วันนี้ (29 พฤษภาคม 2556) ผมมีโอกาสพาตัวเองเข้าไปที่ห้องรับบริจาคเลือดของ รพ.พุทธชินราช เพื่อไปบริจาคเกล็ดเลือดตามที่พี่เจ้าหน้าที่โทรศัพท์นัดหมาย เดิมทีคิดว่าจะไม่สามารถดำเนินการได้ในวันนี้ เพราะภารกิจการประชุมที่ได้รับมอบหมายมีกำหนดเกือบทั้งวัน
เครื่องรับบริจาคเกล็ดเลือด รุ่นเดิม
ก่อนไปผมโทรศัพท์บอกพี่คนเดิมว่า ผมพร้อมที่จะเข้าไปบริจาคเกล็ดเลือดแล้ว จะเข้าไปดำเนินการได้หรือไม่ พี่รีบบอกว่าเชิญมาเลย เมื่อไปถึงหลังจากวัดความดันโลหิตแล้ว ผมแจ้งความประสงค์ว่า ครั้งนี้ (ครั้งที่ 109) ผมขอใช้เครื่องรับบริจาคเกล็ดเลือดตัวใหม่ เพื่อใช้เวลาในการบริจาคเกล็ดเลือดลดลงเกือบครึ่ง เหลือประมาณ 35 นาที (เครื่องอื่น ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ ๆ ) แต่ก่อนบริจาคเจ้าหน้าที่ต้องให้กินยาแคลเซียม จำนวน 2 เม็ด ครับ(หากบริจาคกับเครื่องอื่น ให้ผู้บริจาคกินแค่ 1 เม็ด) แต่เครื่องรุ่นนี้ทำงานค่อนข้างจะมีเสียงดังมากกว่าเครื่องอื่น
โฉมหน้าของเครื่องรับบริจาคเกล็ดเลือดรุ่นใหม่
ผลการบริจาคผ่านไปด้วยดีครับ ผลดีที่ตัวเองได้รับคือ ใช้เวลาบริจาคน้อยลง และเจ้าหน้าที่แจ้งเพิ่มเติมว่า แม้ค่าใช้จ่ายสำหรับอุปกรณ์ของเครื่องตัวนี้จะแพงกว่าเครื่องรุ่นเก่า แต่ผู้บริจาคน่าจะได้รับประโยชน์ด้านอื่น ๆ เพิ่มขึ้น เช่น ปริมาณเลือดที่เครื่องรุ่นนี้ดึงไปฟอกเพื่อให้ได้จำนวนเกล็ดเลือดมีปริมาณน้อยกว่า และไม่ดึงเม็ดเลือดขาวไปด้วย ฯลฯ ทำให้ตัดสินใจได้ว่า ครั้งต่อ ๆ ไป ผมจะขอเลือกบริจาคเกล็ดเลือดกับเครื่องตัวใหม่นี้ ขอเชิญชวนทุก ๆ ท่านที่มีคุณสมบัติครบถ้วนไปช่วยกันบริจาคเลือด เกล็ดเลือด ณ หน่วยรับบริจาคใกล้บ้านของท่าน ครับ
น่าดีใจกับหน่วยรับบริจาคเลือดของ รพ.พุทธชินราช นะครับที่บอกให้ทราบว่า ณ วันนี้จำนวนปริมาณการรับบริจาคเลือด ,เกล็ดเลือด มีปริมาณโดยรวมมากกว่า จ.เชียงใหม่ นั่นเป็นเพราะปัจจัยที่สำคัญส่วนหนึ่งมาจากทีมบริหาร รพ.พุทธชินราชชุดปัจจุบันที่เล็งเห็นความสำคัญของการสนับสนุนเครื่องมือรับบริจาคเลือด บริจาคเกล็ดเลือด รวมถึงการสร้างห้องรับบริจาคเลือดให้หน่วยรับบริจาคได้ในปีนี้ หลังจากอยู่ที่เดิม(แบบชั่วคราว) มาถึง 15 ปี
มาเชียร์ค่ะ ยังไม่กล้าบริจาคเกล็ดเลือด...ได้แค่บริจาคโลหิตค่ะ