บุคคลร่วมสมัยท่านนี้ เป็นบุคคลสำคัญของโลกไปเสียแล้ว
เขาอยู่ในกลุ่มคนดัง ที่ปฏิเสธ การศึกษาในรูปแบบหรือการศึกษาในระบบ
เขาเลือกการศึกษาเรียนรู้ โดยปฎิเสธ สถาบันการศึกษา มหาวิทยาลัย
และองค์ประกอบอื่น ๆ ในมหาวิทยาลัย ไม่ว่าอาจารย์ สื่อการสอน ชื่อเสียงมหาวิทยาลัย
หรือระบบการเรียนรู้ที่ set มาเป็นอย่างดี
Mark คือคนที่มีทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษยี่สิบเอ็ด โดยไม่ผ่านระบบการศึกษา
หรือการเรียนรุ้ตลอดชีวิต (3L) เป็นการเรียนรู้อย่างมีความสุข เรียนรู้อย่างไม่มีขีดจำกัด
โดยมีทรัพยากรที่สำคัญที่สุด คือ ตัวของเขาเอง ซึ่งมีสมองอยู่ด้านใน เครื่องมือ
ที่เขาใช้คือ จินตนาการ และต่อยอดจากสิ่งที่เขาถนัด
การที่เขาทำเช่นนี้ได้ ก็เพราะว่าสังคมวัฒนธรรมการเรียนรู้ของอเมริกัน
เด็กเถียงผู้ใหญ่ได้ รากฐานของญาณวิทยา ใครที่สามารถสร้างแบบจำลองการเรียนรู้
แล้วสามารถล้มล้าง แบบจำลองการเรียนรู้ องค์ความรู้ที่มีแต่เดิมได้ และสามารถ
สถาปนาองค์ความรู้ของเขาขึ้นมาใหม่ โดยไม่มีอำนาจอันใดมากีดกันได้
ทำให้เขาสามารถคิดสร้างสรรค์ได้เต็มขีดจำกัด ระบบการศึกษาอเมริกัน
ที่เป็นต้นแบบที่ปัญญาชนไทยนำมาปรับปรุงเปลี่ยนแปลง ก็มีปัญหาการ
ยัดเยียดเนื้อหาเช่นเดียวกัน การที่เขาลากออกจากสถาบันการศึกษา
ทำให้เขาได้เรียนรู้ที่กว้างขึ้น สอดคล้องกับความต้องการของเขา และ
พิสูจน์ได้ว่า แม้ไม่มีมหาวิทยาลัย แต่ก็มีปัญญา หรือมหาวิทยาลัยในตัวเอง
จะเห็นได้ว่า การเรียนรู้่เป็นเรื่องง่าย ๆ เริ่มต้นจากสิ่งที่ตนเองมี ตนเองสนใจ
เข้าไปสู่จินตนาการและความคิดใหม่ ๆ ไม่ยุ่งยาก ตัดตัวสถาบันการศึกษา.
ตัดอาจารย์ และจงใจสร้างสัญญะ พิเศษ โดยการลาออกจากมหาวิทยาลัย
ที่ได้รับการจัดอันดับโลกสูง ๆ เช่นเดียวกับ บิล เกตส์ ริชาร์ด แบรนด์สัน
แต่ถ้าเขาอยู่ในสังคมวัฒนธรรมไทย
เขาก็แค่เด็กติดคอมพิวเตอร์ ติดเกมส์ ไร้ค่า
ถูกหมดเลยค่ะ ความรู้ต้องไม่
- ยัดเยียด
- ไม่พร่ำสอน
- ไม่อยู่ในหนังสือเสมอไป
- สนุกกับสิ่งทำ & มีความสุข
ครอบคุณมากนะคะ
ในชีวิตจริง ทำไมต้องให้ลูกเรียนเรียนมหาวิทยาลัย
เรียน ก็ต้องแข่งขัน ...ทำงานก็ต้อง แข่งขัน ..ใช้ชีวิต ก็ต้องแข่งขัน... อยู่ในสังคมก็ต้องแข่งขัน เหนื่อยมากๆๆ เพื่ออะไร.....
ผอ หายไปนาน
ถ้าเขามาอยู่ประเทศไทยคงโตครูและสังคมว่าด้วยว่าไม่เอาไหน