การจัดการด้านการเงินการคลังในระบบสุขภาพ เป็นกลไกสำคัญอย่างหนึ่งในระบบบริการสุขภาพ ที่มีเป้าประสงค์หลักเพื่อให้เกิด “ความเป็นธรรม” กล่าวคือ การแบกรับภาระค่าใช้จ่ายควรเป็นไปตามความสามารถในการจ่ายของประชาชน เพื่อไม่ให้มีครัวเรือนใดต้องล้มละลายจากการจ่ายค่ารักษาพยาบาล และให้มีการเข้าถึงบริการสุขภาพที่เป็นธรรม
การมีหลักประกันสุขภาพของประชากรไทยในปี พ.ศ. 2544 ทำให้ประชาชนไทยทุกคนถูกมีสิทธิ์ตามระบบหลักประกันฯประเภทใดประเภทหนึ่งจาก 3 ระบบหลักคือ ระบบสวัสดิการรักษาพยาบาล ข้าราชการ ระบบประกันสังคม และระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ในทางปฏิบัติพบว่า ความเป็นธรรมทางการเงินของระบบสุขภาพไทยมีแนวโน้มที่ดีขึ้น เมื่อวัดโดยร้อยละของครัวเรือนในกลุ่มเศรษฐานะต่างๆที่มีรายจ่ายด้านสุขภาพมากกว่าร้อยละ 10 ของรายได้ ขณะเดียวกันความยากจนจากการจ่ายค่ารักษาพยาบาลของคนไทยได้ลดลงหลังมีระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าสัดส่วนของครัวเรือนที่มีรายได้ตํ่ากว่าเส้นความยากจน (poverty line) ซึ่งเป็นผลมาจากการควักกระเป๋าจ่ายเงินเองในการรักษาพยาบาลลดลงจาก ร้อยละ 2.1 ในปี พ.ศ. 2543 ก่อนมีระบบหลักประกันสุขภาพ เหลือเพียงร้อยละ 0.5 ในปีพ.ศ.2549
อย่างไรก็ตาม ในระบบยังมีปัญหาเนื่องจาก รูปแบบการเจ็บป่วยของประชาชนเปลี่ยนไป เป็นโรคเรื้อรังและอุบัติเหตุมากขึ้น มีตัวอย่างผลงานวิจัยที่สะท้อนให้เห็นความสูญเสียภาครัฐจากค่ารักษาพยาบาล และต้นทุนทางอ้อมที่เกิดจากความเจ็บป่วยที่เกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์ การสูญเสียผลิตภาพ การฟ้องร้องคดีและอุบัติเหตุ รวมกันเป็นมูลค่ากว่า 2,300 บาท/ประชากร ซึ่งใกล้เคียงงบเหมาจ่ายรายหัวที่รัฐบาลอุดหนุนให้กับหน่วยบริการทุกโรครวมกัน ความสูญเสียดังกล่าวอาจมีผลกระทบกับระบบการเงินด้านสุขภาพในอนาคต ซึ่งตัวอย่างประเทศไทยมีข้อดีในการบริหารการเงินคือ มีการจัดสรรงบเพื่อดูแลประชาชนเพื่อป้องกันโรคอย่างชัดเจน และมีการจัดสรรงบเพื่อดูแลสุขภาพกว่าร้อยละ 6 ของ GDP ซึ่งสูงกว่าประเทศในแถบใกล้เคียง และประเทศที่พัฒนาแล้วบางประเทศ แต่ในอนาคตอาจประสบปัญหาได้
ดังนั้น ในการจัดระบบการเงินด้านสุขภาพที่มีประสิทธิภาพ ควรมองในสามเรื่องคือ 1)ทางเลือกในเรื่องระบบบริการสุขภาพที่พึงประสงค์ 2) ทางเลือกในการจัดระบบการเงินการคลัง และ3) ทางเลือกระบบอภิบาล (governance) ของระบบการเบิกจ่ายรูปแบบต่างๆ เช่น รูปแบบและอัตราการจ่ายให้สถานบริการ การจ่ายร่วมสมทบของผู้รับบริการ ทางเลือกในการระดมเงินสมทบเพิ่มเพื่อลดการใช้บริการเกินความจำเป็น
( สุกัญญา กาญจนบัตร / สรุป )
ไม่มีความเห็น