ครอบครัวสีขาว ไร้ควันบุหรี่ รพ.ประทาย นครราชสีมา



         หลังจากที่ฉันได้รับมอบหมายจากหัวหน้าว่าให้รับผิดชอบจัดตั้งคลินิกอดบุหรี่ในโรงพยาบาลประทายนั้น ฉันยังจำความรู้สึกช่วงนั้นได้อย่างแม่นยำ ว่ามันรู้สึกหนักใจ เครียดมาก เพราะไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหนดี ความรู้ก็มีแค่ปลายหางอึ่ง อีกทั้งภาระงานเดิมก็แสนจะหนักอึ้งอยู่แล้ว แต่ในใจตอนนั้นก็คิดเพียงอย่างเดียวว่า เอาน่า ลองดูสักตั้ง จึงได้เริ่มค้นหาข้อมูลรายละเอียดต่างๆจากโรงพยาบาลอื่นๆ ที่เค้าดำเนินงานคลินิกอดบุหรี่

แล้วประสบความสำเร็จ มาลองศึกษาดู แต่ในใจลึกๆตอนนั้นก็ยังรู้สึกหวั่นๆ เพราะคิดว่าการเลิกบุหรี่นั้นมันยากมาก ต้องได้รับความร่วมมือจากผู้ป่วยเป็นหลัก เราจะทำได้เหรอ แต่แล้วฉันก็พบกับผู้ป่วยรายนึง นามว่า “ลุงบุญ” ซึ่งเป็นเหมือนแรงบันดาลใจให้ฉัน ให้คลินิกอดบุหรี่โรงพยาบาลประทาย ดำเนินงานต่อไปอย่างไม่ย่อท้อ

   ในช่วงบ่ายวันนึง มันช่างเป็นวันที่อากาศร้อนอบอ้าวมาก ฉันมองออกไปข้างนอกผ่านประตูกระจกห้องทำงาน เห็นผู้ป่วยกำลังเดินกันขวักไขว่ บ้างก็กำลังกลับบ้าน บ้างก็กำลังเดินมารับบริการ ดูครึกครื้นดี  สักพักมีเสียงโทรศัพท์ภายในห้องทำงานดังขึ้น ฉันเอื้อมมือไปรับ ปลายสายเป็นเสียงของพี่พยาบาลคนสวยประจำ OPD นี่เอง “มีcase คลินิกอดบุหรี่จ้า”  ฉันรีบเดินออกไป เมื่อถึงแผนก OPD สายตาของฉันเหลือบไปเห็นคุณลุงท่านนึงกำลังส่งยิ้มมาให้ฉันอยู่ ฉันยิ้มรับอย่างอัตโนมัติ แต่ก็คลับคล้าย คลับคลา คุณลุงท่านนี้อยู่เหมือนกัน 

  ความสงสัยของฉันอยู่ในตัวได้ไม่นาน ก็ฉับพลันหายไป เมื่อพบว่าคุณลุงท่านนี้เป็นผู้ป่วยในคลินิกอดบุหรี่ของฉันนี่เอง ซึ่งจากการใช้แบบทดสอบวัดระดับนิโคตินได้ (FTND ) ได้ 9 คะแนน แพทย์จึงได้ให้ยา และนัดมาตรวจซ้ำ  วันนี้คุณลุงมีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส เมื่อเข้ามาในห้องให้คำปรึกษาแล้ว  ระหว่างที่ฉันกำลังหย่อนก้นลงนั่งบนเก้าอี้  คุณลุงพูดออกมาว่า”คุณหมอ ผมเลิกบุหรี่ได้แล้วนะ”  คุณลุงพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “ ยินดีด้วยค่ะคุณลุง” ฉันตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นไม่แพ้กัน  จากนั้นคุณลุงก็เล่าให้ฟังต่อว่า แกใช้ความพยายามในการอยากเลิกบุหรี่มาหลายปีแล้ว แต่ไม่สำเร็จ ภรรยาก็บ่นทุกวัน แกรู้สึกสงสารภรรยามาก เพราะแกมีความรู้ว่าควันบุหรี่มือสองมีอันตรายร้ายแรงไม่แพ้กับการสูบบุหรี่เอง จนได้มาเข้าคลินิกอดบุหรี่ของโรงพยาบาลประทาย ทำให้แกเลิกสูบบุหรี่ได้ในที่สุด ฉันจึงได้รับเสริมแรงบวกแกในทันทีด้วยคำถามที่ว่า “คุณลุงคะ หลังจากเลิกบุหรี่ได้แล้ว ชีวิตของคุณลุงเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรคะ ดีขึ้นมากไหม” คุณลุงตอบฉันกลับมาทันทีโดยไม่ต้องคิดเลย “ดีขึ้นหลายครับคุณหมอ” เมื่อก่อนนี้ผมต้องเสียเงินจากการไปซื้อบุหรี่วันละ 50-60บาท แต่เดี๋ยวนี้ผมเอาเงิน 50-60 บาท ไปซื้อกับข้าว โอ้โฮ! ซื้อปลาตัวใหญ่ได้ตั้ง 1 ตัว แน๊ะคุณหมอ บางวันก็มีเงินเก็บใส่กระป๋องออมสินให้หลานได้อีกต่างหาก นอกจากนั้นนะคุณหมอ คุณลุงหยุดพูดไปพักนึง ฉันเหลือบตามองเห็นสายตาของลุงเป็นประกาย หลังจากนั้นคุณลุงเล่าต่อว่า แม่ไอ้หนูหมายถึงเมียผมน่ะคุณหมอ จากที่ไม่เคยดูแลผมเลย ตอนนี้ทำกับข้าวให้ผมกินทุกวัน  กลางคืนก็ปูที่นอน กางมุ้งให้นอน แหม!มันช่างดีจริงๆ ถ้ารู้ว่าเลิกสูบบุหรี่แล้วมันดีอย่างงี้ เลิกนานแล้วคุณหมอเอ๊ย โง่มาตั้งนาน

  วันนั้นฉันได้พูดคุยกับคุณลุงอยู่นาน ดูท่าแกจะภาคภูมิใจมากที่สามารถเลิกสูบบุหรี่ได้สำเร็จ หลังจากที่ฉันได้คุยกับลุงบุญแล้ว ฉันได้เดินอมยิ้มกลับมาที่ห้องทำงาน จนกระทั่งน้องที่ทำงานอยู่ในห้องเดียวกันแซวว่าไปทำอะไรมา อารมณ์ดีเชียว จะไม่ให้ฉันอารมณ์ดีได้อย่างไรในเมื่อฉันรู้สึกเหมือนกับว่าได้ทำบุญครั้งยิ่งใหญ่ มันรู้สึกอิ่มเอิบ อย่างบอกไม่ถูก ทำไมหรือคะ ก็เพราะว่าการที่ฉันได้ช่วยให้ลุงบุญเลิกบุหรี่ได้ สุขภาพลุงบุญก็ดีขึ้น ที่สำคัญฉันเหมือนกับได้ช่วยครอบครัวทั้งครอบครัวของลุงบุญด้วย ทำให้ครอบครัวนี้กลับมามีความสุขอีกครั้ง ครอบครัวสีขาว ไร้ควันบุหรี่ของฉัน และฉันตั้งปณิธานไว้ว่าครอบครัวของลุงบุญ คงจะไม่ใช่ครอบครัวสุดท้าย คงจะมีอีกหลายครอบครัวกำลังรอความช่วยเหลือจากฉัน ครอบครัวสีขาว ไร้ควันบุหรี่ของอำเภอประทาย


หมายเลขบันทึก: 520956เขียนเมื่อ 28 กุมภาพันธ์ 2013 15:04 น. ()แก้ไขเมื่อ 28 กุมภาพันธ์ 2013 15:04 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท