊บเดียวครับ แล้วก็หายเหนื่อย

กลับมาแล้วแอบภูมิใจในตัวเองว่า... ทำได้ไงวะตรู....

ขอบคุณครับ

บอกลูกเสมอว่า เกิดเป็นลูกแม่ต้องอดทนนะลูก ขอบคุณลูกสาวที่เข้าใจ ไม่กดดันให้แม่รู้สึกแย่กว่าที่เป็นอยู่ คงไม่ต่างกันหรอกค่ะ หนูก็มีแม่ 76  ลูก 16  แล้วต้องดูคนเดียว ไม่มีป๊าช่วย รู้สึกเป็นเป็ด 3 ตัว 555555

แม่กระดังงา...

น้องพูดแล้วทำให้พี่รู้สึกว่ามีเพื่อน และรู้สึกดีขึ้นเยอะเลย... ขอบคุณจ้า

5555 พี่ติ๋ว เขียนได้แบบมองเห็นทะลุปุโปร่งเลยค่ะ

กระเทือนไปถึงพยาบาลหลายๆ คน รวมทั้งติกเองด้วย

สุดท้ายอ่านจบแล้ว พี่ติ๋วเนี่ย...... สามารถบริหารจัดการเวลาได้อย่างสุดๆ 

สอบผ่านค่ะ

(ปลอบใจตัวเองด้วยค่ะ ^__^)

ชื่นชมพี่ค่ะ... เข้มแข็งอยู่กับสภาพนี้มานาน..เข้าใจความรู้สึก..ขอให้พี่เข้มแข็งและทำหน้าที่ต่อไปนะคะ   


น้องติกคะ

นี่พี่คิดว่าไอ้เราเป็นคนเดียวนะเนี่ย... นี่เรามีพรรคพวกด้วยหรอกรึ

ใครเป็นลูกเป็นสามีเรานี่ต้องเก่งนิ... พอเจ็บป่วย เมียบอกว่าหยิบยาเองเลยพี่ เม็ดสี... วางอยู่ตรงนั้นน่ะ แต่หากเป็นคนไข้นี่ ถามแม้กระทั่งว่า... ระดับความปวดเลขอะไร... อิ อิ

น้องเข้มแข็ง...

พี่มีพรรคพวกอีกคนแล้ว

พยาบาลสู้ๆๆ...ค่ะ อิ อิ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท