ซอกแซกทัวร์ มาเก๊า ฮ่องกง ตอนจบ กับเงิน 12,568 บาท


              หลังจากอิ่มท้องจากก๋วยเต๊๋ยวยืนกินใน MRT แล้วผู้เขียนแวะเติมเงินในบัตร Autopus ซึ่งเป็นบัตรสารพัดประโยชน์จริง ๆ ใช้ขึ้นรถไฟฟ้าก็ได้ ใต้ดิน ซื้อของใน 7-11 ร้านค้าย่อย ๆ ก๋วยเตี๋ยวเมื่อกี้ก็ใช้บัตรนี้แหล่ะค่ะ ขนาดขึ้นแท๊กซี ยังใช้บัตร Autopus นี้รูดได้เฉยเลย สะดวกประหยัดเวลาทั้งลูกค้าและผู้ให้บริการ เมืองไทยน่าจะเอาอย่างมั่งน่ะค่ะ

 

            ใช้ง่ายมากค่ะ แค่กดว่าจะเติมเท่าไหร่ เอาแบงค์สอดเข้าไปตามด้วยบัตรเก่าเรา ไม่ถึง 3 วินาที หน้าจอก็

โชว์ให้เรายืนยันว่า เราต้องการเติมเท่านี้จริง ๆ หรือไม่ เสร็จแล้วก็รับบัตร+ตังค์ทอนคืนค่ะ แสนรู้แท้ ๆๆ

  ไปต่อที่ The Peak Tream ค่ะ อันนี้ก็ซื้อตั่๋วผ่าน www.wow-hk.com ค่ะ ไม่ต้องไปต่อคิวยาวมาก ๆ แค่โชว์บัตรเขาก็มีช่อง Expess ให้เราเข้าไปก่อนเลยค่ะ ขอแนะนำน่ะค่ะ หากท่านจะไปเที่ยวที่ไหนต่าง ๆ ควรศึกษาข้อมูลแหล่งท้องเที่ยวและซื้อ Ticket ล่วงหน้าไปจากเมืองไทย ทั้งประหยัดเวลาและราคาถูกกว่ากัน แต่ต้องระวังเลือก Agency ที่เราไว้ใจได้น่ะค่ะ เพราะเราต้องโอนเงินเข้าบัญชีให้เขาก่อน


                                                                                                                   

                   ข้างบน The Peak Tream ไม่ค่อยตื่นตาตื่นใจสำหรับผุ้เขียนสักเท่าไหร่ สู้ทางขึ้นวัดเขาสุกิม หรือ ดอยสุเทพไม่ได้ แต่ทำไมนักท่องเที่ยวและทัวร์มาลงเยอะมาก ๆ จุดนี้ผู้เขียนละลายทรัพย์มากที่สุดและเป็นจุดเดียวที่ผู้เขียนช้อปปิ้ง ซื้อของไปฝากเพื่อน ๆ ที่เมืองไทยเพราะมีของที่ระลึกที่แสดงถึงเกาะฮ่องกง ค่ะ

                  ลงจาก The Peak Tream เห็นรถรางเปิดประทุน รีบกระโดดขึ้นรถทันที เพื่อนร้องถามว่า ..........."เธอจะไปไหน" ..... ผู้เขียนตอบไปว่า........"ไม่รู้ ฉันอยากลองนั่งดู มันพาไปไหนก็ไปเถอะน่า กลัวอะไรฮ่องกงเป็นของเราแล้ว 5555"  .............งานนี้เพื่อนถึงกับออกปาก

และส่ายหัวว่า ........."เธอเนี่ย โคตรมึนได้ใจจริง ๆ"  แล้วเราสองคนก็หัวเราะร่วน ตกลงมันชมรึด่าเราหว๋า .........*----------*                                                                             

                                

            

                         นี่แหล่ะค่ะมนต์เสน่ห์ของการ Back Packer อยู่ตรงนี้ อยากไปไหนก็ได้ไป อยากแวะไหนก็ได้แวะ ไม่ต้องชะโงกทัวร์ ที่สำคัญประหยัดตังค์มาก ๆๆ เพราะผู้เขียนมีนโยบายว่า ...........อดเอา เก็บท้องไว้ไปกินบ้านเรา เอิ๊กกกก



                          

                      

                   นั่งรถเปิดประทุนไปเรื่อย ๆ จนสุดสาย คนลงหมดแต่ผู้เขียนไม่ยอมลง จนคนขับเดินขึ้นมาบอกว่า สุดสาย อ้าวววว แล้วฉันจะไปไหนต่อเนี่ย เดิมตามคนอื่นไปเรื่อย ๆ ถามคนฮ่องกงว่าเราจะไปอ่าววิกตอเรีย กับ The Venue of Star ต้องนั่งรถเมล์สายไหน ปรากฏว่า เขาบอกว่าคุณสามารถนั่งเรือข้ามฟากจากฝั่งนี้แล้วเรือจะไปจอดที่อ่าววิกตอเรียเลย ใช้เวลาแค่ 5 นาที ค่าโดยสาร 2$  บ๊ะ ฟลุ๊ค ๆๆๆ ขนาด เอิ๊กกกกกก ซอกแซกทัวร์เริ่มเข้มข้นและมันส์เป็นระยะ ๆ ตามดีกรีการหลงทางค่ะ

               วิวสวย ๆ ของอ่าววิกตอเรียค่ะ ตึกหลังคาต่ำ ๆ เป็นตึกสัญลักษณ์ที่สร้างขึ้นมาเพื่อรำลึกถึงการคืนเกาะฮ่องกงจากอังกฤษให้กับทางการจีน และมีการเซ็นสัญญามอบเกาะกันที่อาคารหลังนี้ค่ะ ปัจจุบันใช้เป็นที่ทำการพิพิธภัณธ์ค่ะและจัดนิทรรศการประมาณ อิมแพคเมืองทองธานี บ้านเราน่ะค่ะ


              วิวสวย ๆ ของบริเวณอ่าววิกตอเรียกับ The Venue of Star รอให้พลบค่ำเพื่อชม Sympony of lLight การเล่นแสง สี เสียงที่ยิงผ่านตึกสองฟากฝั่งอ่าววิกตอเรียค่ะ


                            ปลาหมึกบดค่ะ แต่ต่างจากบ้านเราคือเค้าจะใช้ปลาหมึกสด ๆ มา Wave แล้วค่อยบดตัวนึงตกราว ๆ 120 บาทค่ะ ตัวใหญ่เป็นอาหารมื้อแรกที่ผู้เขียนคิดว่าไม่แพง อาจจะเป็นเพราะผู้เขียนเป็นคนหลังเขาบ้านอยู่ไกลทะเลก็ได้ เอิ๊กกกกก กินไปกินมานึกถึงแจ๋วปลาร้าบองแถวบ้าน ถ้าได้มาจิ้ม+คลุกข้าวร้อน ๆ คงแซบอีหลีค่ะ


                Diner on night คุณสุนีย์ เจ้าของร้านอาหารไทยในฮ่องกง คนอุดรธานี ขอเป็นเจ้าภาพเลี้ยง 1 มื้อส่งท้ายก่อนกลับเมืองไทย ทำให้ผู้เขียนปกติไม่ทานข้าวเย็นและถือศีลห้า ต้องขออาราธนาศีลห้าออกจากตัวชั่วคราวน่ะเจ้าค่ะหลวงปู่เจ้าขา เพราะเกรงว่าเจ้าภาพจะเสียน้ำใจ............ไขโย้ ขอให้เจ้าภาพจงเจริญ คิดเงินให้ได้เงิน คิดทองให้ได้ทอง เอิ๊กกกกกก

            จุดที่ขึ้นไป Diner เป็นรอยเชื่อมต่อระหว่างตึกสองตึกอยู่ชั้นที่ 20 ถ่ายจากจุดนี้ แหงนจนคอหงายเงิบ ก็มองไม่เห็นยอดตึก ต้องใช้วิธีนั่งยอง ๆ กับพื้นแล้วตะแคงกล้องถ่ายจึงได้ภาพบรรยากาศสวย ๆ แบบนี้ค่ะ ฟ้าก็ช่างแสนดีเป็นใจเหลือเกิน แถมเทวดายังประทานเมฆลอยเคลื่อยตัวมาช้า ๆ ในจังหวะที่ผู้เขียนกำลังเล็งกล้องพอดีเลยค่ะ สวยไหมค่ะ


 


                   ตีกสองตีกที่เห็นอย่านึกว่าอยู่ใกล้ ๆ น่ะค่ะ อยู่ไกลมาก ค่ำคืนกับ Symphony of light สวยงามมากค่ะ เขาเอาขยะมาถมทะเลแล้วใช้วิศวกรจากทั่วโลกมาสร้างตึกสูง ๆ แบบนี้แหล่ะค่ะ พบเห็นได้ทั่วเกาะฮ่องกง












       

           คณะที่มาเลี้ยงต้อนรับผู้เขียนค่ะ 


เช้าวันสุดท้ายก่อนขึ้นเครื่องกลับเมืองไทย ผู้เขียนนั่ง AE Expess  ไปฝากกระเป๋าไว้ที่สนามบิน ค่า AE Expess แพงมากค่ะ ตกคนละ 400 กว่าบาท แต่อยากลองนั่งดูว่าข้างในเป็นไงบ้าง หรูหรากว่าเครื่องบินที่ผู้เขียนนั่งมาซะอีกค่ะ แถบน้ำเงินข้างบนจะแสดงพิกัดว่ารถไฟถึงไหนแล้วค่ะ ส่วนจอที่เห็นก็โฆษณาอะไรไปเรื่อยเปื่อยค่ะ


AE Expess มีที่วางกระเป๋าใบใหญ่ ๆ เราไม่ต้องลากไปวางให้เกะกะที่นั่งค่ะ ปกติบางสายการบินจะมีที่ให้โหลดกระเป๋าสัมภาระจากตัวเมืองแล้วเราสามารถไปเที่ยวต่อจนกว่าจะขึ้นเครื่องกลับ แต่เนื่องจากผู้เขียนไป กลับ หางแดง เป็นสายการบินต้นทุนต่ำ ไม่มีบริการพวกนี้ค่ะ เลยต้องเอากระเป๋าไปฝากไว้ที่สนามบินก่อน




 ที่ฝากกระเป๋าในสนามบินค่ะ สองใบโดนไปประมาณ 680 บาท เสียดายตังค์มาก ทั้ง ๆ ที่ทีแรกตั้งใจว่าจะฝากไว้ที่ City Gate ถูกกว่ากันหลายร้อย แต่อารามเริ่มเหนื่อยและล้าแล้ว ไม่อยากลากกระเป๋าหนัก ๆ


ฝากกระเป๋าเสร็จแวะมาขึ้นกระเช้า Nong Ping ซื้อตั๋วผ่าน Agency ที่เมืองไทยไว้แล้วค่ะ แต่ปรากฏว่ายังต้องมาเข้าแถวที่ยาวเหยียดและนานมาก ชัวโมงเศษ ๆ จนเหนื่อยและไม่อยากขึ้นไปแลยล่ะ



     วิวสวย ๆ บน Nong Ping ค่ะ


               จริง ๆ แล้ว ภาพนี้ผู้เขียนอยากอวดรองเท้าคุ่ใหม่ที่ถอยมาจาก Nong Ping ค่ะ ชอบมาก นิ่มด้วย แถมราคาคุ่ละแค่ 800 บาทเองค่ะ

                                                                               และแล้วก็ถึงเวลากลับเมืองไทยซะที ทริปนี้ 4 วัน 3 คืน รวมค่าเครื่อง +อาหาร+ที่พัก+รถ+ตั๋วเข้าชม หมดไป 12,568 บาทค่ะ

             ผู้เขียนมีเกร็ดเล็กน้อยมาฝากสำหรับข้อดีของการ Back Packer คือ ประหยัดเงิน แต่ละทริปไม่ควรเกิน 4 คน ทำให้เราเป็นคนวางแผนและรอบคอบตลอดเวลา เพราะต้องหาข้อมุลและเตรียมตัวตลอดเวลาค่ะ นั่งแท๊กซีคุณจะมองไม่เห็นอะไรเลย แต่ถ้านั่งรถเมล์หรือเดินเอาจะทำให้เราจดจำรายละเอียดสองข้างทางได้เป็นอย่างดี อย่าขนสัมภาระมากเกินจำเป็น ควรแยกเก็บเงินไว้หลาย ๆ ที่ เลือกกระเป๋าถือมีช่องซ่อนเงิน+พาสปอร์ต ดี ๆ  ควร Scan pasport เก็บไว้ใน Email หรือถ่ายเอกสารเก็บไว้ในกระเป็าใบใหญ่เผื่อสูญหาย เวลาเดินไปเจอคนเยอะ ๆ ควรย้ายกระเป๋ามาไว้ด้านหน้า พยายามหาร้านอาหารที่อยู่ในย่ายชุมชนที่ไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยวคุณจะได้ลิ้มมรสอาหารพื้นเมืองแถมราคาถูก ซื้ออาหารใน Super Market หลัง 6 โมงเย็นราคาจะถูกลงเยอะเลยค่ะ เลือกรองเท้าที่ใหญ่กว่าเท้าจริงสัก 1 เบอร์และต้องสวมสบายเพราะหากเดินมาก ๆ เท้าจะบวม รองเท้าจะได้ไม่บีบเท้าและใส่ถุงเท้าหนา ๆ เพื่อช่วยป้องกันการเสียดสีของเท้ากับรองเท้า ผู้เขียนซื้อแผ่น Support ฝ่าเท้าของยี่ห้อ Scoll แบบเต็มเท้า รองไว้อีกชั้นสามารถพยุงหลังและหัวเข่าเราได้เยอะทีเดียวค่ะ หากติดรสชาติอาหารพื้นเมืองของตนเองควรซื้อติดกระเป๋าไปบ้างเล็กน้อย อย่างผู้เขียนเป็นคนติดปลาร้าและอาหารร้อนเผ็ด ๆ มากก็ต้องซื้อที่เขาซีนปิดผนึกอย่างดีไปแกะโรย ไม่งั้นจะไม่มีแรงเดินเที่ยวต่อ ถ้าไปที่อากาศหนาว ชุดนอน 1 ชุดสามารถใส่ได้ถึง 3 วัน (5555555555) แถมวันสุดท้ายเอากางเกงนอนมาใส่เดินเที่ยวได้ประหยัดน้ำหนักและพื้นที่ในกระเป๋าไปได้เยอะทีเดียว

                        หากรู้สึกว่าเริ่มหลงทาง อย่ากระวนกระวาย ให้ใจเย็น ๆ ตั้งสติดี ๆ มองหาคนท้องถิ่นที่พอจะพูดภาษาอังกฤษและถามเขา แผนที่เป็นสิ่งที่จำเป็นมากสำหรับ Back Packer ค่ะ ควรถือติดมือตลอดเวลาและควรมีสำรองไว้อีกอันในกระเป๋า เผื่ออันที่ใช้หล่นหายกลางทาง จะได้มีอันสำรองไว้ใช้ ไปถึงสนามบินควรหยิบแผนที่ของประเทศนั้น ๆ ที่มีแจกฟรีติดมือไปได้เลยค่ะ  หากไปเกินกว่า 10 วันควรซื้อ แคชเชียร์เช็ค ที่ขีดคร่อมสั่งจ่ายเราโดยธนาคาร เสียเงินเพิ่มนิดหน่อยแต่ปลอดภัยมาก ๆ ค่ะ เวลาจะใช้เพียงแค่นำไปแลกที่ธนาคารท้องถิ่น+ยื่นพาสปอร์ต ก็ได้รับเงินสดมาแล้วค่ะ

                      เดือนหน้าจะพาไป Back Packer Singaproe น่ะค่ะ บ๊าย บาย ค่่ะ ขอบพระคุณทุกท่านที่เป็น Fan Club ครูน้องน่ะค่ะ

                                                       นิภารัตน์  วงษ์วิชา

                                       นักวิชาการศึกษา      สพป.อุดรธานี เขต 3

                                                     13 เมษายน 2556

ติดตาม Link ที่เกี่ยวข้องได้ที่นี่ค่ะ

ซอกแซกทัวร์ มาเก๊า ฮ่องกง ตอนที่ 1 กับเงิน 12,568 บาท   http://www.gotoknow.org/posts/532796

ซอกแซกทัวร์ มาเก๊า ฮ่องกง ตอนที่ 2 กับเงิน 12.568 บาท   http://www.gotoknow.org/posts/532852

ซอกแซกทัวร์ มาเก๊า ฮ่องกง ตอนที่ 3 กับเงิน 12,568 บาท   http://www.gotoknow.org/posts/532861



         

หมายเลขบันทึก: 532883เขียนเมื่อ 13 เมษายน 2013 23:14 น. ()แก้ไขเมื่อ 14 เมษายน 2013 10:58 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

สวัสดีครับ

                 ขอบคุณในการนำอัลบั้มภาพแห่งความทรงจำของคุณพร้อมความสุขมาแบ่งปันครับ

สวัสดีค่ะ นาย ธนา นนทพุทธ

                   ดีใจที่ได้ Fan Club เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งท่าน ขอบคุณที่ติดตามและดอกไม้กำลังใจน่ะค่ะ อย่าลืมติดตามซอกแซกทัวร์ไปสิงคโปร์ด้วยกัน เร็ว ๆ นี้น่ะค่ะ

ดร.พจนา แย้มนัยนา

555555555 เปรี้ยว (เหลือน้อย)จ้า

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท