อบเชย
นางสาว พูนทรัพย์ พิมพ์แก้ว

พ่อของฉัน



พ่อคือ  ต้นบุญ ต้นแบบที่ดีให้แก่ลูกนี้ได้เดินรอยตาม

พ่อ” คือแรงบัลดาลใจของฉันทั้งชีวิต

  “พ่อ” ของฉันมีความรู้แค่ ป.4  แน่นอนความรู้แค่นี้งานของท่านจะมีอยู่แค่อาชีพดียว นั้นคืออาชีพที่ต้องใช้แรงงาน  พ่อของงฉันไม่เคยที่จะเลือกงานพ่อทำงานทุกอย่าง ก่อสร้าง แบก  หาม  ขุดบ่อน้ำ หรือแม้แต่  คัดขยะ พ่อทำทุกอย่างเพื่อที่จะให้ได้เงินมาจุนเจือครอบครัว  ครอบครัวของฉันประกอบไปด้วย  ฉัน  แม่ ตา และ ยาย  พ่อต้องเป็นคนรับผิดชอบทั้งหมด  เราอยู่กันแบบอดๆอยากๆ เราไม่มีบ้าน  ไม่มีที่ดิน  ไม่มีที่นา  ไม่มีอะไรเลย  กระต๊อปหลังเล็กๆที่เราสร้างเอง หลังสวนกล้วยของใครบางคนที่เราขออาศัยที่เขาอยู่ กระต๊อปหลังเล็กที่ล้อมรอบด้วยต้นกล้วยแต่เราอาศัยอยู่ถึง5คน แน่นอน  มันคงแออัดน่าดู    ตอนนั้นฉันจึงเข้าใจประโยคบางประโยคได้ดีเลยทีเดียวนั้นคือ  (แฮงอึด  แฮงอยาก)  ยิ่งไม่มีเงิน  แต่ ภาระค่าใช้จ่ายก็ยิ่งเพิ่มขึ้น  มันทำให้พ่อยิ่งดิ้นรนมากขึ้น  พ่อจึงเดินทางไปทำงานไกลถึง  กาฬสินธุ์  พ่อทำงานในโรงงานรับซื้อของเก่า  ใน  อำเภอสมเด็จ  แต่มันก็ยังไม่พอเพราะฉันต้องเข้าโรงเรียน  ค่าใช้จ่ายก็ยิ่งเพิ่ม แม่จึงเดินทางตามพ่อไปด้วย หลังจากที่แม่เดินทางตามพ่อไปแม่เล่าให้ฉันฟัง ว่าพ่อทำงานไม่ยอมนอน  พ่อทำงานจนสว่างทุกวันร่วมเดือนทุกคนในเวลานั้น  รวมถึงฉันด้วย  ดิ้นรนช่วยกัน  ยาย จะพาฉันไปทุ่งนา  เก็บเห็ด เก็บผัก  เก็บผลไม้  ตามฤดูกาล ที่มีอยู่ในท้องทุ่งนา ตาก็ไม่ยอมแพ้เหมือนกันหาจับปู จับปลา ทุกอย่าง ได้มาเราไม่เคยกินเลย  เราจะขายเพราะเราจำเป็นต้องนำเงินมาจุนเจือครอบครัว  แต่อย่างไรก็ตาม  พ่อ  ก็ยังคงเป็นเสาหลัก ของครอบครัว  เราอยู่กันแบบ  อดๆ อยากๆ มาสักพักใหญ่  เราจึงมีเงินเก็บซื้อ “ควาย”  ตัวแรก  จากนั้นพ่อจึงหยุดให้แม่ทำงาน กลับมาเลี้ยงควาย และ ดูแล ตายาย  พ่อทำงานต่อคนเดียวเป็นระยะเวลา3ปี  ด้วยความเป็นเด็กฉันก็อยากอยู่กับพ่อบ้าง ฉันจึงอ้อนวอนพ่อ  ให้เลิกทำงานมาอยู่กับฉัน  ซึ่งพ่อก็ทำตามคำร้องขอ  ใช่  พ่อกลับมา  รับจ้างๆ  เล็กๆ น้อยๆ  อยู่ที่บ้าน  เราเก็บเงินช่วยกัน  จนได้ซื้อที่ดิน  ที่นา  และสร้างบ้าน  แต่เราก็ยังดิ้นรนหาเงินช่วยกันอีก1ก้อน  !!

  …….พ่อ  ของฉันอยากจะเปิดร้านขายของชำ…………..เราช่วยกันเก็บเงินร่วม2ปี  พ่อ กับ แม่  จึงลงทุนเปิดร้านขายของชำเล็กๆ  ธรรมดาๆ    ตอนนี้  เราเปิดร้านมาราว 22ปี  แน่นอนร้านของเราพัฒนาขึ้น ตอนนี้ขายของชำ  ผัก อาหารสด  ส้มตำ  ก๋วยเตี๋ยว หรือแม้แต่ส่วนของพ่อ  อุปกรณ์ก่อสร้าง  ทุกอย่าง  ข้างๆบ้านพ่อเปิดเป็นร้านซ่อม  ปะยาง เพื่อรับจ็อบพิเศษ    ตอนนี้ครอบครัวเรา  มีพอกิน  พอใช้  มีรถ มีบ้าน …………………………… 

       ตอนนี้  พ่อเลิกดิ้นรน  พอกลับหันหน้ามาปลูก  ต้นไม้ดอก  ไม้ประดับ และพืชผัก สวนครัว เนื้อที่กว่า3ไร่หลังบ้าน  พ่อทำเป็นสวนทั้งหมด  พ่อปลูกเยอะมาก  มีเจ้าของร้านไม้ดอก ไม้ประดับ  มาทาบทามซื้อพันธุ์ไม้ของพ่อ  แต่พ่อ ไม้ยอมขาย  แต่พ่อจะให้ฟรี  อาจจะฟังดูตลก  ทั้งๆที่ต้นไม้ของพ่อ  บางต้นราคาสูงถึง3หมื่น  พ่อไม่ยอมขาย แต่พ่อนำไปบริจาค  ให้กับวัด  โรงเรียนในชุมชน  หรือแม้แต่ศูนย์เด็กเล็กในหมู่บ้าน มีหลายคนบอกว่าพ่อบ้า  ต้นไม้ดอก  ไม้ประดับ มีราคา  แต่ทำไมไม่ยอมขาย ……พ่อ  ยิ้มรับแล้วบอกว่า  ถ้าพวกคุณอยากขาย  ทำไมไม่ปลูกขายล่ะ ………………พ่อบอกฉันว่า  มันคือความสุขของพ่อ  และพ่อก็จะทำต่อไป!!! 

      พ่อเหน็ดเหนื่อยกับการใช้แรงงานมามาก  พ่อจึงบอกกับฉันว่า  ลูกจะต้องตั้งใจเรียนให้สูงๆ  ความจนความรวยมันไม่แน่นอนและคงทน  สิ่งที่จำเป็นที่สุดก็คือ ความรู้  ความรู้จะนำพาให้ประสบผลสำเร็จในชีวิตได้  ความรู้เท่านั้นที่จะทำให้เราไม่ลำบาก !!

      .......  เมื่อวันพ่อที่ผ่านมาฉันมีโอกาสกลับบ้าน  ไปกราบเท้าพ่อ  ฉันแอบซื้อแหวนวงหนึ่งซึ่งราคาไม่มากนักแต่ฉันตั้งใจจะเซอร์ไพซ์พ่อ  ฉันนำแหวนใส่ลงในจานพร้อมกับเทียน  ดอกไม้ธรรมดาๆ 5  คู่  นั้นคือขันธ์  5  นั้นเอง  ฉันนำจานดอกไม้ไปกราบเท้าพ่อ


     พ่อตกตะลึงในสิ่งที่ฉันทำ สีหน้าของพ่อเริ่มเปลี่ยนไป  ในขณะที่ดิฉันก้มกราบลงบนเท้าของพ่อ ก็มีมือมาสัมผัสบนหัวของฉัน  พร้อมกับกล้าว  คำว่า

"  ขอให้ประสบผลสำเร็จในสิ่งที่กำลังคิด  กำลังเฮ็ด เด้อลูก ความทุกข์ความยากที่เฮาเคยผ่านมากะสอนลูกหมดทุกอย่างแล้ว  พ่อมีลูกสาวผุเดียว  ทุกสิ่งที่สอนที่บอกกะอยากให้ลูกได้ดี  ตั้งแต่เกิดมาลูกสาวพ่อบ่เคยนำความเดือดเนื้อฮ้อนใจมาสู่ครอบครัวเลย  แค่นี้พ่อกะภูมิใจแล้วลูกหล่า  พ่อเลี้ยงได้แต่ตัวล่ะลูก  ใหญ่พอแฮงแล้ว  ดีชั่วกะฮู้เมิดแล้ว  คิดเอาเฮ็ดเอา  ไปเรียนยามได้ท้อกะโทรหาพ่อ หาแม่ เด้อ!!  อย่าดูถูก  ดูหมิ่นคน  ให้คิดว่าคนทุกคนเกิดมาซ่ำกันเมิด.....คั่นเจ้าได้ขี่ช้างเป็นพญา  อย่าสิลืมทางหลังผุขี่ควายคอนกล้า  เด้อลูกหล่า"

......นี้คือพร  จากพ่อ...++!!

             ทุกวันนี้พ่อให้ฉันได้ทุกอย่าง   ฉันจะตอบแทนพระคุณของพ่อ  ฉันจะทำให้พ่อยิ้ม  ให้พ่อหายเหนื่อย  ฉันจะเป็นคนจูงพ่อเมื่อพ่อแก่  ฉันจะป้อนข้าวเมื่อพ่อเจ็บป่วย  ต่อไปฉันจะเหนื่อยแทนพ่อเอง  ฉันสัญญา!!

     .....และนี้คือ  ความในใจของเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง  ที่ตั้งใจเขียนถึงพ่อ โดยไม่คำนึงถึงความงดงามของภาษา  แม้ถ้อยคำไม่ได้สัมผัส  แต่มันคือความงามจากหัวใจ  ของฉันที่มีให้พ่อค่ะ!!

คำสำคัญ (Tags): #พ่อของฉัน
หมายเลขบันทึก: 514067เขียนเมื่อ 25 ธันวาคม 2012 21:12 น. ()แก้ไขเมื่อ 25 ธันวาคม 2012 21:22 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

 อ่านแล้วซึ้งจนจะร้องไห้เลยค่ะ

ค่ะ... คุณ   Kritsana  

เป็นเรื่องจริง  ของครอบครัวเราค่ะ!!


น่ารักจังน่ะค่ะ ลูกสาวเรียนยุปีไหนแล้วค่ะเนี่ย??

คนขายเลือด.flv อยากให้พ่อน้องอบเฉยฟังเพลงนี้ เเละน้องด้วย เหมือนผมเลยเพราะความไม่มีทำให้เราสู้ เพราะเป็นลูกชายคนโตคนเดียว สู้สู้นะครับขอเป็นกำลังใจให้นะ

-ขอบคุณมากค่ะ  คุณสมพงษ์

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท