20. Shopping ใกล้บ้าน


ตั้งแต่บันทึกตอนนี้เป็นต้นไป ผมจะเริ่มบันทึกด้วยการบอกวันที่ ซึ่งหมายถึงวันที่ของอเมริกานะครับ

3 ตุลาคม 2555 ผมตื่นแต่เช้าด้วยความสดชื่น คงเป็นเพราะได้นอนพักผ่อนหลายชั่วโมง ตั้งแต่หลังอาหารเที่ยงของวันที่ 2 ตุลาคม ผมก็นอนมาตื่นตอนค่ำ ทานข้าวเย็นแล้วนั่งคุยกันตามประสาพี่น้อง ไม่ถึงสามทุ่มก็มานอนต่อและหลับรวดเดียวจนเช้าของวันใหม่นี้

หลังจากทำภารกิจส่วนตัว ผมออกจากห้องนอนเดินขึ้นบันไดมาชั้นบน พอพ้นบันไดก็เป็นห้องรับแขกซึ่งอยู่ตรงข้ามกับประตูบ้าน ด้านซ้ายของห้องรับแขกเป็นห้องนอนของน้องสาวและน้องเขย ด้านขวาเป็นห้องอาหาร ถัดไปเป็นห้องครัว เลยไปอีกเป็นห้องนอนของหลานผม ซึ่งก็คือลูกของน้องสาว

พอพ้นประตูเข้าไปห้องอาหารก็เห็นพี่สาวและภรรยาผมนั่งคุยกัน ส่วนน้องสาวกำลังง่วนอยู่กับการทำอาหารเช้า

"เป็นไง หลับดีไหม" พี่สาวทัก

"แทบไม่ได้พลิกตัวเลย" ผมตอบ

"วันนี้จะไปไหนละ พี่" น้องสาวผมถามบ้าง

"จะไปรึ พักผ่อนอีกวันไม่ดีหรือต้อย" ภรรยาผมตอบ ("ต้อย" เป็นชื่อน้องสาวผม)

"ไปซื้อของใกล้ๆ บ้านไหมล่ะ หนูจะไปซื้อเนื้อหมู เพื่อทอดให้พี่เอาไปกินตอนไปลาสเวกัส" ต้อยชวน "แล้วใกล้ๆ นั้น ก็มี Outlet Mall ด้วย" เธอหมายถึงร้านขายของปลอดภาษี

หลังอาหารเช้าวันนั้น BMW คันงามก็พาเราสี่คนพี่น้องมาถึง Outlet Mall ซึ่งห่างจากบ้านเพียง 6 ไมล์ น้องสาวนำรถไปจอดหน้าร้าน Coach แล้วพากันเดินเข้าไป ผมตามไปแล้วต้องรีบกลับออกมา เพราะในร้านทั้งร้านเป็นกระเป๋าถือผู้หญิงล้วนๆ และในนั้นหาผู้ชายไม่ได้เลย เว้นหนุ่มหล่อคนหนึ่ง กิริยาตุ้งติ้ง กำลังทำเสียงอ่อนเสียงหวานกับลูกค้า ซึ่งผมเดาว่าคงบรรยายสรรพคุณของกระเป๋าที่เจ้าหล่อนขาย


ผมเดินเล่นใกล้ๆ ถัดจาก Coach จะเป็นพวกยีนส์ มีหลายยี่ห้อครับ ผมเดินเข้าไปดูและคิดว่าซื้อไว้ใช้สักตัวท่าจะดี เพราะผมเอามาจากเมืองไทยเพียงสองตัวเท่านั้น พอผมดูป้ายราคา ต้องรีบวาง เพราะราคาชนะบ้านเราขาดลอย นั่นคือ แพงเกือบสองเท่า

ถัดจากพวกยีนส์เป็นร้านรองเท้ายี่ห้อดังๆ ที่นิยมมากในเมืองไทยตั้งเรียงราย รองเท้าราคาไม่แพงครับ พอๆ กับบ้านเรา แต่ผมไม่ซื้อหรอก (รองเท้าที่ผมใส่เดินทางประจำและชอบมาก เป็นรองเท้าของเวียดนาม ผมซื้อจากตลาดดงบา เมืองเว้ ราคาเพียง 350 บาท)

ถัดไปเป็นร้านอาหารตั้งอยู่หัวมุม มีห้องน้ำด้วย จะทานอาหารหรือไม่ทาน เขาก็ให้เข้าห้องน้ำฟรี ซึ่งสะอาดมาก และสะดวกสบายสไตล์อเมริกา นั่นคือ เพียงเราเดินเข้าไปใกล้ น้ำก๊อกก็ไหลออกมาแล้ว ทั้งหนักและเบา

จากนั้นเป็นร้านนาฬิกา เครื่องใช้ไม้สอยในบ้านในครัวเรือน แล้วก็เสื้อผ้า


คนนี้สะพายกระเป๋ายี่ห้ออะไรไม่รู้ แต่ในรถวันนั้นมี Coach เพิ่มอีก 1 ใบ

เรากลับมาถึงบ้านบ่ายโมงนิดหน่อย ทานอาหารเที่ยงที่บ้าน พอหน้าท้องตึงหนังตาก็หย่อน อีกอย่างบ่ายโมงที่ลอสแองเจลิส เป็นเวลาตีสามของเมืองไทย นาฬิกาชีวิตยังสับสน ผมจึงหาเสื่อหาหมอนนอนที่ระเบียงหลังบ้าน ส่วนภรรยาลงไปนอนในห้อง

ตอนเย็นเราออกไปเดินเล่นบริเวณหน้าบ้าน ได้ภาพสวยๆ มาฝากครับ


บริเวณถนนหน้าบ้านบนเขาเตี้ยๆ ยอดเขาเป็นสมาคมกอล์ฟ

อ่านตอนต่อไปคลิกที่นี่ครับ

อ่านตอนที่แล้ว คลิกที่นี่ครับ

หมายเลขบันทึก: 516608เขียนเมื่อ 17 มกราคม 2013 16:09 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 ตุลาคม 2015 16:07 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท