คำเตือน บันทึกนี้มีคำหยาบคาย หากรับไม่ได้โปรดคลิกปิดหน้าต่างนี้
สัปดาห์นี้ผมสอน นศ กลุ่มหนึ่ง ที่แสดงอาการกระตือรือร้นต่อการเรียนค่อนข้างสูง
ดูจากแววตาสดใส ตั้งใจเรียน เราเรียนตั้งแต่บ่ายโมงตรง...
จนกระทั่งเวลาบ่ายสามโมงครึ่งพอดี อาการกระตือรือร้นเริ่มลดลงตามเวลาราชการ
โดยสังเกตุจากระดับของลูกตาดำที่ใกล้ลับหนังตาด้านบน
คล้ายกับอาทิตย์จะลับฟ้ายามเย็น...
ผมตรวจเช็คดูสไลด์ประกอบการบรรยายมีเหลือเพียง 3 - 4 สไลด์เท่านั้น
จึงเรียกขวัญเด็กๆ ให้ตื่นจากภวังค์ และหันมาสนใจกันหน่อยเห้อ
ผมเองยอมรับว่าเนื้อหาวิชาค่อนข้างหนักหนาเอาการ
แต่หากจะลดทอนเนื้อหา ก็คล้ายมาเมืองพิษณุโลก แต่ไม่กราบไหว้พระพุทธชินราชและองค์สมเด็จพระนเรศวร
จะหาเรื่องมาเมาท์มอยเรียกเสียงจากเด็กๆ ก็หมดมุขเสียแล้ว
คิดในใจ เอาวะ เด็กรู้น้อย ดีกว่าไม่รู้ รับได้ก็รับ รับไม่ได้ก็ไม่ว่ากัน (ขอเลียนแบบอาจารย์ยิ่งศักดิ์)
ทันใดนั้นเอง !!!
แบตเตอรี่ของเน็ตบุ้ค เจ้าหมากระเป๋าเพื่อนยากเกิดหมดในบัดดล !!!
ซึ่งก่อนหน้านี้มันเตือนว่าเหลือ 15 % คล้ายๆประท้วงผมว่า ทำงานไม่ไหวแล้วนะ
ภาพที่ลับหายจากหน้าจอโปรเจ็คเตอร์ พร้อมคำที่ผมอุทานว่า "Here เอ้ย !!! อีกนิดเดียว"
ทำให้ นศ ทุกคนตื่นจากภวังค์ และร้องเฮ !!!! กลับบ้านกันเถอะคับ/ค่ะ อาจารย์
ส่วนผมทำได้เพียงปั้นหน้าซ่อนอารมณ์ผิดหวัง
หากท่านทั้งหลายเคยทานไอศครีมรสโปรดด้วยความอร่อยเอร็ด แต่ทำมันตกต่อหน้าทั้งแท่ง
นั่นล่ะครับอารมณ์ผม :'[
ช็อคแรกแบตหมดก่อนพูดจบเนื้อหา แถมเป็นเนื้อหาที่ค่อนข้างสำคัญ
ช็อคสองคือบ้านคือที่หมาย ที่เด็กๆทั้งหลายอยากกลับ ....
ไว้สัปดาห์หน้าผมจะเอาหม้อแปลงมาให้พร้อม
และเชิญแก๊งสามช่ามาสอนนะครับ เผื่อจะเรียกความสนใจจากเด็กๆได้
ต้องเปลี่ยนวิธีสอนแล้วค่ะ ตัวเองเปลี่ยนแล้วและคิดว่าน่าจะเป็นวิธีที่นักศึกษาได้ใช้เวลาในชั่วโมงเรียนอย่างคุ้มค่ากว่าเยอะเลยค่ะ แต่เราเหนื่อยหน่อยกับการเตรียมสอนและการตรวจงานหลังสอน ไว้จะมาเขียนเล่านะคะ ผลที่เห็นทันตาคือไม่มีนักศึกษาหลับเลยตลอดสามชั่วโมง และนักศึกษาดูเหมือนจะพอเล่าได้ด้วยว่าเรียนอะไรไปบ้าง เป้าหมายที่ต้องรู้ รู้หรือเปล่า อาจจะยังจำไม่ได้หมดแต่เขาเข้าใจเค้าโครงแน่ๆค่ะ