สถิติ ๕๐๐๐ ศพ ...จากเศรษฐีกระจิบ ถึง โจรกระจอก
๙ ปีที่ไฟใต้เริ่มประทุ จุดติด ด้วยประกายไฟแห่งกรือเซะ และ ตากใบ เติมเชื้อเพลิงด้วยวาทะ “โจรกระจอก” จากปากเศรษฐีกระจิบ
ถึงวันนี้ยอดตายประมาณ ๕ พันคน ประมาณ ๒ เท่าของศพจากระบบ “ฆ่าตัดตอน” ในนามปราบยาเสพติด รวมเป็น ๗ พันห้า
การตายจากไฟใต้นี้ ถ้าเอาศพมาวางเรียงต่อกัน สมมติว่าแต่ละคนสูง ๑๖๕ ซม. (ค่าเฉลี่ยหญิงชายไทยวันนี้) จะได้ความยาว = 5000 x 0.165 =825 กม. ก็ประมาณระยะทางจากนราธิวาสถึงหัวหิน ใกล้ถึงกทม. รอมร่อ ถ้ารวมศพจากการฆ่าตัดตอนอีก ๒๕๐๐ ศพ ก็ถึงกทม. พอดี
นี่แหละวีกรรมของผู้นำรัฐบาลปากไว ใจบ้า แต่ขาสั่น (จนต้องหนีคดี)
ไม่ทราบมีไหม สถิติว่า ๕ พันคนนี้ คือคนกลุ่มใดบ้าง หญิง ชาย ทหาร โจร ครู พุทธ มุสลิม เด็ก คนแก่ .... แยกแยะให้ดูหน่อยสิ จะด้วยช่วยคิดหาทางแก้ปัญหา ไม่ทราบว่ามีหน่วยงานใดประมวลสถิติไหม (เช่น สันติบาล หน่วยวิจัยสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือแม้แต่สนง.สถิติแห่งชาติ นักวิจัยอิสระ )
จากการอ่านข่าวเรื่อยมา ผมเดาว่า ไม่ว่าเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์จะเป็นกลุ่มใด แต่ในเชิงยุทธวิธีที่มากที่สุด คือ การนั่งซ้อนท้ายมอไซค์แล้วยิงโดยคนซ้อนท้าย เช่นยิงในโรงน้ำชา โรงเรียน ประกบยิงขณะขับรถ เพราะการใช้มอไซค์ลักษณะนี้มันคล่องตัวมากหลบหนีได้เร็ว
ถ้าใช่ ผมถามว่า ทำไมไม่ออกกฎง่ายๆ ว่าห้ามซ้อนท้ายมอไซค์
อาจทำให้ปชช.ลำบาก ไม่สะดวกบ้าง ก็ต้องยอมโดนด่า แต่ว่าหากมันลดการสูญเสียชีวิตได้ครึ่งหนึ่ง ก็คุ้มแล้ว
น้ำลายหนึ่งหยดของคนรวย มีอำนาจ โง่ อหังการ์ สามารถฆ่าคนบริสุทธิ์ได้มากหลายขนาดนี้ เป็นประวัติศาสตร์ที่ต้องจดจำ
เสียดายไทยคม (ชื่อพระราชทาน) กลายเป็นของ สิงค์ปุระ ไปแล้ว (ใครรวยจากการนี้หนอ) แต่เราประเทศใหญ่ เสียแล้วเสียไปหาใหม่ได้ ทำไมไม่เอาเศษเสี้ยวของสองจุดสองล้านๆ ที่จะกู้มาส่งดาวเทียมดวงใหม่สำหรับส่องกล้องความชัดสูง ไปที่สามจว.ใต้ เพื่อตรวจจับการก่อการร้าย พร้อมมีระบบสื่อสารระหว่างเจ้าหน้าที่ที่รวดเร็ว ทันการณ์ เพื่อปกป้องประชาขนทั้งพุทธและมุสลิมที่ตายเป็นเบือ
หรือว่าสามจว.นี้รัฐบาลไม่มีสส. เลยไม่สนใจจะปกปักรักษา เพราะยิ่งปล่อยให้เป็นดินแดนมาเลย์ หรือรัฐอิสระยิ่งดี สัดส่วนสส. ปชป. จะยิ่งลดน้อยลงไปกว่าเดิม
...คนถางทาง (๓ พค. ๒๕๕๖)
ไม่มีความเห็น