จิ่วจ้ายโกว (Jiu Zhai Gou, 九寨沟)

          วันนี้ก็ได้มีโอกาสเขียนถึงเรื่องจิ่วจ้ายโกวเสียที สถานที่นี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติของจีนที่สวยงามที่สุดของจีนเลยก็ว่าได้ คนไทยนิยมไปเที่ยวที่นี่กันด้วย จิ่วจ้ายโกว (Jiu Zhai Gou, 九寨沟) แปลว่า หุบเขาเก้าหมู่บ้านซี่งแต่เดิมเป็นหมู่บ้านของชนเผ่าทิเบต จิ่วจ้ายโกวอยู่ในมณฑลเสฉวนของจีน ได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลก เมื่อปี พ.ศ. 2535 สถานที่อันงดงามนี้มีตำนานด้วย เรื่องมีอยู่ว่า ครั้งหนึ่งนานมาแล้วมีเทพชื่อต๋าเกอหลงรักเทพนารีชื่อว่อลั่วเซ่อหมัว อยู่มาวันหนึ่งต๋าเกอได้ใช้สายลมและพระจันทร์ขัดถูหล่อรวมเป็นกระจกหยกบานหนึ่งทำเป็นของขวัญมอบให้นางอันเป็นที่รักว่อลั่วเซ่อหมัว แต่ทว่าก็เกิดเรื่องที่ไม่คาดฝันขึ้นเมื่อปีศาจร้ายเข้ามาวุ่นวาย ว่อลั่วเซ่อหมัวไม่ทันระวังตัวจึงเผลอทำกระจกหล่นแตก เศษกระจก 114 ชิ้นก็ได้แตกกระจายร่วงลงไปบนโลกมนุษย์และได้กลายเป็นทะเลสาบอันงดงามดั่งหินหยกที่ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขาป่าลึก จากนั้นมาโลกมนุษย์ก็มีดินแดนดั่งสรวงสวรรค์จิ่วจ้ายโกวแห่งนี้เกิดขึ้นโดยมีที่มาจากตำนานเทพ

        ช่วงวันที่เราไปคือช่วงวันชาติของจีน( 1 ตุลาคม) ที่มีวันหยุดประมาณเก้าวัน วันแรกก่อนไปถึงจิ่วจ้ายโกวเราก็ไปเที่ยวที่เมืองเก่า ซงพาน ซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานมากว่า 2,300 ปี และสร้างขี้นในสมัยราชวงศ์ถัง พวกเราได้ถ่ายรูปกับรูปปั้นของเจ้าหญิงเหวินเฉิงกับกษัตริย์ซงจ้านกันปู้ แห่งราชวงศ์ถู่ปอ

ระหว่างทางไปเมืองซงพาน

เมืองซงพาน

จากนั้นเราก็ไปถ่ายรูปการเต้นรำของชนเผ่าพื้นเมืองในหมู่บ้านในแถบจิ่วจ้ายโกว

พอวันที่สองเราเดินทางไปจิ่วจ้ายโกว ระหว่างทางไปนั้นได้เห็นทิวทัศน์ที่สวยงาม สายหมอก ภูเขา สายของน้ำตกที่เลียบไปตามถนน และต้นไม้ที่ใบไม้เปลี่ยนสีเป็นสีเหลืองสีแดง เมื่อถึงที่จอดรถของจิ่วจ้ายโกวด้านนอก พอลงจากรถพวกเราก็เดินเลียบสายน้ำตกที่เสียงดังระทึกใจ เสียงแห่งธรรมชาติทำให้เราตื่นเต้นที่จะได้เห็นจิ่วจ้ายโกวที่แสนงดงามกัน แล้ว ทางเข้าจิ่วจ้ายโกวก็มีป้ายจิ่วจ้ายโกวให้ถ่ายรูปกัน เข้าไปแล้วก็เห็นภูเขาตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า มีหมอกคลุมยอดเขาเป็นภาพที่สวยงามมาก 

          จากนั้นพวกเราก็ขึ้นรถบัสของจิ่วจ้ายโกวขึ้นภูเขาไปโดยที่ไกด์รออยู่ข้างล่างไม่ไปด้วย ระหว่างทางไกด์บนรถบัสก็บอกเกี่ยวกับชื่อสถานที่ที่รถผ่าน พวกเราเจอที่ไหนสวยๆก็ตื่นเต้นร้องว้าวกันด้วยความดีใจที่ได้เห็นทะเลสาบที่สวยงามแอ่งต่างๆ แล้วก็ถ่ายภาพ ถ่ายวีดีโอไว้ แต่ถ่ายภาพถ่ายวีดีโอบนรถภาพก็ออกมาไม่ค่อยดีเท่าไร ถึงเวลาได้ถ่ายภาพนิ่งแล้ว อ้าว Memory ของกล้องเต็มแล้ว ตัวเองก็รีบเคลียร์  Memory ใหญ่เลย เคลียร์ไม่ทันก็ไปถ่ายภาพกับกล้องของเพื่อนก่อน 

         จุดที่เราเริ่มเที่ยวที่แรกก็คือน่าจะเป็น Arrow Bamboo Lake พอดีไม่ได้ถ่ายป้ายไว้เลยจำไม่ได้ และมัวตื่นเต้นดีใจกับความสวยงามจนไม่รู้ที่ไหนเป็นที่ไหน ก็มาค้นคว้าเอาในเว็บไซด์ทีหลังตามภาพที่เหมือนกัน บางทีบอกชื่อทะเลสาบเป็นภาษาอังกฤษบ้าง เพราะชื่อจะได้ตรงกับแผนที่ของจิ่วจ้ายโกวที่เจ้าหน้าที่เขาจัดทำไว้

น้ำใสมากจนเห็นเศษกิ่งไม้ในน้ำ

ที่ต่อไปก็เป็นทะเลสาบ แพนด้า น้ำใสมากเหมือนกระจกเลย ภาพภูเขาสะท้อนในทะเลสาบสวยงามมาก

จากนั้นเราก็ไปทะเลสาบห้าสี (Colorful Lake, Five Flower Lake) ที่อยู่ใกล้ๆกัน ห้าสีนั้นที่เขาว่ากันก็คือสีแดง

เหลือง ส้ม เขียว ฟ้า ที่นี่ก็สวยงามมากเช่นกัน น้ำใสมองเห็นเศษกิ่งไม้และพืชใต้น้ำสีเขียวขจี 

Five Flower Lake

มีภาษาไทยด้วยนะ

ทะเลสาบนกยูง (Peacock Riverbed)

จุดต่อไปที่เราไปเที่ยวเป็นน้ำตกธารไข่มุก (Pearl Shoals Waterfall) น้ำตกนี้สวยมากและกว้าง เวลาถ่ายภาพจะเห็น Back ground เป็นท้องฟ้าสดใสและภูเขาตระหง่าน  ห้องน้ำของที่นี่ก็ทำดี สวยน่าเข้า เข้าไปแล้วก็สะอาดดี มีถุงพลาสติกรองที่นั่งชักโครกด้วย

ต้นน้ำของน้ำตกธารไข่มุก

น้ำตกธารไข่มุก

ระหว่างทางไปทะเลสาบยาว (Long Lake) ใบไม้ที่เปลี่ยนสีของต้นไม้บนภูเขาเป็นภาพที่สวยงามมาก

ภูเขาอันตั้งตระหง่าน

จุดสูงสุดของจิ่วจ้ายโกวคือทะเลสาบยาว ทันทีที่พวกเราเห็นเราก็อึ้งไปด้วยความประทับใจของทะเลสาบอันสวยงามยิ่งใหญ่ยาวและลึกให้ความรู้สึกลึกลับน่าค้นห้ายังกับทะเลสาบ Loch Ness เป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในจิ่วจ้ายโกว

จากจุดนี้ลงมานิดหนึ่งก็มีทะเลสาบห้าสีอีกแห่งหนึ่ง น้ำเป็นสีฟ้าสด สวยงามมากเช่นกัน

            หลังจากจุดนี้เราก็นั่งรถบัสลงมาข้าง ล่างเพราะใกล้จะถึงเวลาที่นัดกับไกด์แล้ว ระหว่างทางก็เก็บภาพขณะรถกำลังวิ่งหรือตอนที่รถจอดส่งผู้โดยสาร ก็ได้ภาพทะเลสาบมาอีกหลายแอ่งและน้ำตก บอกชื่อทะเลสาบโดยเที่ยบเคียงจากข้อมูลในเว็บไซด์จิ่วจ้ายโกว

Upper and Lower Seasonal Lakes

น่าจะเป็น Reed Lake

ภาพนี้ไม่รู้ว่าเป็นที่ไหน

Tiger Lake

น่าจะเป็น Shu Zheng Lakes

น้ำตกอะไรไม่รู้

บ้านของชนเผ่าพื้นเมืองในจิ่วจ้ายโกว

         ลงมาถึงข้างล่างของจิ่วจ้ายโกวแล้วก็ได้ซื้อของที่ระลึกภาพโปสการ์ดของมืออาชีพเก็บไว้เป็นที่ระลึก ระหว่างทางกลับก็นั่งมองวิวไปตามทางไม่มีเบื่อ ถ่ายภาพ ถ่ายวีดีโอไปเรื่อยๆอีก  รถได้จอดแวะตามทางให้พวกเราได้ถ่ายภาพจามรี ภาพภูเขาสวยๆกัน

ตอนกลางคืนไกด์พาพวกเราไปเที่ยวที่ โรงละครของโรงแรมแชงกรีลาในจิ่วจ้ายโกว

ที่นั่นมีการแสดงการร้องเพลงของนักร้อง นักร้องที่ร้องก็ร้องได้ไพเราะโดยเฉพาะเป็นเพลงที่ใช้เสียงสูงได้อย่างน่าประทับใจจริงๆ

           นอกจากนี้ก็มีการแสดงเต้นรำพื้นบ้านและการละเล่นพื้นบ้าน การละเล่นที่เห็นในภาพให้ผู้แสดงรับเชิญคือคนดูใช้ผ้าคล้องคอและโยงผ่านเป้ากางเกงระหว่างคนสองคน แล้วใครสามารถดึงอีกฝ่ายข้ามผ่านเส้นแบ่งมายังเขตแดนของตัวเองได้ก็จะเป็นผู้ชนะ 

การแสดงต่างๆและการเต้นรำ

สิ่งที่เป็นไฮไลท์ของที่นี่ก็คือนักแสดงเต้นรำพื้นบ้านเป็นชายหนุ่มรูปหล่อทั้งนั้นค่าขอบอก

ขอจบเรื่องราวความประทับใจที่จิ่วจ้ายโกวไว้เพียงเท่านี้ค่ะ ส่วนเว็บไซด์ของจิ่วจ้ายโกวคือ jiuzhai สนใจ

ก็เข้าไปดูกันได้ค่ะ แล้ววันไหนว่างๆจะเอาวีดีโอที่ถ่ายจิ่วจ้ายโกวมาฝากค่ะ

บันทึกต่อไปจะเขียนต่อเรื่องอุทยานหวงหลงซึ่งมีแอ่งน้ำและธารน้ำที่สวยไม่แพ้จิ่วจ้ายโกวค่ะ

[เทียนฟ้า]

 ขอบคุณที่ให้กำลังใจกันค่ะ วันนี้เอาคลิปวีดีโอของจิ่วจ้ายโกวสวยๆที่คนอื่นทำมาให้ดูกันก่อนค่ะ เขาทำได้สวยพอๆกับภาพที่ตาเรามองเห็นและได้อารมณ์ดีค่ะ ส่วนวีดีโอของตัวเองภาพสีไม่สวยเท่าเค้าหรอกค่ะ ว่างเมื่อไหร่จะลองทำวีดีโอตัดต่อของตัวเองดูค่ะ

วีดีโอนี้ได้อารมณ์สวยซึ้งดนตรีเพราะค่ะ ยอดวิวเกือบสองแสนแล้ว

อีกวีดีโอหนึ่งเป็นวีดีโอโฆษณาของสตูดิโอถ่ายภาพแต่งงานแห่งหนึ่งที่ไปถ่ายภาพที่จิ่วจ้ายโกว โอ๊ย!เห็นแล้วอยากมีภาพถ่ายแต่งงานของตัวเองที่จิ่วจ้ายโกวมั่งค่ะ

วีดีโอต่อไปก็ดีเหมือนกัน มีภาพแถวทะเลสาบเตี๋ยซีทางไปจิ่วจ้ายโกวที่เกิดแผ่นดินไหวใหญ่ในปี 2008 แล้วก็มีภาพเมืองเฉิงตู ศูนย์วิจัยหมีแพนด้า ขอบอกว่าที่เฉิงตูของถูกและอาหารอร่อยดีนะคะ