โสภณ เปียสนิท
นาย โสภณ เปียสนิท ตึ๋ง เปียสนิท

บันทึกการเดินทางสู่สิงคโปร์



  ชีวิตเหมือนการเดินทาง จากก้าวแรกสู่ก้าวสุดท้าย จากสถานที่แรกจนถึงสถานที่สุดท้าย จากชีวิตเริ่มแรกไปสู่วันสุดท้ายของชีวิต การเดินทางสู่ประเทศสิงคโปร์ครั้งนี้จึงเป็นอีกก้าวหนึ่งของชีวิต กล่าวกันว่าสิงคโปร์ ประเทศเพื่อนบ้านขนาดเล็ก เทียบเท่ากับเกาะภูเก็ตของไทย
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ เตรียมพร้อมสำหรับประชาคมอาเชี่ยนที่กำลังจะเกิดขึ้นในปี ๒๕๕๘ ที่จะถึง ด้วยการส่งคณาจารย์ไปศึกษาดูงานวิชาการจากหลายประเทศ หลายคณะ คราวนี้ ณาจารย์ด้านภาษาอังกฤษ และคณาจารย์ด้านอุตสาหกรรมโรงแรมและการท่องเที่ยว ซึ่งอยู่ในโครงแลกเปลี่ยนคณาจารย์ของมหาวิทยาลัยอื่นๆในต่างประเทศ
ถือว่าเป็นโอกาสอันดีที่ได้เรียนรู้ “ภาษาอังกฤษ” โดยตรงกับชาวต่างชาติ แถมยังได้เรียนรู้ “การสร้างชาติ” ของประเทศเล็ก มีประชากรแค่ ๕ ล้านเศษให้ก้าวสู่ความเป็นมหาอำนาจในภูมิภาคได้อย่างสมภาคภูมิได้อย่างไร
  แค่สองเรื่องที่อ้างถึงก็น่าสนใจไม่น้อย ปัญหาอยู่ตรงที่ว่า จะหาคำตอบได้หรือไม่ และจะหาได้ด้วยวิธีการอย่างไร ๑๐ มีนาคม ๒๕๕๖ คณะของเรา ๒๗ ชีวิต เดินทางจากหัวหินตอนตีสาม แต่ก่อนไก่โห่ พร้อมสัมภาระคนละหนึ่งถึงสองกระเป๋า เพราะการเดินทางไปพักต่างแดนยี่สิบกว่าวันไม่ใช่น้อย หลายคนเป็นห่วงเรื่องอาหาร เตรียมน้ำพริกเผา อาหารสำเร็จรูปไปคนละห่อสองห่อ บางคนห่วงเรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า ต่างเตรียมปลั๊กไฟไปด้วยหลายคน ถึงสนามบินก่อนเจ็ดโมงเช้า จัดการแลกเงินไทยเป็นเงินสกุลสิงคโปร์เพื่อใช้จ่ายคนละ หมื่นสองหมื่นบาทไทย ได้เงินสิงคโปร์ราว หกร้อยเหรียญ ถึง หนึ่งพันเหรียญ อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ ยี่สิบสี่ถึงยี่สิบห้าบาทต่อเหรียญ (ดอลลาร์สิงคโปร์)
  แลกเงินเป็นดอลลาร์สิงคโปร์กันแล้วกลับมาที่นำกระเป๋าใหญ่ขึ้นตราชั่ง หลายคนสีหน้ากังวลน้ำหนักสัมภาระที่ค่อนข้างมากเกรงว่าจะเกินยี่สิบกิโลกรัม แต่โชคดีไม่มีกระเป๋าของใครน้ำหนักเกิน ยังเหลือเวลาอีกสองชั่วโมงกว่า เราเดินลงไปชั้นล่างหาอาหารรับประทานก่อนจะแวะหาซื้อของอีกเล็กๆ น้อยๆ ฆ่าเวลา บางคนเดินเข้าข้างในห้องผู้โดยสารเพื่อพักผ่อน ผมเองเดินชมร้านค้าไปเรื่อยๆ เพราะนานๆ จะมาสนามบินสักครั้ง มองไปข้างนอกรอบสนามบินบ้าง นึกภาพของ “หนองงูเห่า” สมัยก่อนแล้วมองไม่ค่อยจะเห็นภาพในปัจจุบันสักเท่าไร แต่ยังแอบเห็นนกปากห่างบินผ่านไปอย่างเดียวดายตัวเดียว ถ่ายภาพไม่ทัน ไม่อย่างนั้นอาจได้เห็นภาพนกบินในสนามบินของเรา แต่ยังได้ถ่ายภาพยามอรุณรุ่งที่หนองงูเห่า และถ่ายภาพผ่านกระจกไปเก็บภาพสิงคโปร์แอร์ไลน์ไว้เป็นที่ระลึก เพราะมีข่าวว่านกในทุ่งเดิมมีอยู่มาก เมื่อมีสนามบินเกิดขึ้น นกย่อมเป็นกลายเป็นผู้ร้ายในสนามบินไปทันที
ถึงเวลาผ่านช่องตรวจสอบวัตถุอันตราย เราเดินผ่านเครื่องตรวจสอบ ต้องถอดเข็มขัด รองเท้าที่มีเหล็กประกอบอยู่ กระเป๋าเงิน แหวน นาฬิกา ขวดน้ำพลาสติกที่ใส่ไว้ในกระเป๋ายังถูกตรวจพบและขอเปิดกระเป๋า และห้ามนำน้ำเปล่าเข้าด้านใน จึงขอดื่มน้ำให้หมดที่ตรงนั้นแล้ววางขวดพลาสติกเปล่าไว้ให้เจ้าหน้าที่รับผิดชอบต่อไป เดินผ่านงวงช้างทางเชื่อมต่อก่อนถึงประตูเครื่องบิน มีเจ้าหน้าที่แจกหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษให้อ่านด้วย จึงขอรับมาหนึ่งฉบับ แม้จะรู้ว่าอาจไม่ได้อ่านไม่ในตอนนี้ แต่จะเก็บไว้อ่านในตอนหลัง

 



หมายเลขบันทึก: 531801เขียนเมื่อ 31 มีนาคม 2013 22:43 น. ()แก้ไขเมื่อ 31 มีนาคม 2013 22:45 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

ไปกันหลายคน สนุกดีครับ

รออ่านบันทึกในสิงคโปร์ต่อนะครับ อยู่ตั้งยี่สิบกว่าวันหรือครับครูใหญ่...

สวัสดีครับอาจารย์

ฝากเยี่ยมเยือนคุณปริมด้วย นะครับ

สวัสดีครับอาจารย์

ไม่ได้อ่านบันทึกของอาจารย์มานาน อยากอ่านบทกวีที่สิงคโปร์....

ธ.วั ช ชั ย
ใช่เลยครับไปกันยี่สิบเจ็ดคน

ยี่สิบวันครับผม

อยู่หลายวันมาก แถมไปหลายคนด้วย

น่าสนใจมากๆๆ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท