ย้อนรอยอดีต... เติมไฟ หัวใจแห่งศรัทธา


           วันพฤหัสฯ ที่ ๒๘ มิถุนายน ๒๕๕๐

วันนี้ มีปรากฏการณ์ธรรมชาติ...แปรปรวนน่าทึ่งเล็กน้อย

ขณะที่จิตจดจ่อเป็นสมาธิกับการใช้สมอง และประคองอารมณ์จิตให้เป็นกลาง

กับงานบริการหน้่าโต๊ะคิดเงินหน้าร้านยามเช้า ชัดเจนว่า อารมณ์ขณะนั้น..."เป็นหนึ่ง"

คือ...นิ่ง ไม่มีแกว่ง จู่ๆคู่กรณีฝ่ายซ้าย (โทสะ)ก็จู่โจมเข้าหา ปรึกษาเรื่องงาน

...การปรับเปลี่ยนตำแหน่งหน้าที่บุคคลใหม่ เรียกว่า พยายามจัดสรรคนให้เหมาะกับงาน

เพื่อความลงตัวในหลายๆส่วน ทั้งงานก็สมบูรณ์ขึ้น คนก็ได้ขยับขับเคลื่อนพัฒนาตน

เฉลี่ยกระจายความรับผิดชอบอย่างทั่วถึง ซึ่งแน่นอนว่า ต้องมีผลกระทบและกระเทือนกันทั่วหน้า


ปรากฏการณ์ที่ว่าคือ ขณะที่จิตเป็นสมาธิ ไม่มีวิตก วิจารณ์ แต่สติอยู่กับลมหายใจ

กับกายกรรม วจีกรรม และอารมณ์ที่นิ่ง เมื่อมีคลื่นลูกอื่นนอกเป้าหมาย(ลูกค้า)จรมาแทรก

จิตเราอยู่ในภาวะนิ่ง คล้ายไร้ตัวตน คือจิตไม่ต่อต้าน อคติเก่า-กลาง ไม่ถูกดึงขึ้นมาผสมโรง

แม้โดยเหตุผลตามความเป็นจริงแล้ว การมาแทรกจังหวะนี้ ไม่ควรด้วยซ้ำ

แต่...พอประตูจิตเราเปิด ใจเราก็กว้าง มองเห็นมุมอื่นที่ควรเอาประโยชน์ ณ ปัจจุบันขณะนั้น


และธรรมชาติโลกรอบข้างก็แปรปรวน เป็นรูปธรรม คือฟ้าครึ้ม ลมแรงมาก ขนาดดันประตูกระจก เปิดเข้าทั้งสองบาน

ลมกรรโชก โกรกกล่องปลิวระเนระนาด พอลมสงบ ต้นโมกข์ในกระถางสีหยกใบใหญ่หน้าร้านก็เอนราบลู่ลง

น้องงามใจ ตรงเข้าไปยกดันขึ้น ปรากฏว่า การเอาภาระ และความตั้งใจดีของเธอ

พาให้ต้นโมกข์ หักสะบั้น เหลือแต่ "ตอ"!


บทเรียนนี้ สอนว่า เมื่อ "ไม้ล้ม" อย่ารีบด่วนจัดสรรจัดการตามความเห็นของเราคนเดียว

ถ้าไม่รู้ "ธรรมชาติ" ของไม้นั้นว่า "เปราะ"หรือ "เหนียว" อ่อน-แข็ง อย่างไร ควรหารือปรึกษาหมู่ หรือผู้รู้ก่อน


"ธรรมชาติของคน" ยิ่งควรคำนึง...ใส่ใจ... ระวังยิ่งกว่า...


.........................................................................

สิ่งที่ได้จากการอ่านบันทึกเก่าวันนี้

คือการ "เติมเต็ม" หัวใจ ศรัทธาต่อการเขียนทบทวนตนอย่างต่อเนื่อง

ซึ่งชัดเจนว่า มีผลอย่างยิ่งต่อการพัฒนาตน

การเว้นห่างจากการเขียนบันทึกนานหลายปี มีผลให้ความคิดไม่เป็นระบบระเบียบ

จิตใจค่อนข้างสับสน ไร้พลังอย่างยิ่ง


ขอบคุณพื้นที่ GtK. อย่างยิ่ง ที่นำพาให้ค้นพบหัวใจตนเองในวันนี้

หมายเลขบันทึก: 515819เขียนเมื่อ 10 มกราคม 2013 23:45 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 มกราคม 2013 00:12 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)

ขอบคุณข้อคิดดีๆที่นำมาฝากค่ะ

ขอบคุณคุณTawandinเช่นกันค่ะที่ช่วยเติมเต็มความสุขให้สังคมแห่งนี้ หลากหลายเรื่องราวและความรู้สึกที่นำมาถ่ายทอดล้วนน่าอ่านและน่าชื่นชม สร้างแรงบันดาลใจดีๆค่ะ 

สวัสดีค่ะคุณอุ้ม ถาวร

อ่านความเห็นคุณอุ้มแล้ว รู้สึกปลื้มปีติสุข แบบบอกไม่ถูกค่ะ

นึกถึงธรรมะ...ดื่มน้ำในรอยเท้าโค

และการแหวกจอกแหนเพื่อดื่มน้ำขึ้นมาทันใด 

คุณอุ้มมอบธรรมะ อันดีงามให้อีกแล้ว...

ใจงาม...งามง่าย...ซึ้งใจยิ่ง

งามจริง...งามใส...ให้คำสวย

งามสูง...พิสุทธิ์ซึ้ง...รุ่มรวย

งามเอย...งามสวย...ด้วยศรัทธา

ขอบคุณ...ที่ให้...เกียรติ ให้โอกาส ให้ความเข้าใจ ตลอดมาค่ะ สาธุ

"ธรรมชาติของคน" ยิ่งควรคำนึง.. ใส่ใจ.. ระวังยิ่งกว่า..

ร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ ยากแท้หยั่งถึง

ยิ่งคนเจ็บป่วยเรายิ่ง ต้องดูแลให้ครบทั้งสามส่วน Humanize Health Care

ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากมาก.. แต่ทีมสาธารณสุขก็กำลังพยายามกันอยู่ค่ะ

สวัสดีค่ะคุณ kunrapee

งานสาธารณสุข ปีสองปีนี้ ทั่วทุกพื้นที่

เน้นลุยกันทั้งรุกทั้งรับเลยนะคะ

น่าชื่นชมอย่างยิ่ง

ส่งกำลังใจ สู้ สู้ สู้

ขอบคุณมากค่ะ

ผู้ฝึกจิต มีสติ และใช้ปัญญา จะสามารถน้อมนำทุกเรื่องเราวกลับมาสอนตนเองได้เสมอ...

"ธรรมชาติของคน" ยิ่งควรคำนึง...ใส่ใจ... ระวังยิ่งกว่า...

ขอบคุณที่แบ่งปันประสบการณ์ดีๆค่ะ  :)

สวัสดีค่ะคุณ หยั่งราก ฝากใบ

การฝึกตน พร้อมมีการเขียนบันทึกประจำวันอย่างต่อเนื่อง

ช่วงนั้นจะรู้สึกดี เหมือนมีเครื่องอาศัย เตือนตน สอนตนได้

แต่ช่วงที่ทิ้งนานหลายปีมานี้ สติตกเป็นปกติเลยค่ะ ตอนนี้ ดึงสมุดออกมาปัดฝุ่นแล้ว :)

เห็นแบบอย่างสมาชิกที่นี่... แต่ละวันทั้งงานประจำ งานบ้าน ภาระดูแลลูกหลาน...

ยังแบ่งเวลามาบันทึกสิ่งดีๆแบ่งปันกันได้เลยนิ

ขอบคุณ คุณ หยั่งราก ฝากใบ เช่นกันค่ะ

 

สวัสดีค่ะท่าน  ตะวันดิน

มาให้กำลังใจค่ะ

สวัสดีค่ะคุณครู ครูทิพย์

กำลังใจงามๆ มายามกำลังใจหาย...

กำลังฝึกหายใจ...ยาว ยาว อยู่ค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ

ชัดเจนว่า มีผลอย่างยิ่งต่อการพัฒนาตน

การเว้นห่างจากการเขียนบันทึกนานหลายปี มีผลให้ความคิดไม่เป็นระบบระเบียบ

จิตใจค่อนข้างสับสน ไร้พลังอย่างยิ่ง

...

สนับสนุนบทสรุปนี้อย่างหนักแน่นและไม่กังขา
เพราะการเขียนเป็นกระบวนการกล่อมเกลา-ขัดเกลาจิตใจ ทักษะชีวิต (โลกทัศน์-ชีวทัศน์)
การสื่อสารการเขียน เป็นการสร้างเครือข่าย
และเครือข่ายก็คือกระบวนการกล่อมเกลาเจียระไนตัวเรา รวมถึงเยียวยา เสริมพลังให้กับเราด้วยเช่นกัน

ชื่นชมและให้กำลังใจ ครับ

สวัสดีค่ะอาจารย์พนัส แผ่นดิน

"... การเขียนเป็นกระบวนการกล่อมเกลา-ขัดเกลาจิตใจ ทักษะชีวิต (โลกทัศน์-ชีวทัศน์)
 ... การสื่อสารการเขียน เป็นการสร้างเครือข่าย
 ... และเครือข่ายก็คือกระบวนการกล่อมเกลาเจียระไนตัวเรา 

....รวมถึงเยียวยา เสริมพลังให้กับเราด้วยเช่นกัน"

ส่วนที่ยากที่สุด ในการสื่อสารการเขียนในพื้นที่สาธารณะ
คือการทำใจยอมรับความจริงของตนเองได้ค่อนข้างยากมากๆค่ะ
ประกอบกับความกังวล ในส่วนที่ยังเป็นผลกระทบต่อรอบข้าง
ทั้งต่อบุคคล สังคม และองค์กร กลายเป็นความไม่หนักแน่น
ไม่ค่อยเชื่อมั่นในตนพอที่จะเดินหน้า อย่างมีพลังมากพอ 

หลังจากรับฟังเสียงรอบข้างอย่างมีสติใคร่ครวญแล้ว
จำเป็นต้องกลับมาเริ่ม..ที่..ต้นทุนเดิมของเรา...ช้าๆ
โดยไม่ต้องละอายต่อภาษา... ที่ไม่เป็นสากลของเรา
เพื่อที่จะลดผลกระทบ ลดแรงกดดันจากความพยายามแสดงออกถึงการมีส่วนร่วม
ส่วนที่ต้องทบทวนคือ ยิ่งอยาก...ลดช่องว่าง กลับรู้สึก...ยิ่งห่างกว่าเดิม...
บทเรียนที่เริ่มจากความกลัว และความอยาก..นั้น คงต้องปรับ ต้องแก้ไขก่อน

ความพร้อมที่...เริ่ม มี"ใจ...นำพา"แล้ว
หลายบันทึกและหลายความเห็นของหลายๆท่าน ต่างเสริมหนุนกำลังศรัทธาอย่างยิ่ง
บันทึกของอาจารย์พนัส แผ่นดิน(และอาจารย์ปริม ทัดบุปผา) มีส่วนช่วยลดทอน บรรเทา คลี่คลาย...ความรู้สึกสับสน
นำพากลับมาเริ่มที่...ต้นทุนเดิมของเรา ด้วยความรู้สึกที่หนักแน่น ชัดเจนยิ่งขึ้น

ความพร้อมของเบ้าหลอม หรือสังคมของการแลกเปลี่ยนเรียนรู้
กลายเป็น กำลัง"ศรัทธา... นำทาง" ให้ก้าวเดินต่อไป ด้วย... "ความรัก และความรู้"
รู้จักรักตน...เป็นเบื้องต้น และคงไม่ต้องกังวลถึงส่วนที่ต้องเรียนรู้ต่อไป
(เพราะ...รายละเอียดที่จะต่อยอดนั้น มีแบบอย่างพร้อมพรั่งอยู่แล้ว)
โอ...ขออภัยเป็นอย่างสูง ร่ายยาว แทบลงไม่ได้เลยค่ะ :)
ขอขอบคุณเป็นอย่างยิ่งค่ะ


พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท