รุ่นพี่สอน


  "... แม่นตัวบท  เข้าใจฎีกา   อ่านตำราประกอบ  ฝึกทำข้อสอบเป็นประจำ  รับประกันสอบได้.."

    ประโยคข้างบนดังกล่าว รุ่นพี่ที่เรียนกฎหมายมาก่อน เคยแนนำให้ผู้เขียนปฏิบัติตามกฎดังกล่าว

หากทำได้ดังที่รุ่นพี่แนะนำ รับรองสอบได้แน่นอน 

        ผู้เขียนเคยไปเรียนกฎหมายที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง เป็นเวลาเกือบครบกำหนด ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ ต่อมาหลังจากได้ย้ายไปอยู่ต่างจังหวัด ต้องตัดสินไปเรียนมหาวิทยาลัยราชภัฎประจำจังหวัด  จนจบปริญญาตรี

        แตด้วยใจที่อยากแก้แค้นที่เรียนกฎหมายไม่จบกับเขา จึงได้ตัดสินลงทะเบียนเรียนกับมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช(มสธ)  โดยเทียบโอนหน่วยกิต ได้จำนวน ๖ ชุดวิชา และจะต้องเรียนวิชาภาคบังคับและวิชาเลือกอีก ๑๘ ชุดวิชา

       เพราะความผิดพลาในอดีต  ทำให้มีการวางแผนเรียนอย่างเคร่งครัด โดยตั้งใจว่าจะต้องอ่านตำราให้ได้อย่างน้อยวันละ ๕๐ หน้า/วัน เนื่องจากตำราเรียนของ มสธ. ใครเคยเรียนจะต้องตกใจ เพราะแต่ละเล่มหนามากๆๆ ! ! เหมาะสำหรับหนุนหัวนอน ฮา ฮา ฮา 111 

       หลังจากลงทะเบียนเรียนแล้ว ก็สอบถามกูรูทั้งหลายที่เคยประสบผลสำเร็จ และนอกจากนั้นตำราของ สมธ.จะรวบรวมเทคนิคของนักศึกษารุ่นพี่ที่ประสบผลสำเร็จมาสัมภาษณ์ไว้ถึงเทคนิคในการเรียนของแต่ละคน เราก็นำเอาในส่วนตรงกับจริตของเรามาใช้

        ด้วยความมุงมั่นและตั้งใจ ประกอบการมีวินัย เคร่งครัดกับตนเอง ทำให้ผู้เขียนเรียนจบกฎหมายภายใน ๒ ปี ครึ่ง  และตลอดเวลาที่เรียนมา เคยสอบตกเพียงวิชาเดียว คือ วิชากฎหมายภาษีอากร และมาสอบซ่อมอีก ๑ ครั้ง ก็ผ่าน

         ทำให้ผู้เขียนเห็นว่า...คนที่จะประสบผลสำเร็จได้นั้น จะต้องมีความุ่งมั่น มีวินัยให้กับตนเอง และมีความฝันที่จะทำให้ความฝันของตนกลายเป็นความจริง...

         หลังจากนั้น ได้มาเรียนที่สำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา ในช่วงนั้นผู้เขียนต้องเดินทางเข้มาาเรียนทุกวันศุกร์ เพื่อมาฟังการบรรยายภาคเสาร์-อาทิตย์ เป็นเวลาประมาณ ๓ เดือน   เพื่อมาดูแนวการสอนและแนวการออกข้อสอบว่าเป็นอย่างไรบ้าง

        พอรู้แนวทางแล้ว ก็ดูหนังสือที่ต่างจังหวัด โดยยึดถือหลักว่า...ว่างเมื่อไร่อ่านเมื่อนั่น...เวลาเดินทางไปไหนจะต้องพกตัวบทติดตัวไปทุกที่ ไม่ว่าจะอยู่บนรถเมล์ รถไฟ นั่งรอรถ ก็สามารถหยิบหนังสือ/ตำรามาอ่านได้ทุกสถานที่โดยไม่ปล่อยเวลาให้เสียไปโดยเปล่าประโยชน์

        นอกจากนั้น บ้านพักไม่ว่า ที่ห้องนอนก็จะมีตัวบท ห้องน้ำก็มีตัวบท และทุกมุมของบ้าน มีหนังสือ/ตำราวางไว้ตลอด พอมีเวลาว่างก็จะหยิบขึ้นมาอ่าน  ที่ผ่านมาเวลาที่ทำให้น่าอ่านมากที่สุดคือ...ช่วงเวลาที่เราเข้าห้องน้ำ จะเป็นเวลาวิเศษที่สุด ไม่มีใครรบกวน และครอบครัวจะรู้กันทุกคนว่า ...เข้าห้องน้ำเมื่อไหร่ จะนานมาก ทำภารกิจส่วนตัวและอ่านหนังสือไปด้วย มีความสุขจริง ๆ ..!!!!

       ตามฝาผนังห้องน้ำ ในห้องนอน และบ้านพัก ที่มองเห็นได้ตลอดเวลา ก็จะมีแผนผังตัวบทกฎหมายติดไว้ จะเดินไปที่ตรงไหของบ้าน  ก็จะมีตัวบท องค์ประกอบของตัวบทกฎหมายติดที่ฝาผนังให้เห็น สะดวกในการอ่าน การจดจำ จนคนที่บ้านกลัวว่าเรา...จะเป็นบ้า  ฮา ๆๆๆ

       นอกจากเราจะอ่านมากแล้ว การเรียนและอ่านหนังสือเป็นกลุ่ม ก็ทำให้เราได้ทราบความคิด ความเห็นของคนอื่น เรื่องที่เรานำมาถก มาเถียงกัน ทำให้เกิดความแตกฉาน และจำได้แม่น ในกลุ่มที่เคยอ่านหนังสือด้วยกัน ทุกคนจบเนติบัณฑิต(น.บ.ท.)กันทุกคน มี ๒ คนสอบพนักงานอัยการได้แล้ว ส่วนอีกคนหนึ่งเป็นอัยการทหาร อีกคนเป็นทนายความ

      จากการประพฤติ ปฏิบัติ และทำมาอย่างต่อเนื่องในการเรียนเนติบัณฑิตดังกล่าว ทำให้ผู้เขียนสอบเนติบัณฑิตได้ภายใน ๑ ปี ซึ่งเป็นคนต่างจังหวัด และเท่าที่สอบประวัติมา จังหวัดที่ผู้เขียนอยู่ยังไม่เคยมีใครสอบได้เลย ช่วงที่สอบภาค ๒ ผ่าน(เดิมสอบ ๒ ภาคเท่านั้น) ไปบอกเพื่อนว่าสอบเนติฯผ่านไม่มีใครเชื่อ เขาบอกว่า...เป็นไปไม่ได้ ฮาๆๆๆๆ

     ต้องปล่อยเขาไป จนถึงวันเลาที่ผู้เขียนเข้ารับพระราชทานประกาศนียบัตรที่สวนอัมพร เขาจึงพากันเชื่อ !!! ความอ้ศจรรย์มีจริง และมีได้เสมอสำหรับคนที่ทำจริง

    ท่านที่เรียนกฎหมายอยู่ หากนำคำที่รุ่นพี่บอกมาว่า...แม่นตัวบท  เข้าใจฎีกา  อ่านตำราประกอบ  ฝึกทำข้อสอบเป็นประจำ  รับประกันสอบได้..." ไปปฏิบัติรับรองว่าประสบผลสำเร็จอย่างแน่นอน!!!!

หมายเลขบันทึก: 530832เขียนเมื่อ 21 มีนาคม 2013 09:26 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มีนาคม 2013 09:26 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท