พวงรัตน์ ปฐมสิริรักษ์ (Puangrat Patomsirirak)
นางสาว พวงรัตน์ ปฐมสิริรักษ์ (Puangrat Patomsirirak) Cherry ปฐมสิริรักษ์

จดหมายโครงการบางกอกคลินิกฯ เพื่อขอความอนุเคราะห์ต่อการคุ้มครองสิทธิในการเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์สัญชาติ สิทธิในสัญชาติของแรงงานต่างด้าว และขอความอนุเคราะห์ต่อการคุ้มครองสิทธิอาศัยในประเทศไทยของแรงงานต่างด้าวที่ไม่ผ่านการพิสูจน์สัญชาติ



ที่25/2555

11 ธันวาคม 2555

เรื่อง   ขอความอนุเคราะห์ต่อการคุ้มครองสิทธิในการเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์สัญชาติ สิทธิในสัญชาติของแรงงานต่างด้าว และขอความอนุเคราะห์ต่อการคุ้มครองสิทธิอาศัยในประเทศไทยของแรงงานต่างด้าวที่ไม่ผ่านการพิสูจน์สัญชาติ และที่ไม่สามารถเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์สัญชาติได้ทันกำหนดเวลา วันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ.2555 (คุ้มครองสิทธิของแรงงานต่างด้าว ไร้สัญชาติ)

เรียน   ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

สำเนาถึง  1. ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ

  2. เอกอัคราชทูตสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ประจำประเทศไทย

  3.ผู้บัญชาการ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง

  4.รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานสิ่งที่ส่งมาด้วย 

1. คำร้องขอความช่วยเหลือในกระบวนการพิสูจน์สัญชาติแรงงานต่างด้าวและการแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้อง โดยนางสาวดวงตา หม่องภา ลงวันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ.2555

2. บัตรประจำตัวบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน เลขประจำตัว 0-1503-89000-0x-x

ออกโดยอำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ.2554

  3. แบบรับรองรายการทะเบียนประวัติของคนต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ ทร.38/1 เลขประจำตัว 00-5006-10315x-x ออกโดยอำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ.2554

  4.ใบรับคำขอ ตท.8 เลขที่ 540180xx ลงวันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ.2554 ของผู้ขอคือนายหล้าผิ่งอ่อ หม่องภา

  5. แบบรับรองรายการทะเบียนประวัติของคนต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ ทร.38/1 เลขประจำตัว 00-5006-10315x-x ออกโดยอำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ.2554

  6. ใบรับคำขอ ตท.8 เลขที่ 540180xx ลงวันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ.2554 ของผู้ขอคือ นางเช่งถ่วย หม่องภา

  7. ใบกรอกข้อมูลเพื่อขอพิสูจน์สัญชาติของนางเช่งถ่วย หม่องภา เลขประจำตัว 00-5006-10315x-x (Personal Profile for Overseas worker)

  8. หนังสือเดินทาง ฉบับที่ TG0382xx

  9.รายชื่อคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาร์ที่ได้รับการอนุญาตให้ออกนอกพื้นที่เพื่อเดินทางไปพิสูจน์สัญชาติในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ เลขที่ 196x/2555 ออกให้ที่สำนักงานศูนย์ดำเนินการเกี่ยวกับผู้อพยพ กองการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย

  10. Labour status list by Agent : Onlines NVS

ด้วย โครงการบางกอกคลินิกเพื่อให้คำปรึกษากฎหมายด้านสถานะและสิทธิของบุคคล กองทุน

ศาสตราจารย์คนึง ฦาไชย คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้รับคำร้องขอคำปรึกษาทางกฎหมายจากนางสาวดวงตา หม่องภา ผู้ถือบัตรประจำตัวบุคคลไม่มีสถานะทางทะเบียน (สิ่งที่ส่งมาด้วย 2) บุตรสาวของนายหล้าผิ่งอ่อ หม่องภา และนางเช่งถ่วย หม่องภา ในกรณีปัญหาการเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์สัญชาติพม่าของแรงงานต่างด้าวของนายหล้าผิ่งอ่อ หม่องภาและนางเช่งถ่วย หม่องภา (รายละเอียดตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 1)

  โดยข้อเท็จจริงที่ปรากฏคือ นายหล้าผิ่งอ่อ หม่องภา ได้ขึ้นทะเบียนประวัติประเภทคนต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ (ท.ร.38/1) (สิ่งที่ส่งมาด้วย 3) และขอมีใบอนุญาตทำงานซึ่งออกตามมาตรา 13(2) แห่งพระราชบัญญัติการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2551 (สิ่งที่ส่งมาด้วย 4) ส่วนนางเช่งถ่วย หม่องภา ได้ขึ้นทะเบียนประวัติประเภทคนต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ (ท.ร.38/1) (สิ่งที่ส่งมาด้วย 5) และขอใบอนุญาตทำงานซึ่งออกตามมาตรา 13(2)แห่งพระราชบัญญัติการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2551 (สิ่งที่ส่งมาด้วย 6) จากนั้นบุคคลทั้งสองได้ยื่นขอพิสูจน์สัญชาติพม่า (สิ่งที่ส่งมาด้วย 7) ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2555 ซึ่งเห็นชอบกับกระทรวงแรงงานให้เร่งรัดการพิสูจน์สัญชาติให้กับแรงงานที่ขึ้นทะเบียนและได้รับการผ่อนผันให้อาศัยอยู่ในประเทศไทยตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 19 มกราคม พ.ศ.2553 การเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์สัญชาติพม่าของบุคคลทั้งสองดำเนินการผ่านบริษัทบัณฑิตอาภรณ์ เซอร์วิส และบุคคลทั้งสองได้เข้าสู่กระบวนการพิสูจน์สัญชาติ ณ ศูนย์พิสูจน์สัญชาติจังหวัดเชียงใหม่

  ปรากฏข้อเท็จจริงว่านายหล้าผิ่งอ่อ หม่องภาและนางเช่งถ่วย หม่องภา ได้รับแจ้งว่าผ่านการพิสูจน์สัญชาติ โดยนายหล้าผิ่งอ่อได้รับการจัดทำงานหนังสือเดินทางโดยประเทศพม่า ฉบับที่ TG038xxx (สิ่งที่ส่งมาด้วย 8) แต่ชื่อภาษาพม่าของนายหล้าผิ่งอ่อ และข้อมูลอื่นๆ ยกเว้นรูปถ่ายในหนังสือเดินทางผิดไปจากที่ได้แจ้งไว้ตอนกรอกคำร้องขอเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์สัญชาติ (จาก MG SAI KHIN MAUGN ผิดไปเป็น MG SAI AUNG KYAN) ส่งผลให้หนังสือเดินทาง ซึ่งควรเป็นเอกสารพิสูจน์ทราบตัวบุคคลที่ยืนยันความเป็นคนสัญชาติพม่าของนายหล้าผิ่งอ่องไม่สามารถนำมาเพื่อใช้แสดงตนได้ และเมื่อตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า ชื่อนายหล้าผิ่งอ่อ ปรากฏอยู่ในรายชื่อคนต่างด้าวที่ได้รับการอนุญาตให้ออกนอกพื้นที่เพื่อการพิสูจน์สัญชาติ (สิ่งที่ส่งมาด้วย 9) และมีชื่อปรากฏในเอกสารของรัฐบาลพม่า Labour status list by Agent : Onlines NVS ในลำดับที่ 17 (สิ่งที่ส่งมาด้วย 10) แต่ข้อมูลเรื่องเลขประจำตัวประชาชนนั้นคลาดเคลื่อนไปจากทะเบียนประวัติ ส่งผลให้ความผิดพลาดนั้นมีผลต่อไปยังคราวจัดทำหนังสือเดินทาง ส่วนกรณีนางเช่งถ่วยนั้น หนังสือเดินทางดังกล่าวระบุคำนำหน้านามผิดไป ซึ่งจะส่งผลให้ถูกตีความว่าไม่ใช่บุคคลเดียวกันกับในหนังสือเดินทาง และไม่อาจจะใช้หนังสือเดินทางดังกล่าวเป็นเอกสารพิสูจน์ทราบตัวบุคคลได้ อย่างไรก็ตามนางเช่งถ่วย มีชื่อปรากฎในรายชื่อคนต่างด้าวที่ได้รับการอนุญาตให้ออกนอกพื้นที่เพื่อการพิสูจน์สัญชาติ (สิ่งที่ส่งมาด้วย 9) และมีชื่อปรากฏในเอกสารของรัฐบาลพม่า Labour status list by Agent : Onlines NVS ในลำดับที่ 16 (สิ่งที่ส่งมาด้วย 10) แต่ข้อมูลเรื่องเลขประจำตัวประชาชนนั้นคลาดเคลื่อนไปจากทะเบียนประวัติ

  จากความผิดพลาดของข้อมูลที่ปรากฏในหนังสือเดินทางของนายหล้าผิ่งอ่อ และนางเช่งถ่วย บุคคลทั้งสองจึงพยายามติดต่อกับบริษัทบัณฑิตอาภรณ์ เซอร์วิส ให้ดำเนินการประสานงานกับทางศูนย์พิสูจน์สัญชาติ หรือรัฐบาลพม่าเพื่อข้อแก้ไขเอกสาร แต่ทางบริษัทก็ปฏิเสธที่จะประสานงาน ทั้งนายหล้าผิ่งอ่อ นางเช่งถ่วยทราบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมว่าบริษัทดังกล่าว ไม่มีอยู่ในรายชื่อบริษัทที่รับประสานงานการพิสูจน์สัญชาติ ของกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ทำให้บุคคลทั้งสองเกิดความระแวงว่าหนังสือเดินทางที่ได้รับมา และกระบวนการพิสูจน์สัญชาติทั้งหมดซึ่งดำเนินการผ่านบริษัทดังกล่าวจะเป็นกระบวนการพิสูจน์สัญชาติและออกเอกสารพิสูจน์ทราบตัวบุคคลที่ถูกต้องตามกฎหมายของประเทศพม่าหรือไม่ เพราะหากบุคคลทั้งสองเข้าใจผิดถึงการมีอยู่ของกระบวนการพิสูจน์สัญชาติดังกล่าว ก็เท่ากับว่าประเทศพม่ายังมิได้ยอมรับถึงการมีตัวตนของนายหล้าผิ่งอ่อและนางเช่งถ่วย และบุคคลทั้งสองก็ยังคงมีสถานะเป็นคนไร้สัญชาติ

  ทั้งนี้ความพยายามของนายหล้าผิ่งอ่อ หม่องภา และนางเช่งถ่วย หม่องภา ที่จะเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์สัญชาติตามที่กล่าวนั้น ก็เพื่อที่จะขจัดปัญหาความไร้สัญชาติ และพัฒนาสถานะจากแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองผิดกฎหมายไปสู่แรงงานต่างด้าวถูกกฎหมาย สัญชาติพม่าที่มีสิทธิเข้าเมืองและสิทธิอาศัยในประเทศไทย ซึ่งบุคคลทั้งสองมุ่งที่จะปฏิบัติตามกฎหมายไทย และตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2555 อันเป็นนโยบายของรัฐไทยที่ต้องการแก้ปัญหาสถานะบุคคลของแรงงานต่างด้าวจากประเทศพม่า ลาว กัมพูชา ภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการจ้างแรงงานระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสหภาพพม่า (MOU)

  ประกอบกับบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการจ้างแรงงานระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสหภาพพม่า (MOU) เองก็มีเจตนารมณ์ที่จะเคารพต่อสิทธิมนุษยชนของแรงงานเฉกเช่น นายหล้าผิ่งอ่อ และนางเช่งถ่วย ซึ่งความคุ้มครองดังกล่าวหมายความรวมถึงการเคารพต่อสิทธิในสัญชาติตาม มาตรา 15 แห่งปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ด้วย

  เพื่อการนี้ทางโครงการบางกอกคลินิกฯ จึงขอความอนุเคราะห์ท่านได้โปรดเข้าตรวจสอบกระบวนพิสูจน์สัญชาติในลักษณะดังกล่าว ว่าเป็นกระบวนการที่ชอบด้วยกฎหมายของประเทศพม่า และสอดคล้องกับบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการจ้างแรงงานระหว่างสองประเทศหรือไม่ เพื่อนำไปสู่ความอนุเคราะห์ท่านในการตรวจสอบว่านายหล้าผิ่งอ่อ หม่องภา หรือ MG SAI KHIN MAUGN (ภาษาพม่า)  และนางเช่งถ่วย หม่องภา หรือ MA NAN PHWAR KHIN (ภาษาพม่า) ได้รับการรับรองให้สถานะคนสัญชาติพม่าแล้วหรือไม่ เพื่อการคุ้มครองต่อสิทธิในสัญชาติและสิทธิในการมีเอกสารพิสูจน์ทราบตัวบุคคลที่ถูกต้องของทั้งสอง

  อย่างไรก็ตาม หากปรากฏว่านายหล้าผิ่งอ่อ และนางเช่งถ่วยยังไม่ได้รับการรับรองในสถานะคนสัญชาติพม่า เท่ากับประเทศพม่ายังไม่ได้ยอมรับเป็นรัฐเจ้าของสัญชาติของทั้งสองคน และถ้าบุคคลทั้งสองไม่สามารถเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์สัญชาติที่ถูกต้องได้ทันในกำหนดเวลาที่ใกล้จะถึงนี้ คือ วันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ.2555 ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน พ.ศ.2555 ซึ่งเห็นชอบการขยายระยะเวลาการพิสูจน์สัญชาติและผ่อนผันให้อยู่ในราชอาณาจักรแก่แรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองสัญชาติพม่า ลาว และกัมพูชาจนถึงวันที่ 14 ธันวาคม 2555 นั้น บุคคลทั้งสองก็ยังคงตกอยู่ในสถานะคนไร้สัญชาติ และไม่มีประเทศต้นทางให้เดินทางกลับไปได้ ในการนี้ทางโครงการบางกอกคลินิกฯ ขอเรียนชี้แจงว่ารัฐไทยในฐานะรัฐเจ้าของตัวบุคคลของนายหล้าผิ่งอ่อ และนางเช่งถ่วย เพราะเป็นรัฐเจ้าของภูมิลำเนาของบุคคลทั้งสอง ก็ไม่อาจจะผลักดันให้บุคคลทั้งสองออกนอกประเทศไทยและไปตกอยู่ในสูญญากาศระหว่างรัฐได้ เนื่องจากรัฐไทยเองก็มิอาจทราบได้ว่าจะเกิดอันตรายต่อสิทธิในชีวิตร่างกายของบุคคลทั้งสอง ซึ่งเป็นสิทธิมนุษยชนที่ได้รับการรับรองไว้ในข้อ 3 แห่งปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน หรือไม่หากกระทำการดังกล่าว

  ดังนั้น โครงการบางกอกคลินิกฯ จึงขอความอนุเคราะห์มายังท่าน ได้โปรดให้ความคุ้มครองต่อสิทธิที่จะอาศัยอยู่ในประเทศไทยของนายหล้าผิ่งอ่อ หม่องภา และนางเช่งถ่วย หม่องภา หากแม้ว่าไม่สามารถเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์สัญชาติที่ถูกต้องได้ทันภายในวันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ.2555 และขอความอนุเคราะห์ต่อการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาแก้ไขปัญหาความไร้สัญชาติที่ยังคงมีสืบเนื่องอยู่กับนายหล้าผิ่งอ่อ หม่องภา นางเช่งถ่วย หม่องภา และกลุ่มแรงงานต่างด้าวที่ไม่สามารถเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์สัญชาติได้ทันกำหนดวันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ.2555 ตลอดจนกลุ่มที่ไม่ผ่านการพิสูจน์สัญชาติกับประเทศต้นทางด้วย


                             (นางสาวพวงรัตน์ ปฐมสิริรักษ์)

                    นักกฎหมายประจำโครงการบางกอกคลินิก

            เพื่อให้คำปรึกษากฎหมายด้านสถานะและสิทธิของบุคคล

                      คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์


                            (นางสาวศิวานุช สร้อยทอง)

                    นักกฎหมายประจำโครงการบางกอกคลินิก

               เพื่อให้คำปรึกษากฎหมายด้านสถานะและสิทธิของบุคคล

                    คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ติดต่อ

คุณพวงรัตน์ ปฐมสิริรักษ์

โทรศัพท์ : 0xxx , 0xxx  อีเมล : [email protected]

คุณศิวนุช สร้อยทอง

โทรศัพท์ : 0xxx อีเมล : [email protected]

หมายเลขบันทึก: 518047เขียนเมื่อ 31 มกราคม 2013 18:31 น. ()แก้ไขเมื่อ 31 มกราคม 2013 19:09 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท