เผยแพร่ผลงานวิชาการ.....คณิตศาสตร์ ม.3 ...เรื่อง สถิติ


ชื่อเรื่อง   การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน  เรื่อง สถิติ  โดยใช้แบบฝึกทักษะวิชาคณิตศาสตร์

กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์  นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่  3

หน่วยงาน  โรงเรียนดงพยุงสงเคราะห์

ปีการศึกษา     2554

ผู้วิจัย   นายวรโชติ  สินธุศิริ

บทคัดย่อ

  การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยใช้ชุดแบบฝึกทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ เรื่อง สถิติ  ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ที่มีประสิทธิภาพ ตามเกณฑ์ 80/80 เพื่อหาดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3  ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดแบบฝึกทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ที่พัฒนาขึ้น กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนดงพยุงสงเคราะห์ ประจำปีการศึกษา 2554 จำนวน 25 คน ใช้ระยะเวลาในการวิจัย  คือ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2554 สื่อ และนวัตกรรมที่ใช้ประกอบการวิจัย คือ ชุดแบบฝึกทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ วิชาคณิตศาสตร์ จำนวน 13 ชุด เครื่องมือ  ที่ใช้ประกอบการวิจัย คือ แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ จำนวน 7 แผน แบบทดสอบก่อนเรียน -  หลังเรียน แบบทดสอบย่อยระหว่างเรียน แบบประเมินพฤติกรรมกลุ่ม แบบประเมินพฤติกรรมรายบุคคล (คุณลักษณะอันพึงประสงค์รายวิชา) และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน  ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ โดยใช้ชุดแบบฝึกทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ วิชาคณิตศาสตร์ สถิติที่ใช้ประกอบการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

  ผลการวิจัย พบว่า

  1. การจัดการเรียนรู้  เรื่อง สถิติ  โดยใช้ชุดแบบฝึกทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์

กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 วิชาคณิตศาสตร์ มีประสิทธิภาพเท่ากับ 80.28/80.20  ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้

  2. ค่าดัชนีประสิทธิผลของ แบบฝึกทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ เรื่อง สถิติ  กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 วิชาคณิตศาสตร์ มีค่าเท่ากับ 0.6501 คิดเป็น ร้อยละ 65.01

  3. ความพึงพอใจของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้

แบบฝึกทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อยู่ในระดับมากทุกข้อ เรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย 3 ลำดับแรก คือ ความรู้ความเข้าใจในเนื้อ เช่นเดียวกับเรียนจากครูผู้สอน รูปแบบน่าสนใจ และเร้าความสนใจในการเรียน และนักเรียนสามารถเลือกเรียนในหัวข้อต่าง ๆ ได้ตามต้องการ และนักเรียนสามารถทำความเข้าใจเนื้อหาได้เร็วยิ่งขึ้น 


หมายเลขบันทึก: 533415เขียนเมื่อ 20 เมษายน 2013 14:51 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 เมษายน 2013 14:51 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท