ครูเมตตาให้ทบทวนภารกิจที่ครูมอบหมายต่าง ๆ โดยให้เขียนในมุมมอง
3 ประเด็นคือ
1. ทำแล้วเกิดประโยชน์อะไร
2. ได้คุณค่าอะไร
3. ได้เรียนรู้อะไร
และให้เขียนรายละเอียดของภารกิจให้ชัดเจนว่า “ทำอะไร ทำอย่างไรด้วย”
วันนี้จึงขอหยิบภารกิจการทำลูกประคบ
ครูเมตตาเริ่มเกริ่นถามว่าทำได้ไหม รู้สึกจะเริ่มโดยการให้ฝากแม่กุลประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านนำสมุนไพรที่ประกอบด้วย ไพล ขมิ้น ตะไคร้ ใบมะกรูด ใบส้มป่อย ใบมะขาม หรือ สมุนไพรที่ชาวบ้านรู้จักที่สามารถนำมาทำลูกประคบได้ อาทิตย์แรก ดูเหมือคึกครื้น เป็นงานบุญใหญ่ที่ทั้งแม่กุล ทั้งกัลยาณมิตรเก่า ๆ มาช่วยรวมถึงเด็ก ๆต้นกล้าใส ๆ ได้ร่วมเรียนรู้ทั้งสูตรทำลูกประคบ รวมถึงการห่อ แรก ๆ ดูจะยังห่อกันหลวม ๆ รู้สึกว่า
ครั้งนั้นครูเมตตาให้พาเด็ก ๆ นำลูกประคบไปถวายหลวงปู่ ซึ่งท่านเมตตารับแล้วนำไปประคบทันทีเลยค่ะ
ครั้งต่อมา เด็ก ๆ เริ่มห่อได้สวยและแน่นมากขึ้น ครูชี้ให้เอาไปแจกชาวบ้านที่ลานธรรมโดยมีแม่กุลและแม่สำเป็น ธุระดำเนินการ
หนูได้ประโยชน์จากการทำลูกประคบ คือ ได้งัดวิชาที่ ละเลยไปนานแล้ว มาทบทวนและถ่ายทอดให้เด็ก ๆต้นกล้าใส ๆที่มาเรียนกับแม่ครูที่วัด ได้ซึมซับใจที่บริสุทธิ์ของเด็ก ๆ ทำให้จิตใจหนูอ่อนโยนลงเจ้าค่ะ การที่ครูชี้ในนำลูกประคบไปแจกชาวบ้าน มีผู้คนได้ประโยชน์จากลูกประคบหลายคน มีลุงท่านหนึ่งมาขอบคุณด้วยตัวของท่านเองและยินดีที่จะเอาตะไคร้มาให้เป็นวัตถุดิบผลิตต่อ รวมถึงหลัง ๆ มา ครูเมตตาชี้ ให้หนูและเด็ก ได้ประคบให้แม่ออกที่มารักษาศีลแปด
และครูก็เมตตา อยู่เป็นหลักให้กำลังใจหนู และร่วมประคบด้วย วันนี้ใจหนูเบิกบานมากเลยเจ้าค่ะ เหมือนเป็นครั้งแรกที่สัมผัสความบริสุทธิ์ในใจ ที่เป็นความรักอันบริสุทธิ์ที่อยู่รายล้อมครูและตัวหนูเองด้วย
ได้ฝึกทั้งทาน ในการสอนเด็ก ๆ และทานลูกประคบ ทานแรงกาย ฝึกฝนการเสียสละ โดยมีครูเมตตาให้กำลังใจ
คุณค่าที่เกิดขึ้น ใจหนูได้รู้จัก ได้เห็นสิ่งที่หนูรู้ว่ามีแต่ไม่เคยสัมผัสได้คือ ความรักที่บริสุทธิ์ค่ะ เพราะความเมตตาจากครูที่ให้ทำภารกิจและน้องกิ่งที่ทำให้รู้สึก คลิ๊ก ณ วันนั้นเจ้าค่ะ เหมือนเป็นรางวัลใหญ่ที่ใจสัมผัสได้เจ้าค่ะ
หนูได้เรียนรู้ว่า องค์ความรู้ที่มีอยู่ภายใน หรือ องค์ความรู้ที่ร่ำเรียนมา หากเรียนรู้ที่จะนำมาใช้ นำมารับใช้ผู้คน ก็สามารถทำประโยชน์ได้มาก และเป็นการทำเป็นเสียสละ ไม่ได้ทำเพื่อหวังผลกำไรแต่อย่างใด ด้วยเส้นทางแห่งอาชีพ ก่อนหน้านี้ที่ลงมือทำก็จะมุ่งหวังแต่ค่าตอบแทนที่เป็นเงินค่ะ
แต่การเรียนรู้ เดินตามหลังครู ทำให้หนูได้เรียนรู้ ที่จะรู้จัก “ค่าตอบแทนที่ไม่ใช่เงิน”
เป็นสิ่งล้ำค่า ที่ใจเราประจักษ์ได้เอง โดยที่ไม่ต้องรอใครมาบอกว่า
“นี่แหละ คือ คุณค่าที่เกิดขึ้นจากการทำงาน นี่แหละคือ คำว่า ใช่ เจ้าค่ะ”
เขียนเสร็จแล้วรู้สึกดีจังเลยค่ะ เหมือนมีพลังจากการได้ถ่ายทอดเรื่องราวนี้ กราบขอบพระคุณครูที่เมตตาให้โจทย์ได้เรียนรู้และทำความเข้าใจเจ้าค่ะ
ไม่มีความเห็น