ความคิดจากแสงที่ลอดมาจากหน้าต่าง


ผมนั่งอยู่ในห้องทำงานโดยไม่ได้เปิดไฟ
ใช้แสงสว่างที่ลอดช่องจากหน้าต่างด้านบน
มาำทำให้ห้องนี้ไม่มืดเกินไป

หลังจากโทรศัพท์ ...

ผมพิงพนักเ้ก้าอี้ แหงนหน้ามองไปยังแสงที่ลอดเข้ามาหน้า่ต่าง
บางทีผมก็ตั้งคำถามถามตัวเองอยู่ตลอดเวลาในคำถามที่ซ้ำ ๆ วนไปวนมา

ไม่มีคำตอบหรอก เพราะคำตอบนั้นไม่ได้อยู่ผมคนเดียว

ผมเองก็ทราบอยู่ทั้งใจว่า เราไม่สามารถเปลี่ยนใครได้
แต่เราต้องเลือกที่จะต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองก่อน

ผมเองก็พยายามไม่น้อยที่จะทำ
ผมพยายามทำความเข้าใจในสิ่งที่ไม่เข้าใจให้มากที่สุด

บางทีการไม่พูดอะไรสักคำ อาจจะดีกว่า พูดแสดงความรู้สึกภายในออกไป
แต่หากไม่พูดอะไรเลย ความเข้าใจกันก็ย่อมจะถอยห่างออกไป

หลายครั้งคนเราเลือกที่หลอกตัวเองมากกว่ายอมรับความเป็นจริง
เพราะว่่าความเป็นจริงมันสั่นสะเทือนความมั่นคงภายในจิตใจอย่างร้ายแรงที่สุด

คนเราต่างมีความนึกฝัน ความต้องการ เพื่อความสุขสงบส่วนตัวกันทุกคน

ครูบาอาจารย์เคยสอนว่า ไม่ว่าเราจะใช้ชีวิตมีความสุขมากมายแค่ไหน
แต่ความสุขที่แท้จริง คือ การไม่ทำให้ความสุขของตัวเองไปทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนกายใจ

ผมเองคงต้องพยายามให้มากกว่านี้
ที่จะไม่เอาความสุขของตัวเองไปทำให้คนอื่นเดือดร้อน

โดยเฉพาะคนที่ผมเลือกที่จะเอาใจใส่เขาเป็นพิเศษมากกว่าคนโดยทั่วไป

สักวันหนึ่ง ธรรมชาติจะมอบคำตอบมาให้อย่างที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้

และไม่มีเหตุผลใดที่จะใช้เข้าข้างตนเองอีกต่อไป


จงยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น

มันเป็นเช่นนั้นเองเสมอมา


อนึ่ง ...


"การพูด" กับคนที่ไม่เข้าใจเรา เขาก็จะบอกกับเราว่า เราช่างขี้บ่นเหลือเกิน

แต่ "การเขียน" กับคนไม่รู้จักกัน เขาก็จะบอกกับเราว่า เราช่างคิดเหลือเกิน


เราต่างมีมุมมองของชีวิตที่ต่างกันตามวัยและประสบการณ์

เพียงแต่ว่า ไม่ว่าทั้ง "การพูด" และ "การเขียน" นั้น

เราเลือกที่จะ "ฟัง" หรือไม่

เท่านั้นเอง


บุญรักษา ทุกท่านที่เข้ามาฟัง ;)...


หมายเลขบันทึก: 519051เขียนเมื่อ 9 กุมภาพันธ์ 2013 13:44 น. ()แก้ไขเมื่อ 9 กุมภาพันธ์ 2013 13:44 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (21)

พูดกันไม่เข้าใจ  ก็ใช้วิธีสบตาแล้วเข้าใจก็แล้วกันนะ อ. was 

"คนที่เราเลือกที่จะเอาใจใส่เขาเป็นพิเศษ"

คำพูดนี้ให้ความรู้สึกอบอุ่นดีจังนะคะอาจารย์ หวังว่าคนคนนั้นคงรู้ว่าอาจารย์มิได้อยากทำให้เขาเดือดร้อนค่ะ


รับฟังด้วยตั้งใจในยามบ่ายวันเสาร์

สวัสดีวันไหว้ค่ะ

"สบตา" เป็นภาษากายที่สำคัญอันดับแรกเลยครับ คุณพยาบาลหัวเหลือง ชลัญธร ;)...

ขอบคุณมากครับ

"คนที่เราเลือกที่จะเอาใจใส่เขาเป็นพิเศษ"

ขอบคุณอาจารย์ ...ปริม ทัดบุปผา... มาก ๆ ครับ

อาจารย์ตีโจทย์ความรู้สึกแตกเสมอครับ ;)...

สวัสดีวันไหว้เช่นกันครับ ;)...

???...

A B C D E...

ก ข ค ง จ ฉ ช ฯลฯ

^_____^

สวัสดีวันไหว้

และเดือนแห่งความรักค่ะ

คนที่ใช่ แม้ความเงียบ ก็ยังเข้าใจ 

ขอให้มีวันดี ๆ กับคนที่เรารักและรักเราเสมอต้นเสมอปลายค่ะ


จะเขียน จะพูด หรือจะฟัง
สำคัญอยู่ที่เปิดใจหรือเปล่านะค่ะ

คนที่ใช่ แม้ความเงียบ ก็ยังเข้าใจ

คมกริบครับอาจารย์นพลักษณ์ ๙ Sila Phu-Chaya ;)...

ขอบคุณมาก ๆ ครับ

รอวันเปิดใจอยู่ครับ คุณครูนก noktalay ;)...

ขอบคุณมากครับ

คำพูดสำคัญต่อการสื่อและทำความเข้าใจให้ตรงกัน

แต่ การกระทำ... สำคัญกว่า

ส่งกำลังใจไว้ให้ค่ะ เปิดใจเถอะ ใครเปิดใจก่อน คือกล้าหาญ...  ค่ะ  :)

คำพูด สำคัญมากเพราะสื่อสารให้เข้าใจความคิด ความรู้สึก

แต่ "การกระทำ" สำคัญกว่า

ส่งกำลังใจให้กล้าเปิดใจต่อกันค่ะ  

กับเพื่อนๆ และแม้แต่ตัวเอง เมื่ออยู่ในสภาวะนี้ จะบอกตัวว่า...

เฮ้...กล้าๆๆ หน่อย  ....    :)

"บางที"...สบตาก็รู้..หูไม่ฟังก็ได้..เห็นตาเขียวๆ..ก็หลบไปให้ไกลเลยนะ...อ้ะะๆๆ...ยายธี

ช่างคิด ช่างเขียน และน่าจะช่างเจรจา...

ส่งใจไปช่วย ให้กล้าเปิดใจ...สู้ ๆ จ้า..

"ฟัง" อยู่นะคะ..รอฟังข่าวดีอยู่คร่า...อิ อิ...^_^



ขอบคุณมากครับ คุณ หยั่งราก ฝากใบ ;)...

ขอให้กล้าหาญครับ

ตบมือข้างเดียวไม่ดังครับพี่สี สีตะวัน ;)...

คนที่ใช่แม้ความเงียบก็ยังเข้าใจ (เชื่อว่าจริงคะ)

เพราะคนที่ใช่ ไม่ต้องพยายาม ไม่ตอ้งอธิบายอะไรมากมาย

เราก็จะได้คำตอบที่ชอบกลับมา

จากใจจริง


มันเป็นเช่นนั้นครับ คุณอุนนุน ;)...

ขอบคุณกับการได้กลับมาอ่านบันทึกอีกครั้งค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท