ทางสายกลางการยุบ ไม่ยุบโรงเรียนขนาดเล็ก

              เรื่องการยุบโรงเรียนขนาดเล็ก ไม่ใช่เรื่องใหม่ เป็นเรื่องที่พยามยามของฝ่ายนโยบายระดับสูง ที่มีเจตนาดี ที่สำคัญคือยกระดับคุณภาพโรงเรียนขนาดเล็ก และเรื่องล่าสุด ก็เป็นเหตุผลที่น่ารับฟัง เพราะมีโรงเรียนแต่ไม่มีนักเรียน 118 แห่ง (ข้อมูล 2 มิย.56 มติชน หน้า 12) แต่โรงเรียนเหล่านี้จะยังไม่ยุบ หรือเลิกทันที ถ้าในอนาคตอาจจะยอมว่า ให้ยุบ เพียงแต่ หาสาเหตุ ความเคลื่อนไหวต่างๆว่า ควรจะยุบหรือไม่

                คำว่ายุบ เป็นคำที่ฟังแล้ว รู้สึกว่า จิตใจสลด เพราะทำให้ไม่มี ทั้งที่ ขับรถผ่านแล้ว ก็เห็นอยู่ เพียงแต่ผู้เรียนและผู้สอนไม่มีเท่านั้น จึงควรใช้คำใหม่ เพราะคำว่ายุบ ถ้าเป็นบริษัท ก็คงไม่มีคนรับบริการเหมือนกัน หากคงไว้ ก็นเห็นด้วยกับวิศวกรท่านหนึ่งเขียนไว้ว่า ควรพัฒนาสถานศึกษาแห่งนั้นเป็นแหล่งเรียนรู้ ที่จัดนักวิชาการ นักการศึกษา นอกระบบ เข้าไปใช้บริการ หรือไปบริหารจัดการ โดยเฉพาะ หากร่วมจัดการศึกษากับ กศน.และชุมชน อบต. หรือท้องถิ่น แล้วจัดอีกรูปแบบหนึ่งที่นักเรียนไปเรียนที่นั่นได้ โดยผู้จัดอีกกลุ่มหนึ่ง ที่สามารถเรียนรู้เท่ากับโรงเรียนที่อื่น และเมื่อสอบ ก็ไปสอบร่วม ทั้ง  O-net  NT หรือ LAS หากสอบผ่าน ที่เป็นข้อสอบเดียวกัน ก็น่าจะถือว่า เป็นผู้จบการศึกษาได้ แต่ก็ต้องมีระเบียบในการจัดวัดผลประเมินผลขึ้น ในส่วนของการสนับสนุนรายหัว เรียนฟรี หรืองบสนับสนุนอื่นๆ ก็นำระบบการศึกษาเอกชนไปใช้ อาจจะทำให้ปัญหาโรงเรียนขนาดเล็กที่กลัวจะถูกยุบ พึงพอใจได้ เพราะความต้องการของประชนชน ที่มีแนวคิดทางการศึกษา โดยเฉพาะคนที่ยากจน อาจจะไม่ได้มุ่งที่คุณภาพ ความเก่ง ความสามารถของบุตรหลาน เพียงหวังให้จบการศึกษาภาคบังคับเท่านั้นก็พอใจแล้ว จึงไม่ส่งลูกไปเรียนที่ใด แม้จะใกล้ขนาดไหนก็ไม่ไป 

             จากการนำเสนอที่เป็นแผนเรียนร่วม(บางสาระ) ก็น่าจะเป็นแนวทางหนึ่งที่นำไปสู่เรื่องคุณภาพของโรงเรียนขนาดเล็กที่สามารถเรียนร่วมกันได้ เพราะจะได้มีบุคลากรที่เพิ่มขึ้น เมื่อมีการร่วมกันจัดการเรียนการสอน หรือแลกเปลี่ยนกัน ยกตัวอย่างครูโรงเรียนหลักมีครู สาขาภาษาอังกฤษ และ สาขาภาษาไทย  สามารถสอนเด็กได้ ห้องละ 30 คน คือ 2 โรงเรียน และครูพลศึกษาที่โรงเรียนเล็กก็สอนเด็กได้เท่ากัน หากครูพละนำเด็กของท่านขึ้นรถส่วนตัว ไปเรียนภาษาอังกฤษที่โรงเรียนหลัก ส่วนช่วงบ่ายก็อาสาสอนพลศึกษา แล้วก็พาเด็กกลับ วันนี้ ได้แล้ว 3 วิชาทั้ง 2 โรงเรียน น่าจะมีคุณภาพ ส่วนการบริหารจัดการส่วนอื่นก็ยังคงสภาพไว้ ลักษณะนี้ น่าจะ ใช้คำว่า ไม่ยุบ อีกทางหนึ่ง ส่วนที่เสนอไว้ว่า จะยุบ 118 โรงเรียนก็คิดว่า น่าจะเป็นไปได้