Buddhist management


ท่านติช นัท ฮันห์ (Thich Nhat Hanh) แห่งหมู่บ้านพลัม ประเทศฝรั่งเศส เป็นพระมหาเถระชาวเวียดนาม ในพุทธศาสนานิกายเซนมหายาน มีผลงานด้านสันติภาพมากมายจนได้รับเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ (Nobel Peace Prize) โดย ดร.มาติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ (ผู้ได้รับรางวัลปี 2507) ได้เสนอชื่อท่านเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2510 แต่คณะกรรมการตัดสินว่าไม่ควรมีใครได้รางวัลในช่วงปี 2509-2510 ท่านเป็นผู้นำพุทธธรรมสู่วิถีชีวิตร่วมสมัยพัฒนาแนวทางแห่งสติแพร่หลายไปทั่วโลก  สร้างงานเขียนอันทรงคุณค่าหลายเล่ม เช่น ปาฏิหาริย์แห่งการตื่นอยู่เสมอ สันติภาพทุกย่างก้าว และ คือเมฆสีขาวทางก้าวเก่าแก่ เป็นต้น

แนวปฏิบัติพื้นฐานของหมู่บ้านพลัมยึดหลัก “การอยู่กับปัจจุบัน” (Here and Now) คือ การมีสติ อยู่กับปัจจุบัน (mindfulness) เรียนรู้ความทุกข์ในใจ ท่านติชสอนว่า“ปัจจุบันเป็นเวลาประเสริฐสุด” ไม่ว่าจะเป็นการเดิน การรับประทานอาหาร ทำกิจกรรมต่างๆ ก็จะหมุนวนกลับเข้าสู่เวลาปัจจุบัน คือ การกลับมามีสติ โดยที่หมู่บ้านพลัมจะมีเครื่องมือคือ ‘ระฆัง’ ไม่ว่าทำอะไรอยู่เมื่อทุกคนได้ยินเสียงระฆังทุกครั้ง จะหยุดนิ่งอยู่กับปัจจุบัน นอกจากนี้แล้ว ยังมี ‘เพลง’ เป็นเหมือนกลยุทธ์ ให้ทุกคนเข้าถึงและรับรู้ได้ง่ายขึ้น ด้วยท่วงทำนองและ ความหมายที่จำง่าย เพื่อเตือนสติได้ง่ายขึ้น อีกทั้ง ยังมีศีล 5 ที่หมู่บ้านพลัมเรียกว่า “ข้อฝึกอบรมสติ” เป็นเหมือนเครื่องมือให้ทุกคนระลึกและถือปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง แต่มีความหมายกว้างขวาง เช่นศีลข้อที่ 1 หมายถึงการปกป้องชีวิต(ห้ามฆ่าสัตว์) ที่จะรวมความถึงการไม่สนับสนุนให้มีการทำร้ายชีวิตใดๆบนโลกนี้ทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่น การให้ทำให้เกิดมลพิษ หรือภาวะโลกร้อนเป็นต้น

อีกคำหนึ่ง คือ ‘Inter-being หรือ ‘การเป็นดั่งกันและกัน’โดยเชื่อว่าคนเราอยู่คนเดียวไม่ได้ การที่มีคนที่มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คิดเหมือนกันมาอยู่ร่วมกันจะช่วยส่งเสริมผลักดันและเติมพลังให้แก่กันเพื่อให้แต่ละคนไปสู่จุดหมายได้  เป็นแก่นสารคำสอนที่แทรกอยู่ในคำสอน  เพื่อให้การฝึกตามข้อปฏิบัติเป็นไปได้ง่ายขึ้น ดังคำสอนที่ว่า “หลังจากร่างกายนี้ย่อยสลายลง เราจะไม่มีอะไรเหลืออยู่เลย เป็นการคิดที่ออกจะไร้เดียงสา หากสังเกตอย่างลึกซึ้ง เราจะรู้ว่าไม่มีอะไรที่เกิดขึ้นและไม่มีอะไรที่ตายลง ธรรมชาติที่แท้จริงนั้นไม่มีการเกิดและไม่มีการตาย…ก่อนที่ก้อนเมฆจะปรากฏขึ้นเป็นเมฆ ก้อนเมฆเองก็เป็นสิ่งอื่นมาก่อนหน้านี้ เป็นน้ำในห้วงมหาสมุทร เป็นความร้อนอันเกิดจากดวงอาทิตย์ และเป็นน้ำที่ระเหยขึ้นไปเป็นไอ ก้อนเมฆไม่ได้มาจากความไม่มีอะไรเลย ก้อนเมฆเกิดขึ้นจากบางสิ่งบางอย่าง เกิดขึ้นจากหลายๆ สิ่งที่ประกอบกันขึ้น ช่วงขณะที่เราเห็นก้อนเมฆเป็นก้อนเมฆนั้นเป็นเพียงช่วงขณะแห่งการสืบเนื่อง เท่านั้น”เฉกเช่นเดียวกับ เมื่อเรากินอาหารพืชผัก ก็ย่อยสลายดูดซึมไปอยู่ในตัวเรา เมือเราหายใจออก พืชก็ดูดซับเอาคาร์บอนไดออกไซด์ไปสันดาปในอาหาร

ส่วนการนั่งสมาธิและการเดินสมาธินั้น ดั่งคำสอนที่ว่า “ขอให้เรานั่งเพื่อที่จะนั่ง และเดินเพื่อที่จะเดินเท่านั้น ไม่ต้องหวังว่าจะไปถึงที่ไหน ไม่ต้องคาดหวังว่าจะต้องบรรลุอะไร ได้อะไรจากการนั่งและการเดิน ไม่ต้องคิดว่านี่คือการที่เราพยายามที่จะทำอะไรสักอย่าง เราเพียงอยู่ตรงนั้น เบิกบานกับลมหายใจ ไม่มีอะไรต้องบรรลุ ไม่มีอะไรต้องเพียรพยายาม” จึงไม่ต้องยึดมั่นถือมั่น

ในการนำแนวคำสอนของท่านติช นัท ฮันห์ และแนวปฏิบัติของหมู่บ้านพลัม มาใช้ในการบริหารจัดการชีวิต คือ การมีสติ อยู่กับปัจจุบัน เพื่อให้สามารถพิจารณาตัดสินใจเรื่องต่างๆได้อย่างรอบคอบ ไม่ประมาท และดำเนินชีวิตด้วยจิตใจที่เบิกบาน ไม่ต้องยึดมั่นถือมั่น พยายามมองเห็นความเชื่อมโยงของทุกสรรพสิ่ง “ A better place to live together ”

( สุกัญญา กาญจนบัตร/ สรุป )

อ่านเพิ่ม

http://www.thaiplumvillage.org/

http://www.thaiappraisal.org/thai/

คำสำคัญ (Tags): #Buddhist management
หมายเลขบันทึก: 515135เขียนเมื่อ 4 มกราคม 2013 17:52 น. ()แก้ไขเมื่อ 4 มกราคม 2013 17:53 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท