ถนนหลายสายในกทม.
ทั้งที่เป็นหน้าเป็นตาของบ้านเมือง เช่น สุขุมวิทย์ สีลม พระราม ๑ ย่านสยามแสคว์
กลายเป็นสลัมยามดึกไปแล้ว เพราะฟุตปาทเดินไม่ได้ แต่กลายเป็นที่ตั้งของแผงลอย ขอทาน ขยะ
หากใช้มาตรการเด็ดขาดจับกุมไล่ทิ้งไม่ได้ ขอเสนอแนวคิดดังนี้
ให้เจรจากับเจ้าของตึกแถวบริเวณนั้น (บางแห่งทำได้เพราะตึกเองก็โทรมมากแล้ว เช่น สุขุมวิทย์) ให้มาลงทุนร่วมกัน โดยเจ้าของให้ที่ดิน แล้วกทม. ลงทุน
วิธีการคือ ให้ทุบตึกเก่าทิ้งให้หมด แล้วสร้างอาคารเอนกประสงค์ขึ้นมา สูงใหญ่ เหมือนอาคารโบ๊เบ๊ หรือมาบุญครอง ที่เป็นทั้งตลาดนัดขายของ (แล้วจับเอาไอ้พวกมักง่ายพวกนี้ไปขายในนั้นแทนริมถนน) เป็นทั้งที่พัก และ โรงแรม สำหรับที่พักนั้นเราก็ให้สิทธิเจ้าของตึกเก่าเขาพักนั่นไง ที่เหลือขายเป็นคอนโด ส่วนการค้าขายเราก็ให้สิทธิเจ้าของที่ดินก่อนใครในการเช่าห้องค้าขายในอาคารนี้
แบบนี้ชัยชัยกันหมด (วินวิน) และยังได้โดยอ้อมอีกหลายต่อมาก เช่น ทำให้กทม. สวยงามขึ้น (โละตึกเก่าๆโทรมๆทิ้ง ) จะมีรายได้คืนทุนไม่นานปีเพราะอยู่ในทำเลท่องเที่ยวธุรกิจอยู่แล้ว ทั้งค่าเช่าแผง คอนโด โรงแรม
ว่าแต่ว่าพอสร้างอาคารนี้แล้ว ไอ้พวกมักง่ายแผงลอยมันจะยังคงมาตั้งแผงอีกไหม แล้วจะมีวิธีป้องกันอย่างไร
หัวเมืองหลายจังหวัดก็เริ่มมีอาการแบบนี้แล้ว ปากเกร็ด เมืองนนท์ดูจะอาการหนักที่สุด
...คนถางทาง (๔ มค. ๕๕)
ท่านอาจารย์คะ คนไทยเราอาจจะชอบ แผงลอยข้างถนนมากกว่านะคะ เพราะเอาสะดวก สบายเข้าว่า พอจับบรรดาพ่อค้า แม่ขาย ขึ้นตึก อาจกลายเป็นนั่งตบยุงไป แต่ถ้าร้านไหน ปิ้งย่าง ควันตลบ คลุกฝุ่น อยู่ ข้างถนน คนเบียดกันซื้อ เหมือนแจกฟรี เลยค่ะ -- ค่านิยมของสังคมไทย เป็นแบบนี้ค่ะ
แผงลอยกลายคืนเป็นจุดขายการท่องเที่ยวไทยไหมครับ เห็นอ่านบทความแนะนำท่องเที่ยวประเทศไทย (ของฝรั่ง) เมื่อไหร่ก็จะเจอคำแนะนำให้มาลองกินอาหารตามแผงลอยเสมอ
.... อืมม... แต่ฝรั่งที่มาเที่ยวไทยก็เป็นกลุ่มประหยัดสุดชีวิตเหมือนกัน ที่มีเงินจับจ่ายเขาก็ไปที่อื่น (เศร้า).....
พวกนี้เป็นพวกคนจน lonely planet แนะนำน่ะครับ แต่ขณะเดียวกันมันก็แนะให้เตรียมยาแก้ท้องเสียมาด้วย เท่ากับมันปรามาสว่า สกป. มากๆ เรื่องพวกนี้เป็นเพียงวิธีการครัีบ แต่หลัีกการคือ มันผิดกฎหมาย แล้วตำรวจ เทศบาล ปล่อยให้เกิดขึ้นได้อย่างไร กลางกรุงด้วยแท้ๆ