สตรอเบอรี่ราดแกงแห่งทวยเทพ


โยเกิร์ต น้ำผึ้ง สตรอเบอรี่   คุณค่าของแต่ละสิ่ง ไม่ได้อยู่ที่ความใหญ่โตของขนาด ไม่ได้อยู่ที่รูปลักษณ์สวยงาม  หรือศักดิ์ศรีของเผ่าพันธุ์  แล้วมันอยู่ที่ไหนกันล่ะ?   ดูตัวอย่างสุนัข ที่เราเรียกว่าเป็นเพื่อนแท้ของมนุษย์สิครับ  ร่างกายเขาไม่ได้ใหญ่โตกว่าร่างกายของมนุษย์เรา  สุนัขบางตัวก็ไม่ได้สวยงามแบบมีเพดริกรี  อีกทั้งเผ่าพันธุ์ของเขาก็จัดอยู่ในกลุ่มเดียรัจฉาน    แต่มิตรภาพและความซื่อสัตย์ของสุนัขต่อเจ้าของนี่เองที่เป็นคุณค่าที่หายาก  เพื่อนผมบางคนถึงกับออกปากว่า  ความรักอย่างจริงใจนั้น หาจากสุนัขได้ง่ายกว่าจากคนด้วยกัน  คิดๆดูก็เหมือนจะจริงนะครับ วันนี้เกริ่นถึงคุณค่าของสิ่งที่ดูเล็กน้อย  เพราะอยากพูดถึงโยเกิร์ตครับ  โยเกิร์ตเป็นอาหารที่ได้จากการหมักด้วยเชื้อแบคทีเรีย--จุลชีพที่ไม่อยู่ในสายตา (เพราะมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า) จุลชีพตัวน้อยจะย่อยน้ำตาลในน้ำนมให้กลายเป็นกรดแลคติก ซึ่งกรดแลคติกนี้เองทำให้โปรตีนในน้ำนมจับตัวเป็นก้อนดึ๋ยๆ และทำให้โยเกิรต์มีรสเปรี้ยว และกลิ่นบูด  ฟังดูไม่เห็นน่ารับประทานเลยใช่ไหมครับ  แต่โยเกิร์ตกลับมีประโยชน์มากเกินหน้าตาและกลิ่นรสที่คล้ายของเน่าเสียของมันเอง ใครที่นิยมของเก่าน่าจะชอบโยเกิร์ตนะครับ  มีหลักฐานว่ามนุษย์เรารู้จักหมักโยเกิร์ตด้วยจุลชีพที่คัดเลือกสายพันธุ์กันมานานมากกว่า2000ปีก่อนคริสตกาล เรียกได้ว่านานกว่าประวัติศาสตร์ชาติไทยเสียอีก   และประโยชน์ด้านสุขภาพของโยเกิร์ตนั้นก็มีบันทึกไว้มากมายจนมีแพทย์ในสมัยโบราณก็ใช้โยเกิรต์เป็นยา   ในต้นศตวรรษที่16 พระเจ้าฟรานซิส ที่1 แห่งฝรั่งเศสทรงประชวรด้วยอาการท้องร่วง  การประชวรครั้งนี้ไม่ธรรมดาเลยครับ เพราะไม่มีใครรักษาพระองค์ให้หายได้ เล่นเอาแพทย์ทั้งฝรั่งเศสกุมขมับเพราะกลัวว่าหัวจะหลุดออกจากบ่า   แต่เมื่อข่าวการประชวรท้องร่วงปราบเซียนครั้งนี้ได้แพร่ออกไปจนเข้าถึงงหู จักรพรรดิสุไลยมานแห่งจักรวรรดิออตโตมาน ซึ่งเป็นพันธมิตรของพระเจ้าฟรานซิส   จักพรรดิสุไลยมานก็ทรงเป็นห่วงพระสหาย จึงส่งแพทย์ไปเข้าเฝ้าพระเจ้าฟรานซิส และถวายการรักษาด้วยโยเกิร์ตสไตล์ตุรกี    ไม่นานพระเจ้าฟรานซิส ก็หายจากอาการท้องร่วงอย่างน่าอัศจรรย์  พระองค์จึงยกย่องนมบูดสูตรพิเศษอย่างมาก และทำให้โยเกิร์ตได้รับความนิยมไปทั่วยุโรป คุณค่าอัศจรรย์ของโยเกิร์ตอยู่ที่เหล่าจุลชีพนั่นเองครับ  ใครที่เกลียดกลัวเชื้อแบคทีเรียอาจร้องยี้  แต่แบคทีเรียไม่ได้แปลว่าสกปรกเสมอไปนะครับ  ร่างกายคนปกติจะมีจุลชีพพวกนี้ร่วมอาศัยอยู่กับเราอยู่แล้วตามลำไส้ของเรา  ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้วกำลังจะกรอกน้ำยาเดทตอลเข้าปากหรือจะสวนทวารเพื่อกำจัดแบคทีเรียให้สิ้นซากกรุณาช้าก่อนนะครับ   เพราะแบคทีเรียเหล่านี้ไม่ได้ทำร้ายทำให้เราป่วย แต่ที่จริงพวกเขากลับมีบทบาทที่ช่วยให้เรามีสุขภาพร่างกายแข็งแรงเป็นปกติเสียด้วย จุลชีพที่มีประโยชน์เหล่านี้ เราเรียกว่า โปรไบโอติกส์ (Probiotics) ครับ คำว่าProbiotics มาจากภาษากรีก pro- แปลว่า เพื่อ, biotic/biosis แปลว่า มีชีวิต โปรไบโอติกส์ จึงมีความหมายว่า “เพื่อธำรงค์ชีวิต”   จุลชีพเหล่านี้เมื่ออยู่ในลำไส้เราก็จะคอยควบคุมการเจริญเติบโตของจุลชีพกลุ่มที่ก่อโรค เช่น โรคท้องร่วง เราจึงขับถ่ายเป็นปกติ   นอกจากนี้ยังมีการศึกษาที่พบว่าจุลชีพโปรไบโอติกส์ยังช่วยยับยั้งการอับเสบ   เพิ่มภูมิคุ้มกัน   และลดอาการภูมิแพ้ด้วย เห็นไหมครับ ถ้าขาดเขาเราจะเป็นอย่างไร? แบคที่เรียที่นิยมนำมาใช้ในการหมักโยเกิร์ตได้แก่ Lactobacillus bulgaricus,  Streptococcus thermophilus และกลุ่มBifidobacterium ซึ่งจุลชีพเหล่านี้ จะย่อยน้ำตาล lactoseในน้ำนม ให้เป็นน้ำตาล glucose และ galactose และอีกส่วนจะถูกเปลี่ยนเป็น กรดแลคติก   ดั้งนั้นผู้ที่มีปัญหาดื่มนมสดแล้วท้องอืด ท้องเฟ้อ หรือ ถ่ายเหลว เนื่องจากบางคนร่างกายไม่สร้างเอ็นไซม์ย่อยน้ำตาลlactose จึงสามารถกินโยเกิร์ตได้อย่างสบายใจ เพราะจุลชีพแสนดีเหล่านี้แก้ปัญหานี้ให้คุณแล้ว ถึงตรงนี้แล้ว เชื่อว่าผู้อ่านบางท่านอาจอยากวิ่งออกไปซื้อโยเกิร์ตรับประทานกันเสียตั้งแต่ตอนนี้  แต่ฝากวิธีเลือกซื้อโยเกิร์ตสักนิดก่อนครับ โยเกิร์ตที่ผ่านกระบวนการยูเอชที หรือ พาสเจอไลส์นั้นจะว่าไปก็คือสุสานของจุลชีพดีๆนี่เองครับ เพราะความร้อนจะทำลายล้างโปรไบโอติกส์ที่ยังมีชีวิตจนหมดสิ้น  ส่วนกระบวนการแต่งกลิ่นเจือสีเพื่อให้นมบูดของเราดูน่ากินนั้น ก็มักทำให้จำนวนจุลชีพที่ยังแข็งแรงลดน้อยลง   ผมจึงอยากแนะนำโยเกิร์ตธรรมชาติมากกว่าครับ   ในต่างประเทศมักจะมีขายหัวเชื้อโยเกิร์ตซึ่งนำมาเติมในนมพาสเจอไลส์ทิ้งไว้ 1 คืนก็ได้โยเกิร์ตโฮมเมดคุณภาพดีไว้กินเองได้แล้วครับ  แต่ในบ้านเราอาจหายาก  ก็ยังพอจะมีทางเลือกเป็นผู้ผลิตบางรายที่ตั้งใจผลิตโยเกิร์ตแบบไม่เติมสีกลิ่นเลย แต่อาจต้องหาตามซุปเปอมาร์เก็ตที่พิถีพิถันเลือกสินค้ามาลงสักหน่อยครับ เมนูวันนี้มีชื่อว่า “สตรอเบอรี่ราดแกงแห่งทวยเทพ” ส่วนผสม 1. โยเกิร์ตธรรมชาติ 2. น้ำผึ้งป่า (ถ้าได้ชนิดที่มาพร้อมทั้งรังผึ้งและกิ่งไม้จะเยี่ยมมาก) 3. สตรอเบอรี่ไร้สารพิษ แช่เย็นจัด 4. ถั่ว หรือ ธัญพืชที่ชอบ เช่น  ถั่วลิสงอบ เม็ดมะม่วงหิมพานต์  อัลมอนด์ หรือ แมคคาเดเมีย วิธีทำ 1. นำโยเกิร์ตธรรมชาติประมาณ 1 ถ้วยตวง  ผสมกับน้ำผึ้งป่าที่ตั้งไว้ที่อุณหภูมิห้อง สัดส่วนแล้วแต่ความชอบครับ โยเกิร์ตน้ำผึ้งได้รับการขนานนามว่าเป็น อาหารแห่งทวยเทพ (the food of the gods) โดยชาวอินเดียและชาวอิหร่านตั้งแต่สมัย 500ปีก่อนคริสตกาลครับ  การที่เราปรุงรสโยเกิร์ตเองเท่ากับเราลดกระบวนการที่รบกวนชีวิตของเหล่าจุลชีพโปรไบโอติกส์ (แรงกวน แรงเหวี่ยง สารแต่งสีกลิ่นรส ในกระบวนการผลิตแบบอุตสาหกรรม ล้วนทำให้เซลของจุลชีพเหล่านี้เสียหาย) 2. นำสตรอเบอรี่มาหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ แล้วโรยลงในโยเกิร์ตแห่งสวรรค์ได้เลย 3. เพิ่มความมัน ตัดรสหวานอมเปรี้ยว ด้วยธัญพืชที่ชื่นชอบ เสร็จแล้วครับเมนูเพื่อสุขภาพที่ง่ายติดดิน แต่ทรงคุณค่าระดับเทพ เต็มอิ่มด้วยจุลชีพแสนดี  และโปรตีน แคลเซียม วิตามินเทียบเท่านมสด  ความหวานจากน้ำผึ้ง และไฟเบอร์ เกลือแร่ สารต้านอนุมูลอิสระจากสตรอเบอรี่ และกรดไขมันที่เปี่ยมคุณประโยชน์จากถั่วธัญพืช  คุณค่าจะเกินตัว เกินหน้าตาอย่างนี้  คุ้มค่าที่เพื่อนๆจะลิ้มลองนะครับ

     

 

คำสำคัญ (Tags): #Peobiotics#จุลชีพ
หมายเลขบันทึก: 516076เขียนเมื่อ 13 มกราคม 2013 12:10 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 มกราคม 2013 12:14 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท