ส่วนผสมน้ำซุป กระดูกหมู 1 กิโล หัวไชเท้า ครึ่งโล รากผักชี ซีอิ้วขาว น้ำตาล
วิธีทำ ต้มน้ำให้เดือดเอากระดูกหมูไปลวกกับน้ำเพื่อดับกลิ่นคาว ตั้งน้ำให้ร้อนแล้วเอารากผักชีทุบใส่ลงไป
ตามด้วยหัวไชเท้าหั่นเป็นแว่นหนาพอสมควร แล้วค่อยใส่กระดูกหมูลงไป ใส่เครื่องปรุง
ซีิอิ้วขาว น้ำตาลทราย เคี่ยวไปเลื่อย ๆ ประมาณ 1 ชั่วโมง
ส่วนผสม เลือดหมู 5 ก้อน เนื้อหมู 3 ขีด มันหมู 5 ขีด ตับหมู ครึ่งโล เซ่งจี้ ครึ่งโล ยอดตำลึง
ใบขึ้นฉ่าย พริกไทย กระเทียมเจียว ซีอิ้วขาว 3 ช้อนโต๊ะ รากผักชี
2 ราก กระเทียม 3 กลีบ
วิธีทำ ทำหมูบะช่อก่อน เอาเนื้อหมูและมันหมูหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ เอารากผักชีกับกระเทียมมาโขลกให้ละเอียด
ใส่หมูที่เตรียมไว้พร้อมกับรากผักชีกระเทียมที่เราโขลกไว้ลงในเครื่องปั่น
ปั่นจนกว่าหมูจะเหนียว แล้วค่อยเอามาใส่ซี้อิ้วขาว พริกไทยนิดหน่อย เอาตับหมู
เซ่งจี้ ซอยเป็นชิ้น ๆ แล้วเอาไปลวกน้ำร้อนใส่ชามไว้
เอาเลือดหมูมาหั่นเป็นลูกเต๋าแล้วเอาไปลวกกับน้ำร้อนใส่ชามไว้เช่นกัน
เอาหมูบะช่อ ปั้นแบน ๆ ลวกน้ำร้อนให้สุก นำยอดตำลึงไปลวกใส่ลงไปในชาม เอาตับ
เซ่งจี้ หมูบะช่อ วางไว้ด้านบน โรยด้วยใบขึ้นฉ่ายหั่นท่อน กระเทียมเจียว พริกไทย
ราดด้วยน้ำซุป เป็นอันเสร็จ
ต้มเลือดหมู มีประโยชน์มากมาย เพราะในต้มเลือดหมูนั้นอุดมไปด้วย ธาตุเหล็กที่เป็นประโยชน์สำคัญต่อร่างกาย หากร่างกายของเรานั้นขาดธาตุเหล็ก กระบวนการฟอกเลือดดำให้เป็นเลือดแดงก็เกิดขึ้นน้อยหรือไม่เกิดขึ้นเลย ทำให้หัวใจต้องสูบฉีดเลือดมากขึ้น ส่งผลให้หัวใจทำงานหนักเสี่ยงต่อการเกิดภาวะหัวใจล้มเหลว โดยเฉพาะเด็กจะมีพัฒนาการของสมองช้า ไม่เจริญเติบโต เนื่องจากเลือดไปเลี้ยงสมองน้อย ประสิทธิภาพในการเรียนรู้ลดลง ผู้ใหญ่ที่ขาดธาตุเหล็ก ร่างกายมักจะอ่อนเพลีย ผิวพรรณซีด เวลาเปิดเปลือกตาจะเป็นสีขาว เพราะไม่มีเลือดไปเลี้ยง ผู้ที่มีธาตุเหล็กสมบูรณ์จะมีเลือดฝาดดี มีการวิจัยพบว่าคนที่ขาดธาตุเหล็กประสิทธิภาพในการทำงานจะน้อยลง ทำให้เจ็บป่วยบ่อย อาหารที่มีธาตุเหล็ก ส่วนใหญ่จะเป็นจำพวก ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เช่น เนื้อสัตว์ ตับสัตว์ เลือดหมู ไก่ เป็ด นม และต้มเลือดหมู มีธาตุเหล็กสูงมาก
เมนูนี้ขอบายก่อนครับ
แค่แวะมาชมก็ขอบคุณแล้วครับ