บทนำ
ท่านทั้งหลายที่มีโอกาสเดินทางมาเที่ยวจังหวัดพระนครศรีอยุธยาในช่วงประมาณช่วงกลางเดือนธันวาคมของทุกปี
ประมาณ 1 สัปดาห์ อย่าพลาดชมงาน "ยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลก"
ซึ่งทุกๆปีจะมีกิจกรรมหลักๆภายในงาน อาทิ
- การแสดงแสงและเสียงประกอบจินตภาพ
- การจำลองวิถีชีวิตประเพณีไทยสมัยกรุงศรีอยุธยา
- การสาธิตหมู่บ้านหัตถกรรมไทย "ช่างสิบหมู่"
ชีวิตความเป็นอยู่และเรื่องราวสมัยกรุงศรีอยุธยา
- การแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านของไทยสมัยกรุงศรีอยุธยา หรือ
"ลานวัฒนธรรม"
- การจำหน่ายสินค้าพื้นเมืองผลิตภัณฑ์ OTOP
- การบรรยายและนำชมนครประวัติศาสตร์ โดยขบวนรถพ่วง เป็นต้น
เรื่องราวการแสดงแสงเสียง
สำหรับการแสดงแสงและเสียงประกอบจินตภาพ
ในแต่ละปีจะมีจุดเน้นสำคัญแตกต่างกัน อาทิ
*ฉากที่ 1 พระมายศยิ่งฟ้า ดินชม ชื่นแฮ
"สมเด็จพระรามาธิบดีศรีสุนทรบรมพิตรฯ
พระเจ้าอู่ทอง" ทรงสถาปนา"กรุงเทพมหานครบวรทวารวดีศรีอยุธยา"
ขึ้นเหนือฝั่งหนองโสนในชัยภูมิที่ล้อมรอบด้วยแม่น้ำ 3 สาย คือ
แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำป่สัก และแม่น้ำลพบุรี เมื่อวันศุกร์
เดือน 5 ขึ้น 6 ค่ำ เวลา 3 นาฬิกา 9 บาท ( 1 บาท = 6 นาที) พุทธศักราช
1893 ด้วยพระปรีชาญาณและพระราชวินิจฉัยอันสุขุมลุ่มลึก
กรุงศรีอยุธยาก็เจริญรุ่งเรืองไพศาล
เป็นทั้งราชธานีและเมืองท่าค้าขายที่พ่อค้าวาณิชจากต่างบ้านต่างเมืองมาชุมนุมกัน
ความมั่งคั่งและศรัทธาของชุมชนยังผลให้เกิดวัดวาอารามทั่วเมือง
*ฉากที่ 2 เจดีย์ละอออินทร์ปราสาท
กาลเวลาผ่านไปจวบจนรัชสมัยสมเด็จพระราเมศวร
พระราชโอรสของพระเจ้าอู่ทอง
ในราตรีหนึ่งขณะที่กำลังทรงศีลได้ทอดพระเนตรเห็นพระบรมสารีริกธาตุกระทำปาฏิหาริย์เปล่งฉัพพรรณรังสีกลางอากาศในบริเวณที่สมเด็จพระบรมราชาธิราชขุนหลวงพระงั่วทรงสร้างพระมหาธาตุค้างไว้
ทรงพระราชศรัทธาจึงสถาปนาพระมหาธาตุสูง 99 วา ( 1 วา = 2 เมตร)
ยอดปรางค์หุ้มทอง นภศูลสูง 3 วา ประกอบไปด้วยรูปปั้นตกแต่งงดงามต่างๆ
ณ ที่นั้นจนสำเร็จ พระราชทานนามว่า "วัดมหาธาตุ"
เป็นศูนย์กลางของพระมหานครและเป็นที่สถิตของสมเด็จพระสังฆราชแห่งกรุงศรีอยุธยา
ปีพุทธศักราช 1961 สถาปนาพระอารามขึ้นอีกแห่งหนึ่งเคียงคู่วัดมหาธาตุ
พระราชทานนามว่า "วัดราชบูรณะ"
*ฉากที่ 3 สรรเพชญภูวนาถแผ้ว แกล้ว การยุทธยิ่งแฮ
สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ
โปรดให้ปรับปรุงการปกครองเป็นแบบจตุสดมภ์
ตราพระราชกำหนดกฎหมายและกฎมณเฑียรบาล
ซึ่งเป็นแบบแผนปฏิบัติที่ใช้สืบเนื่องกันต่อมาอีกนานหลายร้อยปี
จนถึงกรุงรัตนโกสินทร์
ทรงปรับปรุงการทหารจนป็นที่เกรงขามของหัวเมืองน้อยใหญ่
ทั้งยังทรงพระราชศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาอย่างแรงกล้า
ถึงกับถวายพระราชวังหลวงเป็นพระอาราม นาม "วัดพระศรีสรรเพชญ์"
และเสด็จออกผนวชเมื่อขึ้นครองราชย์เมืองพิษณุโลกนานถึง 8 เดือน
ศักดานุภาพและพระธรรมานุภาพแห่งพระมหากษัตริย์จึงปกแผ่ครอบคลุมทั้งอาณาจักรและศาสนจักร
โปรดติดตามตอนต่อไปครับ
ไม่มีความเห็น