ลูกสาวตัวน้อยของพ่อ



เด็กหญิงคนนี้เกิดเมื่อ 35 ปีที่แล้ว กว่าจะได้มา แหมอ้อนวอนพ่อตา 7 ปี ซ้ำยังเจอปัญหามีบุตรยาก ตอนคลอดก็ตัวจ้ำม่ำ แต่ป่วยบ่อยกว่าจะเลี้ยงโตลำบากมาก ที่น่าห่วงคือเด็กคนนี้ไม่ช่างพูด ชอบเก็บตัว ชอบอ่านหนังสือ ผมยิ้มกว้างทุกครั้งที่กลับถึงบ้านเจอเด็กคนนี้ นั่งทำการบ้าน พร้อมพูดประโยคสั้นๆเสียงเบาๆ จะไม่พูดซ้ำคนฟังจะได้ยินหรือไม่ ไม่เคยสน " พ่อหนูสอบได้ที่1 ได้รับรางวัลนักเรียนดีเด่น พ่อไปมั้ยงานโรงเรียน" ผมต้องแกล้งบอกลูกว่า แค่งานเด็กๆน่า ใจจริงผมกลัวลูกอายคนอื่นที่มีพ่อเป็นกรรมกรแบกหามแต่ก็อดภูมิใจไม่ได้ที่ตลอดการศึกษาลูกสาวได้รับทุนตลอด  ผมเรียนจบ ป.4 ความรู้น้อยปวดใจทุกครั้งที่ลูกถามการบ้านภาษาอังกฤษ ผมไม่มีความรู้ผมสอนลูกไม่ได้ จึงบอกเขาเพียงแค่ "คนเราอยากฉลาดต้องขยันอ่านเอง ถ้าพ่อบอกมันง่ายไป เวลาสอบพ่อไม่ได้ไปนั่งบอกข้อสอบนี่นา อ่านเองจะทำให้จำได้แม่นกว่านะ" แต่เขาก็ทำตามขยันอ่านขยันท่อง ผมทำให้เด็กหญิงตัวน้อยของผมเสียใจอย่างแรงเมื่อเราทะเลาะกันเขาไม่ลงมาทานข้าว2วันเต็มๆผมทุกข์ใจมาก ผมเคยสอบได้ทุนเรียนครู แต่ที่บ้านไม่มีเงินส่งเสียผมจึงใฝ่ฝันที่จะให้ลูกเรียน ลูกสาวสอบได้ทุนคุรุทายาท และทุนพยาบาลชนบท แต่เขากลับเลือกพยาบาล ด้วยเหตุผลเพียงเพื่อนขอร้องให้สละสิทธิ์ให้เพื่อนซึ่งได้ลำดับสอง และอาจารย์ขอร้องให้รับทุนพยาบาล เพื่อที่รุ่นน้องจะไม่โดนตัดสิทธิ์ ผมด่าลูกครั้งแรกด้วยความโมโห แต่ผมกลับมานั่งเสียใจเองผมไม่กล้าขอโทษลูก เขาถูกส่งไปเรียนไกลถึงโคราช ลูกไม่เคยห่างผมเลย ผมต้องทำงานหนักเพิ่มขึ้นสองเท่าเพื่อใช่จ่ายเป็นค่ารถให้ลูกได้กลับบ้านทุกอาทิตย์ ในขณะที่เพื่อนๆเขาปีนึงกลับบ้านแค่ครั้งเดียว ปีแรกที่เรียนลูกผอมลงมาก ได้แต่ให้กำลังใจ สิ่งที่ผมบอกเขาได้ขณะนั้นคือ เราควรอยู่กับสิ่งที่เราเลือกอย่างมีความสุข และเคารพในการตัดสินใจของตัวเองและคนอื่น  ขึ้นปีสองลูกโตขึ้นมากผมห่วงประสาพ่อเพราะลูกเริ่มห่างผม ผมจึงต้องสอนเรื่องการระวังการคบเพื่อนชาย การให้เกียรติแฟน การช่วยเหลือกันการไม่เอาเปรียบกัน และการเลือกคนดีมากกว่าคนที่เหมาะสม ผมแอบไปดูลูกเรียนถึงได้ทราบว่าเขาเริ่มฝึกงานที่โรงพยาบาล ซึ่งเขาถูกส่งไปฝึกตึกผู้ชาย นั่นเองเขาถึงกลัวและออกห่างผม ที่ตลกคือลูกผมไม่กินถั่วงอก ซึ่งผมไม่เข้าใจว่าเพราะอะไรแต่เมื่อเขากลับบ้าน ผมก็ไม่ทำผัดถั่วงอกหรืออะไรที่เป็นถั่วงอก....หลายอาทิตย์แล้วลูกสาวต้องออกฝึกต่างอำเภอ การเดินทางไม่สะดวก เขากลับบ้านไม่ได้ ผมส่งจดหมายไปทุกอาทิตย์ แต่เขายังไม่ตอบ...เขากลับบ้าน ใบหน้าเต็มอิ่มลองชุดพยาบาล ที่จะใส่วันรายงานตัวที่จังหวัด และชุดรับปริญญา ผมกลั้นน้ำตาไม่ไหว อีก3เดือนลูกผมจะรับปริญญา เขามาเพื่อให้ผมดูชุดพยาบาล ก่อนที่จะกลับไปโหมฝึกหนักก่อนสอบ ผม..ผมไม่กล้าบอกลูก ผมเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายอยู่ได้คงไม่ถึงวันสำคัญของลูกสาวตัวน้อยของผม ขอพระคุ้มครองให้เขามีแต่ความสุข เจริญก้าวหน้าในอาชีพที่เขาเลือก ผมสั่งแม่เขาไว้อย่าบอกลูกเดี๋ยวลูกจะเสียสมาธิ ถ้าผมอยู่ไม่ถึงวันนั้น บอกเขาด้วยผมรักเขาที่สุด ดวงใจของพ่อ.... นี่เป็นสมุดบันทึกที่ผู้ชายคนนึงเขียนถึงข้าพเจ้าเมื่อ 11ปีที่แล้ว และจดหมายที่เขียนด้วยลายมือสวยที่สุดเท่าที่เคยเห็นคนจบป.4เขียนมา ข้อความที่ย้ำว่าให้ลูกอดทน เรียนหนักแค่ไหนลำบากยังไงให้อดทน เหนื่อยมากไม่ไหวก็กลับบ้านมาหาพ่อกับแม่ แล้วค่อยไปสู้ต่อ จะยังไงก็มีพ่อกับแม่คอยให้กำลังใจ.....ไม่มีรูปพ่อ วันรับปริญญา คนที่เคยบอกว่าจะมาดูแลทำกับข้าวให้ลูกทานเพราะลูกทำกับข้าวไม่เอาไหน ก็ไม่มี เหลือเพียงพยาบาลคนนึงที่ดูแลคนอื่นด้วยเพียงคิดว่านี่คือญาติเรา วันนี้ หนูรู้ว่าพ่อภูมิใจวิกฤติทุกอย่างผ่านเข้ามาแต่ไม่เคยทำให้หัวใจหนูล้มเพราะคำพ่อสอน คำรักที่จะบอกรักพ่อ หนูบอกมันผ่านรอยยิ้มและคำชื่นชมจากคนไข้ พ่อคงได้รับมันและภูมิใจในลูกสาวคนนี้ หนูรักพ่อดังแค่ไหน หนูจะดูแลคนไข้ให้ดีเท่านั้นค่ะ.....จากลูกสาวตัวน้อยๆของพ่อ

คำสำคัญ (Tags): #รักของพ่อ#พ่อ
หมายเลขบันทึก: 510992เขียนเมื่อ 5 ธันวาคม 2012 05:40 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 ธันวาคม 2012 15:30 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

สุขสันต์วันพ่อค่ะ ถึงวันนี้จะไม่มีพ่อ แต่ความรักของพ่อจะอยู่กับเราตลอดไป

อ่านแล้วแอบน้ำตาไหล วันนี้ที่ไม่พ่อเช่นกันคะ พ่ออยู่ในใจของเราตลอดไปคะ พ่อคนดีที่หนึ่งของลูกเสมอมาคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท