มุมมอง

☺ มุมมอง

“คนที่คิดและมองอย่างแตกต่างย่อมมีชีวิตแตกต่างกันไป มุมมองเหมือนอย่างที่บอกคนเราย่อมมีความคิดที่แตกต่างกัน ดังนั้นความคิดที่แตกต่างก็ย่อมมาจากมุมมองที่แตกต่างนั่นเอง เหมือนกับเส้นโค้งของขอบฟ้าที่ความสามารถในการมองของแต่ละคนที่แตกต่างกัน บางคนอาจจะมองได้กว้างขึ้น บางคนอาจจะแคบลง  บางคนอาจจะสั้นยาวที่แตกต่างกันไป ทั้งหมดเป็นเพราะทิศทางในการมองที่ต่างกันนั้นเอง

ตามความเชื่อของฉันนะที่คิดว่าความคิดของคนเราไม่มีผิดไม่มีถูก เพราะมันขึ้นอยู่กับมุมมองของคนแต่ละคนเองว่าจะมองไปในทิศทางใดองศาใด ขอยกตัวอย่างในประเทศไทยเกี่ยวกับมุมมอง แต่จะขอหยิบยกมุมมองที่มันขัดแย้งกับความเป็นคนไทยกับวัฒนธรรมไทย เช่น ปัญหาเรื่องการทำแท้ง หลายคนมองปัญหาเรื่องการทำแท้งเป็นเรื่องที่เลวร้าย ไม่สมควรที่จะกระทำเป็นอย่างยิ่งเป็นบาปกรรมที่สุดของชีวิต ผู้กระทำจะต้องได้รับผลแห่งกรรมนั้นอย่างแสนสาหัสสากรรจ์ สำหรับเมืองไทยเรายังไม่มีกฎหมายใดที่ให้เสรีภาพในการทำแท้งได้เหมือนดั่งเช่นในสหรัฐอเมริกา

ฝ่ายที่ต่อต้านการทำแท้งถือว่าชีวิตเป็นสิ่งสูงค่า การตัดรอนชีวิตถือเป็นสิ่งที่เลวร้ายน่ารังเกียจ  ดังนักต่อต้านการทำแท้งหลายคนในอเมริกา ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นผู้เชิดชูชีวิตเทิดทูนชีวิต( pro-life ) แต่กลับลงมือสังหารหมอที่เปิดคลินิกทำแท้ง  เพราะทนความไร้ศีลธรรมของคนเช่นนั้นไม่ได้  แต่แล้วกลับทำตัวเป็นฆาตกรเสียเอง  การฆ่ากลายเป็นสิ่งที่ถูกต้องเพราะทำในนามของการ การเทิดทูนชีวิต”

  การที่ได้หยิบยกเอามุมมองเกี่ยวกับการทำแท้งมาพูดถึง เพราะสังคมไทยได้ตระหนักดีว่าในสังคมเราปัจจุบันนี้ปัญหาการทำแท้ง ยังคงเป็นปัญหาโลกแตกของผู้หญิงจากอดีตจนถึงปัจจุบัน และแนวโน้มปัญหาดังกล่าวในอนาคตจะมีเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย  เพราะบ้านเมืองเราเป็นบ้านเมืองแห่งพุทธศาสนา เมืองที่มีเมตตาธรรม  การทำแท้งจึงเป็นเรื่องยากต่อการยอมรับของคนในสังคมบ้านเรา เพราะส่วนใหญ่เชื่อว่าคนทำแท้งมักเป็นคนไม่ดีไม่ความรับผิดชอบ เป็นคนที่ขาดศีลธรรม แต่ในมุมมองกลับกันสำหรับคนที่เขาต้องทำแท้ง มักอ้างอยู่เสมอว่าตัวมีความจำเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ จึงต้องหาทางออกโดยการทำแท้งซึ่งเป็นทางออกที่ดีสำหรับเขา  จากกรณีศึกษาที่เคยสอบถามถึงความรู้สึกของผู้ที่ผ่านการทำแท้งมาแล้วหลาย ๆ  คน มักมีเหตุผลที่ดีที่สนับสนุนความคิดของตนและในมุมมองนั้นทำให้ฉันทราบดีว่า  สิ่งที่สำคัญที่สุดของวิธีคิดในยามที่เราเผชิญกับอุปสรรคปัญหาต่าง ๆ คืออย่ากังวลว่าอะไรคือสิ่งที่ผิดและถูกมันขึ้นอยู่กับมุมมองของเรา

    และในขณะนั้นคำถามที่เคยสงสัยว่าทำไมหลายคนต้องหาทางออกโดยการทำแท้ง จนกระทั้งได้มาศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจังจนเข้าใจและมีมุมมองเกี่ยวกับเรื่องนี้กว้างขึ้น รู้ดีว่าบาปกรรม แต่นั้นเป็นเรื่องของบาปกรรมที่พวกเขาได้ตัดสินใจเลือกแล้วและพร้อมยอมรับผลแห่งกรรมนั้นด้วยตัวของพวกเขาเอง

  ขณะที่ได้พบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสูตินรีเวช และได้พูดคุยถึงปัญหาดังกล่าวเกี่ยวกับมุมมองของหมอที่มีความรู้ความสามารถทางด้านนี้ ว่าคุณหมอคิดยังไงกับการที่มีคนมาขอให้คุณหมอช่วย เพราะการตัดรอนชีวิตถือเป็นสิ่งที่เลวร้ายน่ารังเกียจ ซึ่งเป็นบาปกรรมแต่คุณหมอกลับตอบว่ามันขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคน เพราะหลายคนที่มาขอความช่วยเหลือจากหมอล้วนแล้วแต่เป็นปัญหาโลกแตกกันทั้งนั้นบางคนทำแท้งเถื่อนมาก่อนแต่เด็กหัวแข็งคือดื้อไม่ยอมออกสักทีพอมาเจอหมอก็พบว่าเด็กกลับได้รับผลกระทบคือความพิการในที่สุดเมื่อมองไปไกลถึงอนาคตหมอก็จำเป็นต้องช่วยอีก เพราะในกฎหมายแม้ไม่ได้เปิดเสรีอย่างในสหรัฐอเมริกา แต่ยังมีกรณีที่แพทย์เห็นแล้วสมควรแก่การทำแท้งได้ เช่น กรณีที่หนึ่งผู้หญิงที่โดนข่มขืนใจมา สองเด็กมีลักษณะผิดปกติ และสามกรณีที่เป็นอันตรายทั้งแม่และลูกได้ทั้งหมดนี้ให้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ได้

  กรณีที่ยังมีลักษณะการตั้งครรภ์ที่ยังเป็นก้อนเลือดอยู่เพราะตั้งครรภ์ได้ไม่กี่วันเอง จึงรีบด่วนตัดสินใจตัดรอนชีวิตดังกล่าวโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสูติ นรีเวช ใช้วิธีการฉีดยาขับเลือดออก แม้การกระทำจะเป็นการตัดรอนชีวิตที่เป็นบาป ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดพลาดที่เลวร้ายที่สุดของชีวิตลูกผู้หญิงแล้ว  ตอนนั้นฉันคิดว่าผู้หญิงทุกคนคงไม่มีทางเลือกไหนที่ดีกว่าทางนี้ เพราะการมาของลูกที่ไม่พร้อมล้วนแล้วนำมาซึ่งปัญหาต่อไปในอนาคตได้  ความรักที่คิดสงสารลูก กลัวว่าลูกจะกลายเป็นปัญหาทางด้านจิตใจของลูก กลัวว่าลูกจะขาดความอบอุ่น  เพราะสาเหตุหลักคือความกลัวบนพื้นฐานของความไม่พร้อมนั้นเองที่เป็นปัญหาสังคม 

จะเห็นได้ว่าคนที่คิดและมองอย่างแตกต่างย่อมมีชีวิตแตกต่างจากคนทั่ว ๆ ไป เช่นเดียวกันบางทีปัญหาเรื่องเดียวกันสำหรับคนทั่วไปที่ประสบปัญหาเช่นเดียวกันเขาอาจจะเลือกตัดสินใจเป็นอย่างอื่นก็ได้ อาจจะไม่คิดตัดรอนชีวิตก็ได้ เรื่องเดียวกันแต่มุมมองต่างกันผลจึงออกมาย่อมต่างกันมีผู้หญิงหลายคนที่มีปัญหาเหมือนกันแต่ก็เลือกทางออกของปัญหาไม่เหมือนกันทั้ง ๆ ที่เป็นเรื่องเดียวกันปัญหาเดียวกัน สิ่งเหล่านี้สะท้อนถึงมุมมองนั้นเอง

คนเราขึ้นชื่อว่าภาพพจน์แล้วก็ล้วนเป็นภาวะที่ต้องแบกหามกันทั้งนั้น เราทนไม่ได้หากคนอื่นจะเห็นความอ่อนแอหรือความเห็นแก่ตัวของเรา ดังนั้นจึงต้องปกป้องตนเองอยู่เสมอ  บ่อยครั้งต้องทุ่มเถียงเป็นวรรคเป็นเวรว่า ฉันไม่ได้ทำ ฉันไม่ได้โกหก ฉันไม่ได้โกรธ ฉันไม่ได้เห็นแก่ตัว ฯลฯ เมื่อมีภาพพจน์ติดว่าเป็นคนดีเสียแล้ว  จึงต้องเสแสร้งทำเป็นคนดี  ทั้งที่ความจริงแล้วในชีวิตจริงทุกคนก็มีความเข้มแข็ง ความอ่อนแอ ความดี  ความไม่ดี คละเคล้ากันไป

ถ้าหลงว่าตนเป็นพระเอกนางเอกเสียแล้ว เราไม่เพียงแต่จะหลอกตนเองเท่านั้นหากยังหลอกผู้อื่นอีกด้วยตอนแรกปกป้องตัวเองด้วยการปกปิดจุดอ่อนจุดเสีย แต่ตอนหลังก็ถึงกับบิดพลิ้วความจริงจนในที่สุดกลายเป็นคนเลวโดยไม่รู้ตัวแปลกที่เรากลับมองไม่เห็นตัวเองว่ามีด้านที่ไม่ดีด้านที่หลอกลวงตัวเองอยู่ แต่เรากลับมองที่มุมดี ๆ ของเราถึงกับบิดพลิ้วความจริงที่ว่าไปในที่สุด เมื่อเราต้องมาแกล้งเป็นคนดีทั้งที่ตัวเองเลว เช่นพ่อค้ายาเสพติดบางคนทำเป็นคนดีทำแต่บุญออกหน้าออกตาทำสร้างวัดสร้างโรงเรียนมอบทุนการศึกษาต่าง ๆ เพื่อสร้างภาพพจน์ที่เป็นคนดีเท่านั้นเอง พยายามสร้างมุมมองที่ดีเพื่อให้คนอื่นและสังคมได้เห็นแต่มุมมองที่ดี ๆ ของตัวเองแค่เพียงด้านเดียว แต่เบื้องหลังคือฆาตกรสังคมดี ๆ นี้เอง 

ในเรื่องของมุมมองแล้วไม่มีอะไรจะช่วยให้เรามีมุมมองที่กว้างขึ้นกว่าเดิมและเข้าใจชีวิตได้มากขึ้นกว่าเดิมเท่ากับการเปลี่ยนที่เรียกว่า Change เพราะการเปลี่ยนเท่านั้นที่เป็นทางออกที่ดีที่สุดของชีวิต เพียงแค่เราปรับเปลี่ยนวิธีคิดเสียใหม่ เปลี่ยนมุมมองเสียใหม่และเรียนรู้ที่จะมองต่างมุม หรือเพิ่มเติมมุมมองให้กว้างขึ้นมากกว่าเดิมโดยไม่ต้องกลัวความจริงไม่ต้องมานั่งหลอกตัวเอง เพราะแท้จริงแล้วทุกชีวิตย่อมผิดพลาดได้เสมอความเป็นคนดีคนเลวมันก็คละเคล้ากันอยู่ในตัวมันเอง ที่สำคัญคือกล้าที่จะยอมรับมันเท่านั่นเองเพราะจะชั่วหรือดีถูกหรือผิดขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคนสำคัญที่ว่าเราจะ Change ความผิดพลาดให้เป็นสิ่งที่ดีงามได้หรือไม่ ?

 

[หมูหวาน]

ชอบการเขียนแนวนี้มากนะคะพี่มณีเทวาเป็นกำลังใจให้นะคะ

[ตะวัน]

ขอบคุณแนวคิดดีๆๆจร้า