เป็นการทำบุญในช่วงเทศกาลวันมาฆบูชา ชาวบ้านจะร่วมกันทำบุญตักบาตรในตอนเช้า ตอนค่ำจะมีการเวียนเทียนรอบพระอุโบสถ ซึ่งการทำบุญข้าวจี่นี้ชาวบ้านอาจไปรวมกันที่วัดหรือต่างคนต่างจัดเตรียมข้าวจี่ไปเอง แล้วนำไปถวายพระภิกษุสามเณรที่วัดมีการไหว้พระรับศีล พระสงฆ์สวดพระพุทธมนต์และตักบาตรด้วยข้าวจี่ แล้วยกไปถวายพร้อมภัตตาหารอื่นๆ เมื่อพระฉันเสร็จแล้วมีการฟังเทศน์ ฉลองข้าวจี่และรับพรซึ่งมูลเหตุที่มีการทำบุญข้าวจี่เนื่องมาจาก สมัยพุทธกาลมีนางทาสชื่อ ปุณณทาสี ได้นำแป้งข้าวจี่ (แป้งทำขนมจีน) ไปถวายพระพุทธเจ้า แต่จิตใจของนางก็คิดว่าขนมแป้งข้าวจี่เป็นเพียงขนมของทาสที่ต่ำต้อยพระพุทธองค์คงไม่ฉัน ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงหยั่งรู้จิตใจของนางจึงทรงฉันแป้งข้าวจี่ต่อหน้านางทำให้นางเกิดความปิติดีใจ ชาวอีสานจึงได้แบบอย่างในการทำแป้งข้าวจี่นี้ และพากันทำบุญข้าวจี่ถวายพระมาโดยตลอด โดยเฉพาะในช่วงเดือนสามจะมีการทำข้าวจี่ถวายพระมาจวบจนปัจจุบัน (การทำข้าวจี่ของชาวอีสานในช่วงเดือน 3 นั้นเป็นช่วงที่มีอากาศหนาวเย็น ดังนั้นการจี่ข้าวในช่วงนี้ชาวบ้านก็จะได้นับไออุ่นจากการนั่งล้อมวงกันจี่ข้าวอีกด้วย)
หมายเหตุ ฮีตสิบสอง มาจากคำ 2 คำ คือ ฮีต กับ สิบสอง
ฮีต มาจากคำว่าจารีต ซึ่งหมายถึง สิ่งปฏิบัติสืบต่อกันมา จนกลายเป็นประเพณีที่ดีงามของชาวอีสาน เรียกว่า จารีต หรือ ฮิต
สิบสอง หมายถึง เดือนทั้ง 12 เดือน ในหนึ่งปี
ฮีตสิบสอง ประเพณีอีสานสิบสองเดือน
เดือนเจียง - บุญเข้ากรรม
เดือนยี่ - บุญคูณลาน
เดือนสาม – บุญข้าวจี่
เดือนสี่ – บุญผะเหวด
เดือนห้า – บุญสงกรานต์
เดือนหก – บุญบั้งไฟ
เดือนเจ็ด – บุญซำฮะ
เดือนแปด – บุญเข้าพรรษา
เดือนเก้า – บุญข้าวประดับดิน
เดือนสิบ – บุญข้าวสาก
เดือนสิบเอ็ด – บุญออกพรรษา
เดือนสิบสอง – บุญกฐิน
ฮิต สิบสอง จึงหมายถึง ประเพณีที่ประชาชนชาวอีสานได้ปฏิบัติสืบต่อกันมาในโอกาสต่างๆ ทั้งสิบสองเดือนในแต่ละปี
ประเพณีทั้งสิบสองเดือนที่ชาวอีสานถือปฏิบัติกันมานั้นล้วนเป็นประเพณีที่ส่งเสริมให้คนในชุมชนได้ออกมาร่วมกิจกรรมพบปะสังสรรค์เพื่อความสนุกสนานรื่นเริงและเพื่อความสมานสามัคคีมีความรักใคร่กันของคนในท้องถิ่น ซึ่งเป็นการสืบทอดสิ่งที่ดีงามมาจวบจนปัจจุบัน
“บันทึกนี้ เป็นการรวมประเพณีขอภาคอีสานสิบสองเดือน ต้องการที่จะให้ผู้สนใจแลเห็นคุณค่าของประเพณีงานบุญ ของภูมิปัญญาอีสาน นอกจากฮิตสิบสองหรือประเพณี 12 เดือนของชาวอีสานแล้ว ยังมีงานบุญอีกมากมายที่น่าศึกษา ทำไมชาวอีสานจึงมีนิสัยอ่อนโยน รักสงบ เกื้อหนุน ซึ่งกันและกัน ไม่ชอบการเอารัดเอาเปรียบ มีความเป็นเครือญาติกันสูงมาก พิธีบุญ ความเชื่อ และประเพณีต่างๆ คือ เป้าหลอมกรอบคิดให้ชาวอีสาน มีอัตลักษณ์ดังกล่าว”
ประสาน กำจรเมนุกูล
รองประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์
ประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอเมืองกาฬสินธุ์
(ผู้เรียบเรียงข้อมูล)
ไม่มีความเห็น