ดีใจที่เจอแห้วหมูในไร่ 1 กอใหญ่ เพราะมันขึ้นรวมกันเป็นกลุ่ม แทรกต้นหญ้าปล้องที่สูงเกิน 2 เมตร
นึกในใจว่ามันโตได้โตดี โตเร็วมาก ยิ่งได้ฝนชะ 3 วันที 2 วันครั้งเช่นนี้ด้วยแล้ว ยิ่งงามมากเลย
อีกทั้งนึกเสียดายที่เวลาต้นฝนเราสองคนกลับไม่ว้าง ยิ่งฝนที่ผ่านมาด้วยแล้ว พ่อบ้านเจออุบัติเหตุ
เป็นอันต้องนำรถเข้าอู่ซ่อม นานเกือบ 2 เดือน ทำให้รู้สึกว่าเราพลาดอีก 1 ฝนแล้ว
จะจัดการปลูกพืช หรือไม้ต่างๆ ให้ตรงกับหน้าฝนได้นั้น ซึ่งถือว่าเป็นช่วงนาทีทองทีเดียว
หญ้าจึงขึ้นมาแทนที่หนาตึบ เล่นเอาปวดหัวและกังวลตลอดเวลาว่าจะเจอเจ้าตัวดี มันเลื้อยมาจ๊ะเอ๋ เอา
และกลัวว่าเราจะพลาดไปเหยียบหางมัน เพราะเป็ฯคนกลัวงู กลัวหนู
เลยปรึกษากันว่าจะให้หุ้นส่วนมาร่วมกันพลิกดินกลบหญ้าไว้เป็นปุ๋ย
เราเดินสำรวจและเยี่ยมไม้ป่าที่ตั้งใจปลูกคืนแผ่นดินที่ว่างเปล่ามันกำลังเติบโตอย่างมั่นคง
บริเวณนี้เองได้เจอแห้วหมู จึงหยิบขึ้นมาล้างน้ำใช้ฟันแทะเปลือกบางๆออก เคี้ยวเล่น ...ขมพิลึก
ก็ให้นึกย้อนไปสมัยเป็นเด็กพวกเราจะพากันถอนหญ้าแห้วหมู
แล้วเอามาตากแดดไปส่งให้คุณตา ทำยาหม้อให้คนที่เป็นโรคปวดหัวบ่อยๆ นอนไม่หลับกินไม่ได้
ทุกครั้งที่เราเอาดอกไม้แห้ง และหญ้าแห้วหมูไปส่งคุณตา
คุณยายที่นั่งข้างๆก็จะเรียกไปหาและหยิบห่อผ้าสีแดงสดออกมาคลี่
ในห่อนั้นเต็มไปด้วยเงินแบ๊งค์ 1 บาท ซึ่งซ้อนกันไว้แล้วพับครึ่ง มัดด้วยยางเส้นสีแดง
วางในลิ้นชักที่เรียงไว้ด้วยของส่วนตัว คุณยายไม่ได้ส่งแบ๊งค์ 1 บาทให้
แต่กลับหยิบเหรียญสลึงสีตะกัวดำๆให้ ใส่มือและบอกว่า"เอาไว้ซื้อขนมกินนะหลาน"
ในสมัยนั้นหากเทียบกับสมัยนี้แล้วค่าของเงินต่างกันมาก
ทองคำเมื่อย้อนหลังไปราว 52 หรือ 53 ปีเห็นจะได้ มีราคาบาทละ 400 บาทเท่านั้น
แต่เงิน 400 บาทในสมัยนั้นมีค่ามากกว่าเงิน ที่ต้องไปซื้อทองหนัก 1 บาทในสมัยปัจจุบันนี้
สูตรยาแก้ปวดหัว กินไม่ได้และนอนไม่หลับ ของคุณตานั้นง่ายๆ
เมื่อวานรื้อหนังสือจะเอาไปบริจาคห้องสมุดโรงเรียน และทำการคัดแยกหนังสือไปรีไซด์เคิ้ล
โดยเฉพาะหนังสือที่มีเนื้อหาล้าสมัยไปแล้ว
และได้เจอสมุดบันทึกเล่มใหญ่เป็นตำรายากลางบ้าน ซึ่งต่างจากยาตำราหลวงในสมัยนี้มาก
แต่ก็ยังเห็นว่ายาตำราหลวงในสมัยนี้นั้นก็ยังเอายากลางบ้านมาปรุงใหม่เช่นกันนะ
อย่างข่าวที่ชาวต่างประเทศพากันหยิบสมุนไพรไทยไปทดลองปรุงยาใหม่
แล้วจดลิขสิทธิ์เป็นของตนเองก็มากเหมือนกันนะ เป็นเช่นนี้เพราะเรามักมองข้ามสิ่งที่เรามี
ในหนังสือตำรายากลางบ้านก็มีสูตรยาที่ใช้แห้วหมูอยู่หลายสูตร
แต่จะขอยกเอาสูตรของพระอธิการหน่วง เตชปญโญ
วัดเขาพนมนาง อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี
มาเขียนบันทึกเผยแผ่ ด้วยเจตนารมย์ของผู้บันทึกตัวยานี้ต้องการให้เผยแพร่อยู่แล้ว
อีกทั้งยังเป็นตำหรับยาที่มีส่วนผสมทั้งไทย และเทศดังนี้
ยาแก้โรคกินไม่ได้ นอนไม่หลับท่านให้เอา
นำส่วนผสมทั้ง 4 อย่างใส่รวมลงไปในกระทะตั้งไฟกวนให้เป็นตังเม ปั้นเป็นลูกกลอนขนาดเท่าเมล็ดพุทราไทยใช้รับประทานก่อนนอนทุกคืน มีสรรพคุณเป็นยาบำรุงกำลัง แก้นอนไม่หลับ แก้โรคผอมแห้ง แรงน้อย และเป็นยาอายุวัฒนะอีกด้วย
เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปมาฝาก เพราะแห้วนา กับแห้วหมูนั้นต่างกัน
แห้วนาต้มกินเป็นของเคี้ยวเล่นได้รสชาติมันๆ แต่แห้วหมูจะขม
ไม่มีความเห็น