วันนี้มีเรื่องเล่าเป็นของ คุณ ปฏิมา พรพจนา นักกำหนดอาหาร เขียนถึงเรื่องของคุณยายคนเก่ง ที่มีความพยายามบวกกับความตั้งใจที่จะเรียนรู้การทานอาหารจนประสบความสำเร็จระดับหนึ่ง น่าสนใจ ลองฟังเธอเล่านะคะ
เมื่อสัปดาห์ก่อน
ดิฉันได้มีโอกาสไปเยี่ยมคุณยายท่านหนึ่งอายุ 80 ปี มานอน
รพ.เพื่อทำผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกตามแพทย์นัดเนื่องจากข้อสะโพกเสื่อม
คุณยายเล่าให้ฟังว่า เป็นเบาหวานมา 30 ปี
มีทั้งระดับน้ำตาลสูง และน้ำตาลต่ำ แรกๆ
ก็ไม่ทราบว่าจะต้องแก้ไขอย่างไร มีคนหวังดีบอกยายว่า "
ทำอย่างนี้สิดี ทำยังนั้นแล้วดี
จนยายสับสนก็มีนะ "
แต่หลังจากได้รับคำแนะนำจากหมอให้ใช้เครื่องเจาะ BS
ปลายนิ้วช่วย พบว่าระดับ BS คุมได้ดีขึ้น คุณยายค่อย
ๆเรียนรู้โดยการสังเกตอาหารที่ทานกับผลน้ำตาลที่วัดได้ว่า
เมื่อทานอะไรแล้วทำให้ BS สูง ยายก็จะไม่ทานสิ่งนั้น เช่น
พวกลองกอง , ลูกพลับสุก , ฝรั่งที่นิ่มและสุก
แต่ถ้ากินส้ม ลูกพลับและฝรั่งที่สุกไม่มาก แล้วเจาะ BS
ปลายนิ้วไม่ค่อยสูง นอกจากนี้คุณยายยังให้ข้อคิดว่า
ถ้าเราไม่กลัวเบาหวานกำเริบแล้วใครจะมากลัวแทนเรา
เพราะใครก็ช่วยเราไม่ได้
ถ้าเราไม่ช่วยตัวเองเสียก่อน
ดิฉันได้ฟังคุณยายเล่าทำให้ทราบว่า การดูแล DM
ให้ดีนั้นผู้เป็นเบาหวานจะต้องมีความตระหนักในสุขภาพของตนเองและพร้อมที่จะเรียนรู้
DM ด้วยตัวเอง ชึ่งเป็นคำตอบที่ดีที่สุด
ไม่มีใครรู้จริงเท่าตัวเราเอง สิ่งสำคัญที่พวกเราควรต้องค้นหา
คือ กลยุทธกระตุ้นให้ผู้เป็น DM
ตระหนักในการดูแลสุขภาพของตนเองให้ได้ก่อน
ยุวดี มหาชัยราชัน
ผู้ป่วยเบาหวานมีโอกาสที่ระดับน้ำตาลจะเปลี่ยนแปลงขึ้นเเละลงได้จากหลายๆ สาเหตุ เช่น การกินอาหาร การปรับเปลี่ยนขนาดยาเบาหวาน ภาวะเจ็บป่วย
การได้ติดตามระดับน้ำตาลทำให้สามารถปรับยาอินสุลิน ยาเบาหวาน เเละปรับอาหารได้ทันท่วงที สามารถที่จะรู้ได้ว่าขณะนั้นผู้ป่วยน้ำตาลต่ำหรือสูงเกินไปหรือไม่ ป้องกันภาวะอันตรายจากภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำไปหรือสูงไปได้
อาการน้ำตาลในเลือดสูงคือ หิวน้ำบ่อย ปัสสาวะบ่อย คอแห้ง น้ำหนักตัวลดลง อาจซึมลง ไม่รู้ตัวได้ ถ้าน้ำตาลสูงมากในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1อาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้องได้
อาการน้ำตาลในเลือดต่ำคือ ใจสั่น เหงื่อแตก หวิว มือสั่น หากน้ำตาลต่ำมากจะหมดสติไม่รู้ตัวหรือชักได้
ข้อบ่งใช้เครื่องเจาะน้ำตาลในเลือดด้วยตนเอง
1.เป็นเครื่องมือที่ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติเพื่อป้องกันโรคเเทรกซ้อนระยะยาว
- ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ป่วยที่ต้องใช้ยาอินสุลินเพื่อลดระดับน้ำตาล สมาคมแพทย์เบาหวานของอเมริกาได้แนะนำว่าผู้ป่วยกลุ่มนี้ ควรติดตามระดับน้ำตาลในเลือดอย่างน้อยวันละ 3 ครั้ง และควรติดตามระดับน้ำตาลทั้งก่อนอาหาร หลังอาหาร ก่อนเเละหลังออกกำลังกาย เพื่อเป็นข้อมูลในการปรับยาอินสุลินที่เหมาะสม
- ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ป่วยที่ต้องใช้ยาเม็ดรักษาเบาหวานเป็นส่วนใหญ่ เเละบางคนใช้อินสุลินเมื่อใช้ยาเม็ดรักษาเบาหวานไม่ได้ผล สมาคมแพทย์เบาหวานของอเมริกาได้แนะนำว่าผู้ป่วยที่ใช้อินสุลิน ควรมีการติดตามระดับน้ำตาลในเลือดด้วยตนเอง
นอกจากนี้หากผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่ไม่ได้ใช้อินสุลินได้มีการติดตามระดับน้ำตาลในเลือดด้วยตนเองก็จะทราบว่าการรับประทานอาหารอะไรบ้างทำให้น้ำตาลในเลือดสูง ทำให้มีเเรงจูงใจ เเละควบคุมน้ำตาลด้วยตนเองดีขึ้น
2. เพื่อทราบระดับน้ำตาลเบื้องต้น ผู้ป่วยในกรณีที่สงสัยว่าจะมีระดับน้ำตาลในเลือดต่ำหรือสูงเกินไป
3. เพื่อติดตามระดับน้ำตาลในเลือด ในผู้ป่วยเบาหวานที่เจ็บป่วยอยู่
4. เป็นเครื่องมือที่ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติในหญิงที่เกิดโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์
จะเห็นได้ว่าการใช้เครื่องเจาะน้ำตาลมีประโยชน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ป่วยที่ใช้ยาอินสุลิน ผู้ป่วยที่มีภาวะน้ำตาลต่ำง่าย
เครื่องตรวจน้ำตาลในเลือดมีแบบใดบ้าง
เครื่องตรวจน้ำตาลปัจจุบันแบ่งเป็น 2 ชนิด ตามวิธีการวัดน้ำตาล ได้แก่ enzyme electrode ซึ่งอาศัยปฏิกริยาเคมีกับการนำกระแสไฟฟ้า เเละ reflectance photometry ซึ่งอาศัยปฏิกริยาเคมีในการเกิดสีและอาศัยความเข้มข้นของสี วิธีenzyme electrode จะแม่นยำกว่าเนื่องจาก กรณีผู้ป่วยมี่มีน้ำเลือด(plasma)สีผิดปกติ เช่นในภาวะตัวเหลือง enzyme electrodeจะไม่เกี่ยวกับปฏิกริยาเคมี ทำให้ผลเชื่อถือได้มากกว่า
นอกจากนี้ความถูกต้องของผลตรวจยังเกียวข้องกับ เทคนิคการวัด ความเข้มข้นของเม็ดเลือดแดงอีกด้วย
สนใจเรื่องสุขภาพ ดูที่ www.perfectly-health.com