เมื่อวานไปหาหมอตามนัด ครบเดือนที่เก้า หมอดูประวัติและผลเลือด บอกปกติและคงต้องฉีดยาต่ออีกไปจนครบ หมอถามถึงการเบิกค่ารักษาพยาบาล จึงบอกไปว่าเบิกบริษัทได้อีกแค่ 2 เข็ม แต่เดือนนี้ไม่ต้องซื้อเพราะ คุณปูได้ให้ยาอายุสั้นมาฉีดเมื่อเดือนที่แล้ว จึงเหลือยาอีกเดือนหนึ่ง
"ก็อย่างที่เคยบอกล่ะนะว่า ถ้าเบิกได้ก็ให้เบิก หรือถ้าดิ้นรนหามาได้ก็ต้องดิ้นรน"หมอพูดขณะหยิบโทรศัพท์เลื่อนไปมา สักพักคุณปูก็เดินเข้ามา
"ตกลงให้ยาคนไข้ไปเท่าไหร่แล้ว แล้วมีเคสแบบนี้อีกกี่คน"หมอถามคุณปู
"มีอีกสองคนค่ะ แต่ปูให้ยาหมดอายุแล้วนะหมอ"
"อืม..ยังใช้ได้อยู่นะ แล้วบอกอาจารย์หรือยัง แล้วจะทำยังไงกันต่อ"หมอคุยกับคุณปูขณะที่ผู้เขียนนั่งนิ่งเงียบ
..............
"ยังไงก็ต้องรักษาให้ครบนะ วันนี้เก็บใบสั่งยาไว้ก่อน คราวหน้าก็อย่างที่บอกถ้าหาวิธีอื่นมาเบิกได้ก็ดิ้นรนมา เพราะถ้าช่วยคุณ คนอื่นก็ต้องลำบากเหมือนกัน" หมอย้ำอีกครั้งก่อนยื่นประวัติให้ผู้เขียนพร้อมเอกสารการเจาะเลือดสำหรับทำนัดเดือนถัดไป
"ไม่เป็นไร เดี๋ยวปูจะช่วยเช็คสต็อกให้ว่ายาเหลืออยู่เท่าไหร่"คุณปูพูดปลอบเมื่อเดินออกมาจากห้องตรวจ
"อืม...เกรงใจคุณปูและขอบคุณมากๆเลยนะครับที่ช่วยเหลือ หมอจะตำหนิคุณปูเอาน่ะครับ"ผู้เขียนบอกขอบคุณคุณปู
"ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวปูจะเช็คให้"
"หรือถ้าจะบอกหมอให้หยุดแค่นี้ล่ะครับ เพราะยังไงก็ไม่มีเชื้อแล้วและเหลือแค่สองเดือนเอง"
"ต้องรักษาให้ครบค่ะ"
..............
ถึงบ้านผู้เขียนเล่าเรื่องนี้ให้ภรรยาฟัง ขณะที่ลูกสาวนั่งดูทีวีอยู่
ภรรยาบอกว่าเข้าใจคำพูดของหมอที่บอกในวันนี้ คงหมายถึงว่าผู้เขียนยังทำงานได้อยู่ มีเงินเดือนประจำ ในขณะที่คนอื่นอาจจะไม่มีงานประจำ ไม่มั่นคงในรายได้
"จริงๆก็ไม่อยากฉีดแล้วล่ะ ฉีดแล้วก็ปวดหัว คลื่นไส้น่าเบื่อ"ผู้เขียนบ่นด้วยรู้สึกเหนื่อยหน่าย
ภรรยาผู้เขียนบอก เหลือทั้งหมด 8 เข็มที่ต้องฉีด เงินที่ตกเบิกรอบนี้ก็เอาไปซื้อเดือนหนี่ง 4 เข็ม เหลือเบิกได้อีก 2 เข็ม เท่ากับต้องซื้ออีกแค่ 8 พันกว่าบาท
"อืม...แต่ก็ไม่อยากฉีดแล้วล่ะที่สำคัญเงินเก็บก็หมดแล้ว"ผู้เขียนยังคงยืนยันไม่อยากอยากฉีด
"เอาเงินเดือนหนูสิพ่อ พอดีเลย 2 เดือน" ลูกสาวพูดขึ้นบ้าง เธอคงนั่งฟังมาแต่ต้น
"โอ เก็บไว้เถอะลูก ไว้เป็นค่าเทอมหนูเถอะ"ผู้เขียนและภรรยาพูดขึ้นมาเกือบพร้อมกัน
..............
คำพูดกำลังใจจากภรรยาที่พยายามหาทางออกให้ และคำพูดของลูกสาวที่จะยอมเสียสละเงินเดือนฝึกงานครั้งแรกในชีวิต ทำให้ผู้เขียนล้มเลิกความคิดที่จะไม่อยากฉีดต่อ
และคำพูดเหล่านี้ ทำให้ผู้เขียนจะต้องรักษาต่อเนื่องให้ครบ เพื่อว่าจะได้อยู่ต่อไปนานๆ
... เพื่อจะได้เห็นความเป็นไปของชีวิตของผู้คน และสรรพสิ่งรอบๆกาย
...เพื่อจะได้เห็นน้ำใจของผู้คนที่ช่างงดงาม เปี่ยมไปด้วยเมตตาที่หาอะไรเปรียบเปรยไม่ได้
...และเพื่อจะได้เห็นความสำเร็จของลูกสาวของผู้เขียน ที่กำลังเติบโต กำลังจะต่อสู้และเรียนรู้ ในโลกใบนี้ต่อไป
..............
ขอบคุณกัลยาณมิตรทุกๆท่านที่อ่านมาถึงตรงนี้
พ.แจ่มจำรัส
3 พฤษภาคม 2556
เป็นกำลังใจให้นะคะคุณ พ.แจ่มจำรัส
ไม่สบายก็ต้องรักษาให้ดีที่สุดค่ะ ทุกคนต้องมีความหวัง ที่มิใช่หวังของตนเองเท่านั้น
แต่เป็นความหวังของคนที่คุณ พ.แจ่มจำรัส รัก และพวกเค้าก็รักคุณค่ะ
และคิดว่ากัลยาณมิตรที่นี่ทุกคน ก็ส่งกำลังใจไปให้ ขอให้ผ่านพ้นอุปสรรค และหายเร็วๆ นะคะ
-สวัสดีครับ...
-ตามมาให้กำลังใจครับ..
-ความสุขที่สุดคือความรักความอบอุ่นจากครอบครัว...
-สู้ๆ
วาจาทำร้ายคนได้มากที่สุด
วาจาเป็นกำลังใจให้คนเรามากที่สุด
ถ้ารู้ว่าไม่รักษาเพราะหมดกำลังใจ
ขอส่งกำลังใจที่ทดไว้ทั้งหมดมาให้นะคะ
สู้อีกนิดเถอะน่า
"เอาเงินเดือนหนูสิพ่อ พอดีเลย 2 เดือน" ลูกสาวพูดขึ้นบ้าง เธอคงนั่งฟังมาแต่ต้น
...
คือพลัง ..และความงดงาม...ครับ
เป็นกำลังใจให้ครอบครัวน่ารักนี้ค่ะ
กำลังใจของคนรู้ใจ ของคนที่รัก และของคนในครอบครัว คือโอสถวิเศษจ้ะคุณพิชัย
สู้ ๆ นะ ห้ามท้อถอย และท้อแท้จ้ะ
สู้ๆนะครับพี่..
มาให้กำลังใจค่ะ ขอให้หายเร็วๆนะคะ ครอบครัวน่ารักมากค่ะ
ขอบคุณครับคุร Bright Lily
บางครั้งในการไปหาหมอคนเดียว บางสิ่งบางอย่างได้ทำลายความมั่นใจไปก็มี ตามอารมณ์ในแต่ละขณะนั้นๆ
ดีใจด้วยกับผลที่กำลังเกิดขึ้นนะคะ ถือว่าเป็นแนวโน้มที่ดีมากๆ ควรจะกัดฟันรักษาต่อให้ครบนะคะ คุณพิชัยอยู่ในกลุ่มของคนโชคดีที่รักษาแล้วน่าจะหายได้ ควรจะดีใจและใช้โอกาสนี้ให้ดีค่ะ
พฤติกรรมความคิดของลูก มาจากพ่อ-แม่ผู้สอนค่ะ
ขอบคุณครับ ดร.โอ๋-อโณ
ผมจะรักษาต่อครับ
ขอบคุณครับ คุณหมอkunrapee
ลูกยิ่งโต เหมือนยิ่งเป็นเงาของเรา และเป็นดอกไม้กำลังใจที่งดงามใกล้ๆเรา..........
กำลังใจเปี่ยมล้นค่ะ