gotoknow คืออะไร ผมไม่เคยรู้จักมาก่อน ตราบจนเมื่อกลางปี ๒๕๔๘ ผมได้เข้าร่วมเป็นทีมวิจัยการจัดการความรู้องค์กรการเงินชุมชน พื้นที่ ตำบลคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ หัวหน้าโครงการคือ อ.นิสา พักตรวิไล ผู้ควบคุมโครงการใหญ่คือ ท่านอ.ภีม ภคเมธาวี... อ.ภีม แจ้งให้พวกเราทราบว่า น่าจะส่งความรู้จากการลงพื้นที่เข้าสู่ "คลังความรู้" ซึ่งคลังความรู้ที่ อ.ภีม แจ้งให้พวกเราทราบคือ "gotoknow" บันทึกแรกที่ผมเขียนลง gotoknow คือ "บันทึกลับไม่ซ่อนเล็บ" เป็นบันทึกหมายเลข "4730" ซึ่งบันทึกนี้คือความพยายามกลั่นกรองความคิดให้เป็นตัวอักษรเพื่อการเสื่อสารต่อผู้ไม่ใช่ผม
หลังจากนั้นจึงมีบันทึกต่อๆมา แต่ดูเหมือนจะไม่เกี่ยวกับ "การจัดการความรู้องค์กรการเงินชุมชน" เลย เพราะสิ่งที่สะท้อนออกมาจาก อ.นิสา คือ "ผมบ่นอะไรก็ไม่รู้" ทำให้ผมรู้สึกผิดๆอย่างไรไม่รู้ แต่สิ่งที่ผมพบทุกวันนี้คือ เราไม่สามารถหนีจากความเป็นตัวที่ตัวเป็นได้เลย ไม่ว่าเราจะไปเป็นอะไรหรือพยายามที่จะเป็นอะไร
สิ่งที่ผมไม่ได้เฉลยจากการบันทึกใน gotoknow ซึ่งผมหวังลึกๆ ว่า บันทึกที่ผมบันทึกลงไปนี้ แม้จะเป็นความคิด ความเชื่อ หรืออะไรก็ตาม มันคือปรากฎการณ์ทางความคิดที่ผ่านมาของผมเอง ผมหวังลึกๆ อย่างเลือนลางว่า วันหนึ่งถ้าผมมีลูกหลาน และ gotoknow มีอายุร้อยปี ลูกหลานจะนำเอาข้อความเหล่านี้ที่ผมบันทึกลงไป คัดออกมาเป็น "หนังสือที่ระลึกในงานบำเพ็ญกุศลศพ" ของผมเอง
ขอแสดงความขอบคุณคณะกรรมการและทุกคนที่มีส่วนทำให้ gotoknow เป็น gotoknow จนทุกวันนี้ สิ่งที่ต้องขอโทษคือ บางทีผมทำ gotoknow เป็นเหมือนถังขยะ คือเป็นที่รองรับความเครียดของผมเอง แต่จำนวนมาก ผมทำ gotoknow เหมือนกับร่างกายของ "พระผู้เป็นเจ้า" ซึ่งผมอยากจะบอกพระองค์ว่า ผมมีความคิดอย่างไร
อยากให้ GTK อยู่นานๆ เช่นกันค่ะอาจารย์
มาเยี่ยมคนอยู่นาน ๆ ยังสบายดีอยู่นะ...อิ อิ
ขอบคุณที่แบ่งปันครับ
ชอบวรรคทองของท่าน
สิ่งที่ผมพบทุกวันนี้คือ เราไม่สามารถหนีจากความเป็นตัวที่ตัวเป็นได้เลย ไม่ว่าเราจะไปเป็นอะไรหรือพยายามที่จะเป็นอะไร
แผนการพัฒนาของ GotoKnow นั้นที่จริงแล้วไม่ใช่การพัฒนา "เว็บไซต์" ครับ แต่เป้าของเราคือพัฒนาระบบ "จดหมายเหตุประเทศไทย" ที่เป็นพื้นที่รวบรวมความคิดของคนไทยให้ลูกหลานได้ศึกษาต่อไปครับ เพียงแต่ตอนนี้ "เว็บไซต์" เป็นช่องทางในการรวบรวมได้สะดวกที่สุดเท่านั้นเองครับ ดังนั้นตามแผนนี้เนื้อหาใน GotoKnow จะไม่หายไปแน่นอนไม่ว่าเทคโนโลยีของโลกจะเปลี่ยนไปแค่ไหนก็ตามครับ
สวัสดีครับ
.....หาก...เราเปลี่ยน..สักนิด.."โกทูโน"..ไม่ใช่..ถังขยะ "ความคิด..ส่วนบุคคล"...แต่เป็นดอกไม้..ที่มีโอกาศเบิกบาน...และเราๆ..คือผู้ดูแล..ให้มัน..บาน..อยู่นาน..กว่า"ธรรมชาติ..ที่เป็นอยู่.."....โอกาศที่จะเครียด..น่าจะน้อยลง..นะ..(ยายธีแอบคิด..อ้ะ)