พระบรมราชานุเคราะห์ชาวเขา (๕)


ตีพิมพ์ใน Facebook เมื่อ March 30 

ต่อจากคำบรรยายในตอนที่ ๔
==================

๑. รักษาดินบนดอย การทำไร่เป็นขั้นบันไดนั้น ก็เพื่อรักษาไม่ให้ดินดีบนผิวหน้าถูกฝนเซาะไหลลงเขาไปหมด ทิ้งไว้แต่ดินดาน ซึ่งพืชอื่นๆนอกจากหญ้าคาขึ้นไม่ได้.

๒. มันฝร่ังนั้น บนที่ราบปลูกได้เพียงหน้าหนาว โดยใช้หัวพันธุ์ที่สั่งมาจากยุโรป เพราะหัวที่ปลูกได้เองในเมืองไทยนั้นจะงอกเสียหมดเมื่อถึงหน้าฝน แต่บนดอยนั้น อากาศหนาวพอที่จะปลูกได้ในหน้าฝน เมื่อขุดหัวได้ มันก็จะเริ่มขาดตลาด ราคาจะดี ส่วนหัวเล็กๆยังจะเอาไปปลูกบนที่ราบในหน้าหนาวได้อีก ไม่ต้องสั่งพันธุ์มาจากยุโรป.

๓. สำหรับผักนอกฤดูนั้น ผมขอยกตัวอย่างราคากะหล่ำปลี บนที่ราบเก็บกะหล่ำปลีเดือนพฤษภาคม ขายได้กิโลละ ๓๐ สตางค์ บนดอยปลูกหน้าฝน และเมื่อเก็บหัวได้ก็จะขายกิโลละ ๓ บาท สำหรับเมล็ดพันธุ์นั้นสะดวกแก่การขนส่งมาก โดยเฉพาะตามดอยที่ห่างไกลคมนาคม แต่การผลิตใช้เทคนิคสูงมาก.

๔. ต้นไม้ผลเมืองหนาว แอปเปิ้ล พลับ เกาลัดต่างๆนั้น ถ้าปลูกได้เป็นรวย แต่ใครทราบบ้างว่าต้นไม้ที่กล่าวมานี้มีขึ้นอยู่บนอดยของประเทศเรา เป็นต้นไม้ป่าที่ขึ้นเอง ซื่อมะขี้หนู มะกล้วยฤาษี และก่อ นอกจากนี้ ถ้าเราเอากิ่งของต้นไม้ฝรั่งมาต่อยอดของต้นไม้ป่า และต้นท้อแล้วลูกที่ออกมาจะเป็นแอปเปิ้ล พลับ เกาลัด พี้ช และสาลี่ พลับ เอปริค๊อท บ๊วย ซึ่งถ้าชาวเขาปลูกแล้ว ก็จะมีรายได้ดีกว่าปลูกฝิ่น และย่อมจะไม่ทำไร่เลื่อนลอยไปจากต้นไม้อันมีค่าเหล่านี้ ผมขอเล่าในที่นี้ว่า ญี่ปุ่น อิตาลี อิสราเอล ไต้หวัน อเมริกา ได้ทูลเกล้าฯ ถวายต้นไม้ผลพันธุ์ต่างๆมาทดลองแล้ว และผมได้ข่าวว่าฝรั่งเศส อิหร่าน ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์กำลังจะทูลเกล้าฯถวายด้วย.

๕. สำหรับสัตว์นั้น ทางโครงการจะให้คามช่วยเหลือในเรื่องหมู แต่ไม่ส่งเสริมให้เลี้ยง เพราะหมูนั้นต้องผลิตอาหารให้มันกิน และที่ดินบนดอยหายาก ควรใช้ปลูกของแพงๆ ไม่ใช่ผลิตอาหารหมู แต่ไร่ฝิ่นเก่าที่มีแต่หญาคาขึ้นนั้น ควรใช้เลี้ยงแกะ เพราะเนื้อกินได้แล้วขนยังเอาไปทำเครื่องนุ่งห่มอันอบอุ่นอีกด้วย เวลานี้ได้ทรงเอาแกะไปพระราชทานตามดอยแล้วแห่งละ ๕ ตัว.

๖. มีรับสั่งว่า ชาวเขานั้น เราต้องช่วยเขา ให้ช่วยตัวเอง คอยแต่เลี้ยงดูอยู่จนเคยตัว เราจึงพยายามแนะนำให้เขารวมกลุ่ม เพื่อให้ซื้อของได้ในราคาพอสมควร และขายผลิตผลได้ในราคาที่ดี เรื่องช่วยชาวเขาช่วยตัวเองนั้น ควรขยายความโดยเอาเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วมาเล่า วันหนึ่งที่ปางป่าคา หมู่บ้านชาวกะเหรี่ยงขาว ผู้ใหญ่มาบอกผมว่าอยากจะขอข้าวพระเจ้าอยู่หัว เพราะข้าวของพวกเขาหมดแล้ว วันหนึ่งๆ ต้องออกไปหาหน่อไม้ในป่า แล้วไปแลกข้าวที่ตลาด ต้องทำอย่างนี้ทั้งวัน ไม่มีเวลาไปปลูกผักที่จะขายได้ราคาดี ผมรับว่าจะไปขอพระราชทานให้ แต่เอาอย่างนี้เป็นไง ขอพระราชทานยืม เมื่อเก็บเกี่ยวข้าวของเองได้ก็เอามาใช้ท่าน ถ้าเขาเอาแล้ว ผมจัดการให้ได้เดี๋ยวนั้นทันที เขาว่า ดีๆ อยากจะขอยืม.

ผมก็ถามว่าถ้ายืม ๑๐ ถังแล้วจะใช้คืนกี่ถัง เขาพูดซุบซิบปรึกษากันพักหนึ่งแล้วบอกว่า “หมู่เฮาตกลงยืม ๑๐ ถัง ใช้ ๑๔ ถัง” ผมบอกว่าเอาแค่ ๑๒ ถังก็พอ แต่เขาต้องรวมกันเป็นหมู่ พระเจ้าอยู่หัวพระราชทานให้หมู่ยืม แล้วหมู่จัดการกับกะเหรี่ยงแต่ละคนต่อไป หมู่ต้องรวบรวมเอาข้าวคืนพระเจ้าอยู่หัว ๑๐ ถัง ต้นทุนท่านสำหรับเอาไว้ช่วยชาวเขาอื่นๆต่อไป ส่วนดอกเบี้ยสองถังนั้นผมจะขอพระราชทานสำหรับหมู่ได้ซื้อเมล็ดพันธ์ุผัก อะไรต่างๆตามที่หมู่จะต้องการ เขาก็ตกลง และเดี๋ยวนั้นเองผมก็เลยนัด วัน เวลา และสถานที่ที่เขาจะลงมารับข้าวแบกกลับไปรับประทานบนดอย.

พูดถึงข้าว ชาวลั๊วและกะเหรี่ยงอีกสองหมู่บ้านได้รวมกลุ่มกันตั้งธนาคารข้าว โดยได้รับเงินทุนพระราชทาน ธนาคารทั้งสองแห่งนี้ได้ให้ข้าวสมาชิกขอยืมไปและเมื่อฤดูเก็บเกี่ยวคราวที่แล้วก็ได้รับข้าวคืนมาเต็มยุ้ง พร้อมที่จะให้สมาชิกหยิบยืมได้เมื่อข้าวขาดมือต่อไป ผมต้องเรียนให้ทราบว่า พวกชาวเขานั้นตามธรรมดาเมื่อยืมข้าวจะต้องเสียดอกเบี้ย ๕๐ เปอร์เซ็นต์ ๓-๔ เดือน ส่วนมาก เมื่อใครต้องหยิบยืมข้าวแล้วก็ไม่มีทางที่จะใช้หนี้ให้หมดได้ ดอกเบี้ยจะพอกหางหมู และทุกปีข้าวที่เหลือได้รับประทานจะลดน้อยลงอยู่เรื่อย

ผมจะเล่าอีกเรื่องหนึ่ง เกี่ยวกับการซื้อและขายของชาวเขา ดังที่พูดกันอยู่ทั่วๆไป เมื่อชาวเขาลงมาซื้อของก็จะถูกขูดเลือด และเมื่อแบกผลิตผลจากดอยลงมาขาย พ่อค้าก็จะกดราคา ชาวเขาไม่ยอมขาย จนกระทั่งชักจะเย็น ชาวเขาไม่ต้องการแบกผักกลับขึ้นดอย ก็จะต้องตัดใจขายในราคาที่ต่ำกว่าตอนแรกเสียอีก 

ทีนี้ หมู่บ้านของเราแห่งหนึ่งเป็นชาวเย้า เย้าพวกนี้เมื่อปลายฝนจะขึ้นไปปลูกฝิ่นบนยอดดอย เลยเข้าไปถึงพม่า ส่วนต้นฝนจะปลูกข้าวไร่อยู่ตีนดอย เมื่อต้นฝนก่อนนี้มี เย้าสามคนปลูกกะหล่ำปลีตามที่เราแนะนำ เขารวมกันตั้งเป็นหมู่ปลูกผัก เขาต้องการซื้อเมล็ดพันธุ์ ปุ๋ย และยาฆ่าแมลง เราก็พาตัวแทนของหมู่ไปหาพ่อค้าขายเมล็ดพันธุ์และปุ๋ย ซึ่งร่วมทำงานในโครงการถวายด้วย หมู่ปลูกผักนี้ก็ได้เมล็ดพันธุ์และปุ๋ยในราคาถูก ซื้อเงินเชื่อ ชำระเมื่อเก็บเกี่ยวแล้วด้วย 

ทีนี้เมื่อถึงเวลาเก็บเกี่ยว พ่อค้าพรรคพวกของเราก็พาเย้าตัวแทนหมู่ไปหาพรรคพวกของเขาซึ่งรักซื้อกะหล่ำปลีส่งกรุงเทพ พ่อค้าผักแนะให้เอาผักไปส่งที่ตัวแทนของเขา ร้านไม่ไกลจากหมู่บ้านเย้านัก ตัวแทนจะเอาตะกร้าผูกป้ายให้ใส่ผัก และเมื่อรถบรรทุกมา ก็จะเอาตระกร้านั้นขึ้นรถส่งไปถึงกรุงเทพฯ ต่อมาอีก ๓-๔ วัน หมู่เย้าปลูกผักจะได้รับใบแจ้งว่าได้รับผักเท่านั้นกิโล ขายเท่านี้บาท เป็นเงินเท่านี้ หักค่าบริการขนส่ง เหลือเงินเท่านั้น ผลปรากฎว่า ในสามเดือน เย้าคนหนึ่งปลูกผักได้กำไรสามพันหกร้อยบาท เมื่อปลายฝนก่อนนี้แทนที่จะไปปลูกฝิ่นที่พม่า เขาอยู่ปลูกมันฝรั่งในเมืองไทย ซึ่งเราไปดูแล้วเห็นขึ้นงามมาก หน้าฝนที่จะถึงนี้ เย้าอีกหลายรายมาสมัคเข้ากลุ่มจะปลูกผัก เย้ากลุ่มนี้ช่วยตัวเองได้แล้วในเรื่องการซื้อและขาย เราไม่ต้องทำอะไรนอกจากนานๆก็เช็คเสียทีหนึ่ง แต่เราจะต้องเช็คกันบ่อยแค่ไหน และพ่อค้าที่เป็นธรรมกับชาวเขามีมากน้อยเพียงใด 

เราควรจะตอบปัญหาดังว่าได้ด้วยการสมมติ สมมติว่าเราเป็นพ่อค้าขายผัก วันหนึ่งมีชาวเขาแต่งตัวประหลาดๆพูดไม่ค่อยรู้เรื่อง เอาผักมาขายอย่างเงอะๆงะๆเอาเสียเลยไหมเรา ซื้อราคาถูก หมูๆเข้าปาก ทีนี้ถ้ามีพรรคพวกกันเอาชาวบ้านเย้ามาหา และแนะนำให้รู้จัก เมื่อเขาเอากะหล่ำปลีมาขาย เราจะกดราคาเขาลงไหม อย่าลืมว่าทุกกิโลของกะหล่ำที่ซื้อเราได้กำไร ซื้อมากกำไรมาก ถ้าโดนกดราคาจนไม่คุ้มแล้ว พวกเย้าก็จะเลิกปลูก และเราก็จะไม่ได้กำไรจากเย้าผู้นั้น ห่านขนทอง เราจะถอนขนมันจนตายไหม

ด้วยเหตุนี้ผมจึงคิดว่า ถ้าเราแนะช่องให้ชาวเขาช่วยตัวเองได้แล้ว เราก็ไม่ต้องกังวลอะไรอีกมากนัก โครงการพระบรมราชานุเคราะห์ชาวเขาดำเนินมาปีหนึ่งแล้ว ผลเป็นอย่างไรเราวัดไม่ได้แน่นอน แต่ผมพูดได้ว่า หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ไร่เป็นขั้นบันไดงอกจนดูแปลกตาทุกครั้งที่ไปเยี่ยม อีกหมู่บ้านหนึ่งพวกแม้วเอากิ่งพี้ชของเราไปต่อกับต้นท้อเรียบร้อยแล้ว ๒๐๐ ต้น 

แต่อย่างไรก็ตาม เราคาดว่า ฤดูเพาะปลูกที่จะถึงนี้ กิจการควรจะก้าวหน้าไปดีขึ้น เพราะตามที่ผมเรียนไว้แล้ว เราส่งเสริมกิจการกสิกรรมโดยผ่านตำรวจ ซ่่ึงไม่มีความรู้เรื่องกสิกรรมเท่าใดนัก นอกจากนี้ตำรวจยังต้องเป็นครู เป็นหมอ เป็นพี่เลี้ยงหมู่บ้าน เป็นตำรวจด้วย

ดังนั้นเวลาที่เจียดมาให้เราต้องจำกัดเป็นธรรมดา แต่เวลานี้ เรามีเจ้าพนักงานซึ่งจบวิชาเกษตรขั้นอาชีวศึกษา ๑๐ คน กองสงเคราะห์ชาวเขาถวายให้มาทำงานในโครงการ ทั้งสิบท่านเวลานี้กำลังฝึกวิธีผลิตเมล็ดพันธุ์ผักอยู่กับผู้เชี่ยวชาญจากไต้หวันที่สถานีกสิกรรมแม่โจ้และฝาง และเมื่อเสร็จจากการอบรมแล้ว เราก็จะส่งไปประจำหมู่บ้านในโครงการ เพื่อทำงานด้านเกษตรแทนตำรวจ

นอกจากนี้ แผนกยาเสพติดของสหประชาชาติได้มาสำรวจและวางแผนจะให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศไทย จุดประสงค์ส่วนหนึ่งก็คือ ให้ชาวเขาปลูกพืชอื่นแทนฝิ่น ดังนั้น สหประชาชาติจึงจะสนับสน_นโครงการพระบรมราชานุเคราะห์ชาวเขา รายละเอียดคงจะเปิดเผยไม่นานนี้ เพราะผมทราบว่าเลขาธิการสหประชาชาติได้ส่งแผนการมาให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ เพื่อเสนอต่อรัฐบาลไทยแล้ว อนาคตของโครงการจะเป็นอย่างไร ผมว่าถ้าจะให้ดีควรจะสลายตัวไปเสีย เพราะโครงการนี้เป็นโครงการส่วนพระองค์ และทรงเริ่มขึ้นก็เพราะความต้องการมีอยู่ ความต้องการที่หน่วยราชการยังไม่สามารถสนองได้ ต่อไปหน่วยราชการอย่างใดอย่างหนึ่งควรจะมาอุดรูไว้ได้ และโครงการส่วนพระองค์นี้ก็จะได้ถอนตัวออกไป แล้วทำอย่างอื่นแทน 

แต่ก่อนที่ผมจะถอนตัวไปจากห้องนี้ ผมมีปัญหาซึ่งอยากจะแถลงเผื่อท่านสมาชิกผู้มีเกียรติจะช่วยเราได้ ปัญหาของผมอยู่ในย่ามนี้ ในนี้มีเสื้อกะเหรี่ยงและกางเกงเย้า ส่วนตัวย่ามเองก็เป็นย่ามกะเหรี่ยง ชาวเขาแทบทุกเผ่ามีฝีมือในการทอผ้าและปัก เขาอยากจะหารายได้จากหัตถกรรมครัวเรือนนี้ และเราให้ทุนเขายืมเอาไปซื้อวัตถุดิบแล้ว แต่ปัญหาหรือความช่วยเหลือที่ทางโครงการต้องการมีอยู่สองทางคือ

๑. การจำหน่าย เราควรติดต่อกับร้านค้า ที่โฮเต็ลและร้านอื่นๆที่นักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศไปให้ร้านเหล่านี้ซื้อหัตถกรรมของชาวเขาเป็นประจำ โดยเป็นธุรกิจ ไม่ใช่การกุศล

๒. ดัดแปลงแบบของชาวเขา ให้ชาวต่างประเทศเอาของเหล่านั้นไปใช้ได้ ยกตัวอย่างเช่น เสื้อกะเหรี่ยงตัวนี้ ถ้าทำให้แคบและยาวขึ้นแล้ว ก็จะใส่เป็นกระโปรงได้

สองเรื่องที่กล่าวนี้ ใครจะช่วยอะไรได้ก็ขอให้ไตร่ตรองดู แล้วบอกผมด้วย

(จบคำบรรยาย)


หมายเลขบันทึก: 532879เขียนเมื่อ 13 เมษายน 2013 22:13 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 เมษายน 2013 22:13 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

สวัสดีครับ

                 ขอบคุณในสาระดี ๆ มีประโยชน์  นำมาแบ่งปันครับ

อย่าลืมอ่านย้อนหลังไปจนถึงตอนที่หนึ่งนะครับ จะได้เข้าใจที่มาที่ไป

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท