จดหมายถึงครู l เขียน เขียน เขียน
กราบสวัสดีค่ะครู
เหมือนหนูเองต้องกลับมาถามตนเองซ้ำ ๆ เมื่อต้องกลับมาทำงานเขียนใหม่ เป็นอะไรที่ ไม่อยากเขียน พอเขียน ๆ ไป บางคราพอเจอ ตอ เจออุปสรรค ก็เหมือน ไม่มีแรงที่จะรับ ครูก็เมตตาย้ำว่า
“เป็นข้อวัตร”
กับถ้อยคำสั้น ๆ ของครูก็เป็นเครื่องย้ำ ว่า ศีลด่างพร้อย ขาดร่วงหากละเลย
ตั้งแต่เริ่มบวชก็ไม่ได้ได้เขียนงาน ถอดบทเรียนสารพัดจะข้ออ้าง
ที่จิตจะใช้เจ้าค่ะ จุดที่ใช้ชีวิตอยู่ หากเผลอสติ ความเศร้าหมองก็จักเข้ามาครอบงำได้ง่าย
ชีวิตที่ดำเนินไปใจระลึกถึงคำของครูมาสอนว่า “เรากำลังเดินทวนกระแส”
หากระลึกแล้วว่า การได้พบได้เจอแล้วทำให้เขาได้เกิดอกุศล หลบได้ก็หลบซะ หลบไม่ได้ก็เผชิญ แต่ให้ใช้ปัญญาและอดทน
นี่แหละเมตตาเขา
ใจระลึกกับตนเองว่า “หากทุกข์ ก็ อดทนจัดการทุกข์ในตนเองก่อน อย่าให้ล้นไปลำบากครู”
รับรู้กับตนเองได้เจ้าค่ะว่า “ครูอ่อนแรง”
การทำงานที่นี่ได้รับการดูแลอย่างดีจากนายและพี่ ๆ ให้โอกาสดูแล เอาใจใส่
ให้ได้เรียนรู้ในสิ่งที่ควรรู้ จุดที่ได้มานั่งอยู่
ทำให้เข้าใจนาย เข้าใจเลขา ว่าในแต่ละวัน
ต้องทำงานและเจออะไรบ้าง ครบทุกด้าน แบบบน ล่าง ซ้าย ขวา หน้าหลัง
หากไม่ได้มานั่งเห็นและเรียนรู้ตรงนี้ หนูไม่มีโอกาสจะเข้าใจได้เลยเจ้าค่ะครู
ที่เห็นได้ชัดคือ ทุกคน รับผิดชอบและปฏิบัติหน้าที่ให้ดีที่สุด มีการเตรียมการเตรียมความพร้อมในการทำงานอย่างเต็มที่ แบบไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ทั้ง ๆ ที่มองเข้าไปในแววตาแล้วรู้สึกได้ว่า “เหนื่อย”
วิถีชีวิตนี้ทำให้หนูได้เห็นความงดงามของผู้บริหารในการดูแลลูกน้อง รักและเอาใจใส่ ตามแบบฉบับของตนเอง
แบบที่มองเผื่อตนเองยังไม่พอ ต้องมองเผื่อลูกน้อง มองเผื่อสำนักงาน มองเผื่อกรม และมองเผื่อประโยชน์ส่วนรวม
การเกื้อกูลกันของทีมงานเลขารวมถึงการติดต่อประสานหัวหน้าหน่วยต่าง ๆ ให้เหมาะสมของทีมเลขา
เป็นโอกาสดี ๆ ที่ได้มาเห็นและเรียนรู้ค่ะครู
ไม่มีความเห็น