ว็บไซต์ Earthsky ตีพิมพ์เรื่อง 'Reindeer see a twilight world in UV light'
= "(กวาง)เรนเดียร์
คนเรามัก จะมีอาการแสบตา ตาพร่าเมื่อต้องไปอยู่กลางหิมะหรือทุ่งน้ำแข็งที่มีแสงจ้า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะตาของคนและสัตว์ส่วนใหญ่ทนต่อรังสีอัลตราไวโอเลต (ultraviolet / UV = รังสีเหนือม่วง มีความถี่สูงกว่าแสงสีม่วง) ไม่ค่อยได้
.
หิมะสะท้อน UV มากถึง 90% ทำให้ปริมาณ UV ในเขตหนาวค่อนข้างสูง ทั้งๆ ที่แสงแดดดูมืดมัว
.
ถ้าไม่ใช้ แว่นกรอง UV อาจทำให้แก้วตา หรือตาดำ (cornea) และเลนซ์ตา (lens) ของคนเราเกิดการอักเสบ บวม เจ็บตา แสบตา และมองไม่เห็นชั่วคราว เรียกว่า โรคตาบอดหิมะ (snow blindness) ได้
.
เขต หนาวแถบใกล้ขั้วโลกจะมีแสงแดดน้อย แสงที่มีเหลืออยู่จะเป็นแสงที่มีความถี่สูง คือ แสงแดดจะดูมืด ออกไปทางสีม่วง-น้ำเงิน (bluer wavelengths) และมี UV ที่ตาคนเรามองไม่เห็น
.
.
ภาพที่ 1: แสดงพื้นที่ที่กวางเรนเดียร์เหลืออยู่ สายพันธุ์อเมริกาแสดงด้วยแถบสีเขียว, สายพันธุ์ยูเรเซีย (ยุโรป+เอเชีย) แสดงด้วยแถบสีแดง [ wikipedia ]
.
.
ศ.เกลน เจฟเฟอรี และทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยคอวเลจ ลอนดอน กล่าวว่า เลนซ์ตาของคนเราปิดกั้น UV ไว้, ไม่ยอมให้ UV ผ่านไปเกือบทั้งหมด
.
กวาง เรนเดียร์แถบใกล้ขั้วโลกเหนือ (Arctic reindeer) มองเห็นภาพจาก UV ได้ โดยจะมองเห็นภาพที่คนหรือสัตว์ส่วนใหญ่เห็น "ขาวพรืด" ไปหมด เป็นโลกใหม่แบบนี้
การมองเห็น ปัสสาวะสีดำ ขนสัตว์สีดำ ทำให้กวางมีโอกาสหนีสัตว์นักล่า (predators) หรือสัตว์กินเนื้อ เช่น หมี หมาป่า ฯลฯ มากขึ้น และหาทางหลบหลีกคู่แข่ง (competitors) เช่น กวางต่างฝูง ฯลฯ
.
การ มองเห็นไลเคนส์ หรือสิ่งมีชีวิตที่มีรากับสาหร่ายสีเขียวรวมกัน ทำให้ทนร้อน-ทนหนาว-ทนแล้งได้ดีมาก เกาะอยู่กับผิวสิ่งอื่น เช่น ก้อนหิน เปลือกต้นไม้ ฯลฯ ได้ดี
.
.
ภาพที่ 2: แสดงกวางเรนเดียร์ที่หลบไปยืนกลางหิมะเพื่อหนียุงและแมลง [ wikipedia ].
ไลเคนส์เป็นอาหารยามยากของเรนเดียร์
.
.
คนเราใช้ UV ในการตรวจสิ่งของมากมาย เช่น ใช้ตรวจธนบัตรหรือแบงก์ว่า ปลอมหรือไม่, ใช้ตรวจหาปัสสาวะหรือน้ำอสุจิ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของกลิ่นเหม็นหมักหมม หรือร่องรอยคดีต่างๆ ได้
.
ถึงตรงนี้... ขอให้ท่านผู้อ่านมีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ
ไม่มีความเห็น