หลักปฏิบัติของ “ชีวิต...”


วันนี้เป็นวันอาทิตย์เป็นวันหยุด ญาติโยมมานอนวัด มารักษาศีล มาปฏิบัติธรรม  พรุ่งนี้ก็เป็นวันจันทร์วันทำงาน 


พระพุทธเจ้าท่านเราทุก ๆ คนนะว่าต้องพากันประพฤติปฏิบัติธรรมะ เพราะธรรมะเป็นสิ่งที่ประเสริฐ ธรรมะทำให้ใจของเราสงบ ทำให้ไม่ให้เรามีโทษไม่มีภัยไม่มีเวร


ส่วนใหญ่เราทุก ๆ คนน่ะติดในความสุข ไม่ว่าเด็กไม่ว่าผู้ใหญ่ ตลอดไปถึงคนแก่ ก็ติดความสุขกัน

ความสุขและความทุกข์นี้มันมีขึ้น เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของเรา ชีวิตของเราเดี๋ยวก็มีความสุขมีความทุกข์อย่างนี้แหละทั้งวันทั้งคืน มันเกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วก็ดับไปอย่างนี้แหละ พระพุทธเจ้าท่านสอนเราว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา มันเป็นธรรมะเป็นธรรมชาติที่เกิดขึ้นตั้งอยู่แล้วก็ดับไป มันไม่มีอะไรมากไปกว่านี้

พระพุทธเจ้าท่านสอนเรานะว่าอะไรเกิดขึ้นก็ช่างหัวมัน มันเกิดขึ้นตั้งอยู่แล้วก็ดับไป...  ให้เราทุกคนอดเอาทนเอา ทำใจให้สงบ แล้วแต่อะไรมันจะเกิดขึ้น เราไปเลือกไม่ได้หรอกนะ เพียงแต่เราพากันมาทำใจให้มันสงบ ความสุขความสงบที่เรารู้จักธรรมะรู้จักธรรมชาติ  สิ่งทั้งหลายทั้งปวงมันก็มีเกิดขึ้นตั้งอยู่แล้วก็ดับไป

ปัญหาต่าง ๆ อยู่ที่เราไม่ได้ประพฤติปฏิบัติธรรมะนะ เราจะเอาแต่สิ่งที่เราชอบน่ะ  สิ่งที่เราไม่ชอบเราก็จะไม่เอา มันเลยมีปัญหา ความแก่อย่างนี้เราก็ไม่ชอบ ความเจ็บอย่างนี้เราก็ไม่ชอบ ความตายอย่างนี้เราก็ไม่ชอบ ความพลัดพรากจากของรักของชอบใจทั้งหลายทั้งปวง อย่างนี้เราก็ไม่ชอบ ทุกคนไม่ชอบแต่ทุกคนก็ต้องได้รับสิ่งเหล่านี้ทุก ๆ คน  เพราะนี่มันเป็นสมบัติของเรา เมื่อเราเกิดขึ้นมามันก็ต้องมีความเป็นไปอย่างนี้แหละ แก่ เจ็บ ตาย พลัดพรากน่ะ  

พระพุทธเจ้าท่านถึงให้เรามาภาวนาว่าสิ่งเหล่านี้แหละมันเป็นเรื่องธรรมะ  เรื่องธรรมชาติ เรื่องธรรมดา ต้องพากันทำใจให้รู้จักรู้แจ้งและให้มันสงบ ถ้าใจของเราไม่สงบเราจะไปทุกข์ทั้งกายทุกข์ทั้งใจ ทุกสองชั้นเลย ถ้ากายมันทุกข์แต่ก็อย่าให้ใจมันทุกข์  เพราะคนเรานี้กายก็ส่วนหนึ่งใจก็ส่วนหนึ่งนะ ถ้าเราฝึกแล้วมันแยกกันได้

เราฝึกใจของเราให้มันสงบ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น อะไรจะตั้งอยู่ อะไรจะดับไปก็ให้ใจของเราสงบ อย่าไปวุ่นวายกับมัน วุ่นวายไปก็เป็นทุกข์เปล่า ๆ นะ ทุกข์ฟรี ๆ ทุกข์ในเรื่องของเรายังไม่พอนะคนเรานี้ เราพากันไปทุกข์กับเรื่องคนอื่นอีก ไปทุกข์กับเรื่องลูกเรื่องหลาน  เรื่องเพื่อนฝูง เรื่องของเขาก็ให้เป็นเรื่องของเขาเราอย่าไปทุกข์ใจนะ คนเรามีเรื่องที่จะทุกข์  ตั้งเยอะแยะมากมายถ้าเราจะไปทุกข์กับมัน ทุกข์จนเป็นโรคประสาทนั่นแหละ

เราไปคิดมากวิตกมากเราก็ไปช่วยเหลือเค้าไม่ได้ แล้วเราก็ไม่ได้ฝึกใจตัวเอง เราก็ไปคิดไปหมกหมุ่นไปปรุงแต่งอยู่นั่นแหละ สงสารเขาเป็นห่วงเขา กลัวเขาจะไม่ดี กลัวเขาจะเอาตัวไม่รอด กลัวเขาจะเป็นอันตราย กลัวเขาจะยากจน คิดไปต่าง ๆ นานาสารพัดที่จะคิด  คิดจนเป็นเรื่องธรรมดาจนเป็นปฏิปทา

พระพุทธเจ้าท่านบอกเราสอนเราว่าอย่าไปคิดมาก อย่าไปวิตกกังวลมาก ลูกหลานจะเป็นอย่างไรก็ช่างหัวมัน ฝึกปล่อยฝึกวางเสียบ้าง เราจะได้หยุดทำบาปทางจิตใจด้วยการไม่ไปวิตกกังวล ไม่ไปทุกข์กับเรื่องของคนอื่น เราว่าจะไม่คิดแต่มันคิดนะ เพราะเรามันคิดจนชำนิชำนาญ จนเป็นปฏิปทาแล้ว

พระพุทธเจ้าท่านให้เราหยุดนะ เราอย่าทำบาปทางความคิด ฝึกปลง ฝึกปล่อย ฝึกวาง ให้ถือว่าคนอื่นก็เป็นส่วนของคนอื่น เราเกิดมาอย่างนี้เสื้อผ้าอาภรณ์เราก็ไม่ได้เอามาด้วย  เราตายไปเราก็ไม่ได้เอาอะไรไป ให้เรารู้จักคิดอย่างนี้เสียบ้าง

ฝึกทำใจให้มันสงบ ฝึกปล่อยฝึกวาง... เรื่องลูกเรื่องหลานเรื่องครอบครัวคิดมากยังไม่พอ ยังคิดเรื่องชาวบ้านเรื่องการบ้านการเมืองมาคิดอีก เอาเรื่องของคนเห็นแก่ตัวมาคิดอีก


พระพุทธเจ้าท่านบอกเราสอนเราว่า ไม่ต้องเอาเรื่องการบ้านการเมืองมาคิด มันไม่มีประโยชน์อะไรหรอก เพราะนั่นมันเป็นเรื่องของความเห็นแก่ตัวของคน เราจะไปคิดว่าทำไมมันถึงทำอย่างโน้น ทำไมมันถึงทำอย่างนี้ มันไม่น่าทำก็ไปคิดอยู่นั่นแหละ

พระพุทธเจ้าท่านไม่ให้พระไม่ให้ผู้ปฏิบัติคิดเรื่องการเมืองยุ่งกับเรื่องการเมือง มันไม่ใช่เรื่องของเรา ถ้าเรามาแก้ใจของเราให้สงบ หาวิธีแก้ใจของเราให้สงบ สิ่งต่าง ๆ มันจะเป็นอย่างไรมันก็ไม่มีปัญหา เราก็มีความสุขได้ เราก็มีความสงบได้ ถ้าเรารู้จักทำใจ

พระพุทธเจ้าท่านถึงห้ามให้พระเณร ไม่ให้พระเณรคิดเรื่องการเมือง พูดเรื่องการเมือง ถ้าเราไปคิดไปพากันพูดนั้นผิดศีล ผิดวินัย ต้องอาบัติ เพราะว่ามันไปเรื่องภายนอก  ไปคิดเรื่องคนอื่น ไปแก้ไขคนอื่น

เราพยายามทำใจให้เหมือนพระพุทธเจ้านะ

พระพุทธเจ้าท่านสอนเราให้เรามีกายวาจาใจให้สงบ มีเศรษฐกิจพอเพียงเพียงพอนะ  ในหลวงของเราก็เหมือนกัน ท่านพาให้เราคิดอย่างนี้ อย่าพากันไปคิดเรื่องของคนอื่น  ให้ความอบอุ่น ให้ความรักความเมตตาด้วยการประพฤติการปฏิบัติธรรม โดยมีศีลมีธรรมเป็นทางเดิน อยู่ในครอบครัวเราก็พากันประคับประคอง อย่าพากันเอาแต่ใจตัวเอง มีทิฏฐิมานะ ปากจัดเจ้าอารมณ์ เป็นคนอารมณ์ร้อน เจ้าอารมณ์ ปากติดระเบิด

เราต้องมาแก้ไขที่ตัวเรา เพราะเรายังเป็นบุคคลอันตราย ปากก็ติดระเบิด กิริยามารยาทก็ติดระเบิด การกระทำต่าง ๆ มีแต่ติดระเบิดพกระเบิด ทำให้ตัวเองเดือดร้อน ทำให้คนอื่นเดือดร้อน ต้องกลับมาหาเศรษฐกิจพอเพียงนะ

พระพุทธเจ้าท่านไม่ให้เราทะเยอทะยาน เห่อเหิม ลุ่มหลงในทรัพย์สมบัติ จะเป็นบ้าน เป็นรถยนต์ เป็นข้าวของเงินทองอะไรอย่างนี้ อย่าไปหลงอย่าไปตื่นเต้นนะ เดี๋ยวมันจะ  บั่นทอนความดี บั่นทอนบารมีของเรา

พยายามพัฒนาใจของเราให้มันสงบให้ได้ เดี๋ยวนี้เรากำลังวิ่งหาความสุขความดับทุกข์ทางด้านวัตถุกัน เราไม่ได้มาฝึกมาปฏิบัติทำให้จิตใจของเราสงบ

ครอบครัวไหนเศรษฐกิจไม่ดีน่ะทะเลาะกันทั้งบ้านเลย เพราะว่าจิตใจมันถูกเผา  เผาทั้งพ่อทั้งแม่ทั้งลูกทั้งหลาน เพราะเราไม่รู้จักพากันยินดีในสิ่งที่มีอยู่ ไม่เป็นผู้รู้จักพอ  ของเรามันมีเท่านี้ ๆ น่ะ จะให้มันมีมากกว่านี้มันก็เป็นไปไม่ได้

จิตใจของเราต้องเป็นผู้ที่มีความสุข เป็นผู้ที่รู้จักพอ ฝึกให้ทาน ฝึกเสียสละ กลับมาพิจารณาตัวเองว่าตัวเองให้ทานอะไรบ้างเสียสละอะไรบ้าง

อย่างเราถึงเวลานอนเราไม่นอนอย่างนี้ ไปติดคอมพิวเตอร์ติดเกมส์เค้าเรียกว่า  “คนเห็นแก่ตัว คนไม่เสียสละ”

พระพุทธเจ้าท่านว่าเราเสียสละพากันนั่งสมาธิทำวัตรสวดมนต์ทำจิตใจให้สงบ สิ่งที่ดี ๆ ทำวัตรสวดมนต์นั่งสมาธิ มันไม่อยากจะทำ ชอบนั่งพูดนั่งคุย ชอบฟังเพลงโหลดเพลง  เล่นคอมพิวเตอร์กัน มันชอบทำแต่สิ่งที่เป็นบาปเป็นอกุศลนะ มันทะเยอทะยานตามวัตถุ  ตามโลกอย่างนี้แหละ พระพุทธเจ้าท่านว่าเป็นแมลงเม่าบินเข้ากองเพลิง มันพยายามสนองความอยากความต้องการ

สิ่งเหล่านี้เราต้องเสียสละนะ...

ถึงเวลานอนพระพุทธเจ้าท่านให้เราพากันนอน ต้องบังคับตัวเอง ต้องฝืนตัวเอง  ต้องทนตัวเอง ถ้าเราไม่นอนแล้วศักยภาพในการเรียนเราก็ตก ศักยภาพในการทำงานมันก็ตก เรามีสมองแต่สติปัญญามันไม่มี เพราะคนนอนไม่หลับนอนไม่พอมันจะมีศักยภาพได้อย่างเรา

พระพุทธเจ้าท่านให้เราเสียสละนะ ถึงเวลาตื่นก็ตื่น บังคับให้ตัวเองตื่น มันไม่อยากตื่นก็ต้องตื่น ต้องปรับตัวเองเข้าหาระเบียบหาวิธีหาเวลา


ฝึกเป็นคนบังคับตัวเองให้ได้... ถ้าเราเป็นคนบังคับตัวเองไม่ได้อีกหลายเดือนหลายปี  เราต้องเป็นโรคกระเพาะ เป็นกรดไหลย้อน เป็นโรคประสาท เป็นบุคคลที่ความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด จิตใจไม่มีกำลังไม่มีศักยภาพ ไม่มีระเบียบในการดำรงชีพดำรงชีวิต อย่างนี้เรียกว่าเป็นคนที่ไม่ทันสมัยนะ ให้โลกทำร้ายเรา ให้โลกตบตีเรา เราไม่ได้พัฒนาจิตใจ

พวกเด็ก ๆต้องเสียสละนะ อย่าพากันไปมีโทรศัพท์โหลดตั้งแต่เพลง เล่นตั้งแต่เกมส์ พวกนี้มันเป็นบาปทั้งนั้น เป็นนรกหลุมเล็กหลุมใหญ่ที่จะจัดการให้เราเป็นคนยากคนจน  เป็นคนที่ไม่มีความสามารถไม่มีศักยภาพ เราอยากรวยมันก็ไม่รวยหรอกเพราะเราทำไม่ถูกวิธี เราไม่ตั้งใจเรียน มัวแต่เล่นโทรศัพท์ โหลดเพลงฟังเพลง เล่นเกมส์ บาปกรรมมันเยอะขนาดนี้มันจะรวยได้อย่างไร มันจะเจริญได้อย่างไร

โทรศัพท์ก็ดี คอมพิวเตอร์ก็ดี ท่านให้เรามาใช้มาทำงานให้รวดเร็วมีศักยภาพ ไม่ใช่  ให้เรามาโหลด ฟังเพลง เล่นเกมส์ สร้างบาปสร้างกรรมอย่างนั้น เราเอาไปใช้ในทางผิด ๆ

พวกเด็ก ๆ น่ะต้องพยายามฝืนจิตฝืนใจของตัวเองให้เป็นคนมีระเบียบมีวินัย

พวกใหญ่ ๆ พวกปัญญาชนก็เหมือนกันนะ มันพากันนอนดึก พากันตื่นสายก็เพราะอย่างนี้เอง มันต้องเสียสละ ต้องทำใจให้สงบ เราจะได้ดูแลตัวเองได้ ดูแลครอบครัวได้  เราจะได้ไม่ตกเป็นทาสของสิ่งเสพติดก็คือโทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ โน๊ตบุ๊คพวกนี้แหละ

คนเรามันต้องฝึกตัวเอง ถ้าไม่ฝึกตัวเองไม่ปฏิบัติตัวเอง เราจะเอาเงินไปจ้างมันก็  ไม่เป็นหรอก เพราะความดีทุกคนต้องประพฤติปฏิบัติเอง มันต้องประพฤติปฏิบัติด้วยตัวเอง ควบคุมตัวเองเข้าหาธรรมะเข้าหาการประพฤติปฏิบัตธรรม

ชีวิตของคนเราน่ะมันแก่ไปทุกวัน แต่มันแก่แต่ทางกายนะ ถ้าเราไม่ฝึกตนเองถือศีลปฏิบัติธรรมอินทรีย์บารมีมันไม่แก่นะ เห็นมั๊ยคนใหญ่ ๆ คนที่จิตใจมันไม่ได้พัฒนา พากันไปหลงวัตถุเหมือนกับพวกเด็ก ๆ เค้า ถึงเวลาที่จะเป็นปูชนียบุคคล เป็นผู้นำทางจิตวิญญาณ  มันก็เป็นไปไม่ได้ เพราะเราไม่ได้ฝึกไม่ได้ฝืนไม่ได้ปฏิบัติ ยังเป็นทำเหมือนเด็ก ๆ เค้าอยู่นะ

คุณพ่อคุณแม่นี้ต้องประพฤติปฏิบัติเป็นตัวอย่างของลูกของหลาน ศีลห้าเป็นคุณสมบัติของพระอริยเจ้า เป็นคุณสมบัติของเรา เราพากันมารักมาชอบมาเทิดทูนบูชาว่าศีลห้านี้แหละเป็นข้อวัตรปฏิบัติของเรานะ ให้เราเน้นมาหาตัวเรานะ...

พระพุทธเจ้าท่านให้เราทุก ๆ คนพากันมาประพฤติปฏิบัติธรรม สิ่งที่มันแล้วก็แล้วไป มันแก้ไขไม่ได้ ช่วงเวลาที่เรามีลมหายใจอยู่นี้เรายังทำได้ยังปฏิบัติได้ เราอย่าไปคิดว่าการรักษาศีลการปฏิบัติธรรมมันเป็นการริดลอนสิทธิของเรา ลิดลอนความสุขของเรา จะกินสบายนอนสบายเล่นสบายก็ไม่ได้ มาขัดใจเราเหลือเกิน อันนี้เป็นกิเลสอยู่ในใจของเรานะที่ให้เราคอยนึกคอยคิดอย่างนี้

ศีลห้านี้แหละคือหลักเพื่อให้เราประพฤติปฏิบัติเพื่อปฏิบัติตนเองได้กราบไหว้บูชาตนเองได้ ศีลห้าก็ไม่ได้มีอะไรสลับซับซ้อน คนไม่รู้หนังสือก็ปฏิบัติได้ คนรู้ก็ปฏิบัติได้ เด็กก็ได้ผู้ใหญ่ก็ยิ่งดี


ตั้งใจไว้ตั้งเจตนาไว้ เพราะศีลนี้มันเน้นมรรคผลนิพพาน มันเน้นที่จิตที่ใจ ถ้าเรา  ไม่รักศีลไม่ชอบศีลนี้คือเราไม่รักไม่ชอบไม่นับถือพระพุทธเจ้าแล้ว

การรักษาศีลปฏิบัตินี้ไม่มีข้อแม้ใด ๆ ทั้งสิ้น ใจของเรากิเลสของเรามันมีข้อแม้เยอะเหรอ...? เรากลับไปบ้านเราก็เอาศีลเอาข้อวัตรไปประพฤติปฏิบัติเพื่อเดินตามรอย  ของพระพุทธเจ้าของพระอรหันต์นะ  ชีวิตของเราจะได้เกิดมาไม่เสียชาติเกิด

พระพุทธเจ้าท่านให้เราทุก ๆ คนตรวจตราดูตัวเองว่า ตัวเองนั้นต้องแก้ไขตัวไหน  เพิ่มตัวไหน ปรับปรุงตัวไหน ให้พากันแก้ พากันตั้งใจ พากันสมาทานเพื่อสร้างเหตุสร้างปัจจัยให้ถึงพร้อม เราจะไม่ได้สายเกินที่จะต้องแก้ไข เราจะมัวพะวงว่าเป็นโรคนั้นโรคนี้ ลูกคนโน้นหลานคนนี้อันนั้นมันส่วนภายนอก ให้เรากลับมาแก้เรานี้แหละนะ มันไม่อยากแก้ก็ต้องแก้ มันไม่อยากปฏิบัติก็ต้องปฏิบัติ ต้องตั้งใจต้องสมาทานมันถึงทำได้ถึงปฏิบัติได้ ขนาดตั้งใจขนาดสมาทานมันก็ยังจะทำไม่ได้นะ เมื่อเราเดินไปเราล้มเราก็ต้องลุกไม่ใช่เรานอนไปเลย อย่างนี้แหละ ถ้าเรามันยังคิดไม่เป็นก็ต้องเชื่อพระพุทธเจ้าไว้ก่อน เราอย่าไปเชื่อความคิดความเห็นของตัวเอง พระพุทธเจ้าท่านบอกให้ปฏิบัติอย่างนี้ ๆ เราก็ปฏิบัติอย่างนี้ ๆ ตามท่าน  มันเป็นของง่าย ๆ หรอก เพียงแต่เราไม่เป็นคนทิฏฐิมานะมากเจ้าอารมณ์ ไม่ปฏิบัติตามใจตัวเอง เพียงแต่เราปฏิบัติตามพระธรรมคำสั่งสอนของที่พระพุทธเจ้าท่านบอกทาง  มันก็ของง่าย ๆ นะ ไม่ใช่ของลำบาก

ธรรมะมันก็อยู่ในกายในใจของเรา มันไม่ได้อยู่ในหนังสืออยู่ในพระไตรปิฎกนะ  เราไปคิดมากเองว่าธรรมะมันเป็นของสูง มันก็จริงนะธรรมะเป็นของสูง ทำให้จิตใจของเราสูงขึ้น ไม่อย่างนั้นจิตใจของเราจะตกต่ำ

กลับไปบ้านไปที่ทำงานก็ต้องปฏิบัติธรรมอยู่ทุกหนทุกแห่ง ใครเค้าจะไม่ปฏิบัติ  หรือไม่ปฏิบัติก็ช่างหัวเขานะ แต่เราก็ต้องพากันประพฤติปฏิบัติ


พระธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ที่องค์พ่อแม่ครูอาจารย์เมตตาให้นำมาบรรยาย

เช้าวันอาทิตย์ที่ ๒๘ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๕๖


หมายเลขบันทึก: 537629เขียนเมื่อ 31 พฤษภาคม 2013 05:54 น. ()แก้ไขเมื่อ 31 พฤษภาคม 2013 06:01 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

-สวัสดีครับ..

-ทุกอย่างเป็น"ธรรมชาติ"..

-ขอบคุณครับ..


สาธุค่ะ รูปบนสุดคือที่ไหนเหรอคะ อลังการจังค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท