อาจารย์ ดวงใจ กิ่งกืย
เรื่อง ( กษัตริย์เก้าชีวิต ) สุดยอดนักการเมือง นักการทูต
ที่มา หนังสือประวัติศาสตร์กัมพูชา
เขียนโดย เดวิด แชนด์เลอร์
สมเด็จพระนโรดมสีหนุ ทรงเป็นกษัตริย์ที่ครองราชย์ยาวนานที่สุดพระองค์หนึ่งของเอเชีย ทรงมีบทบาทอย่างสูงในการเมืองกัมพูชาสมัยใหม่ทั้งการเรียกร้องเอกราช ตั้งพรรคสังคมราษฏร์นิยม มีบทบาทในสงครามอินโดจีน และตั้งแนวร่วมเขมรสามฝ่ายกับเขมรแดง นำมาสู่การเลือกตั้งและสิ้นสุดสงครามกลางเมืองในปี 2536ก่อนสละราชสมบัติให้ สมเด็จพระนโรดมสีหมุนี พระราชโอรสในปี 2547
ภายหลังการสวรรคตของเจ้ามณวงค์ฌอง เดอกูซ์ ข้าหลวงใหญ่ฝรั่งเศสได้เลือกเจ้านโรดม สีหนุ ซึ่งขณะนั้นมีพระชนมายุ 19 พรรษาและกำลังศึกษา ณ วิทยาลัยของฝรั่งเศสในกรุงไชง่อนเป็นผู้สืบสันติวงศ์ในปี พ.ศ. 2484 เพราะต้องการรักษารอยร้าวระหว่างเชื้อสายของเจ้านโรดม และเจ้าสีสวัสดิ์และในระหว่างคู่ชิงตำแหน่งกษัตริย์ทั้งสองพระองค์ ดูเหมือนว่าเจ้าสีหนุจะถูกเกลี้ยกล่อมได้ง่ายกว่าต่อมาพระองค์ทรงเป็นตัวตั้งตัวตีในการเรียกร้องเอกราชกัมพูชาจากฝรั่งเศส และทรงทำได้สำเร็จในปี พ.ศ. 2496 ถัดจากนั้นอีกสองปี ได้ทรงสละราชสมบัติให้กับ พระนโรดม สุรามฤต
แม้ว่าภายหลังการจัดตังรัฐบาลเขมรสามฝ่าย พระองค์ไม่ทรงมีอำนาจ แต่บทบาทของท่านคือทรงเป็นสัญลักษณ์ กรณีที่เวลาเกิดเหตุไม่พอใจอะไรท่านมักถอนตัวออกจากการเจรจา รองปลัดฯ ณัฏฐวุฒิ มองว่านั่นเป็นเทคนิคที่ใช้เป็นเครื่องต่อรอง กล่าวคือบางทีพระองค์ต้องการแนวทางนี้แต่ฝ่ายสนับสนุนไม่เห็นด้วย ในเมือไม่ทรงมีอำนาจในมือ จึงต้องใช้วิธีดังกล่าว และว่า ท่ามกลางภาวะสงครามพระองค์ทรงต่อสู้เรียกร้องเอกราช ผ่านสงครามอินโดจีนสงครามยืดครอง และสามารถนำพาประเทศเล็ก ๆ ให้รอดพ้นปากเหยี่ยวปากกามาได้ กล่าวได้ว่าท่านโดดเด่นในแวดวงเวทีระหว่างประเทศ และทรงมีคุณูปการต่อกัมพูชา เป็นอย่างมาก เป็นบิดาแห่งเอกราชของชาติ นั้นเป็นสิ่งที่ทุกคนยอมรับนั้นเป็นความสามารถที่โดดเด่นของสมเด็จพระนโรดมสีหนุ ในสายตานักการทูต
ไม่มีความเห็น